สรุปความผิดปกติการซื้อขายหุ้น "MORE" พร้อมเผยลำดับเหตุการณ์!

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ให้ข้อมูล กรณีความผิดปกติการซื้อขายหุ้น บมจ. มอร์ รีเทิร์น (MORE) ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน ที่ราคาหุ้น MORE ปรับตัวสูงขึ้นตั้งแต่เปิดตลาด ด้วยมูลค่าการซื้อขายทั้งวันที่สูงมากถึง 7,143 ล้านบาท จากค่าเฉลี่ย 30 วันก่อนหน้าอยู่ที่เพียง 360 ล้านบาท/วัน ทั้งนี้ ในช่วงที่เปิดตลาด พบว่ามีปริมาณการซื้อขายสูงถึง 1,500 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่าประมาณ เกือบ 4,300 ล้านบาท 

ส่วนลักษณะของการส่งคำสั่งซื้อขายที่ผิดปกติ มีดังนี้คือ

- ฝั่งซื้อ พบว่า เป็นการส่งคำสั่งซื้อจากผู้ซื้อเพียง 1 รายผ่านบริษัทสมาชิกหลายแห่งที่ราคา 2.90 บาท

- ฝั่งขาย พบว่า มีการส่งคำสั่งขายเป็นจำนวนมากจากผู้ขายหลายรายที่ระดับราคาใกล้เคียงกับราคาเสนอซื้อ โดยมีจำนวนที่สั่งขายตั้งแต่ประมาณ 70 ล้านหุ้น/ราย ไปจนถึงประมาณ 600 ล้านหุ้น/ราย

ซึ่งทันทีที่เปิดตลาดได้เกิดการจับคู่ซื้อขายกับผู้ขายหลายรายผ่านบริษัทสมาชิกหลายแห่ง หลังจากนั้นภายในไม่ถึง 20 ราคาได้ทยอยปรับตัวลงจนไปต่ำสุดที่ Floor ที่ราคา 1.95 บาท และปิดตลาดที่ราคาดังกล่าว 

ผลกระทบยังคงมีต่อเนื่องในวันต่อมาคือวันที่ 11 พฤศจิกายน โดยหลังเปิดการซื้อขายราคาหลักทรัพย์ MORE เปิดตลาดที่ราคา Floor ในทันที ที่ราคา 1.37 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขายเบาบางหรือลดเหลือเพียง 134 ล้านบาท จากกว่า 7,000 ล้านบาทในวันก่อนหน้า

ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บริษัทสมาชิกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย (ASCO) และตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้มีการทำงานร่วมกันตั้งแต่วันที่แรกที่เกิดความผิดปกติ ในการรวบรวมข้อมูลการซื้อขายหลักทรัพย์ MORE ที่เกิดขึ้นในวันที่ 10 พฤศจิกายนทั้งหมด เพื่อที่จะร่วมกันทำการตรวจสอบธุรกรรมที่ต้องสงสัย ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีธุรกรรมส่วนหนึ่งที่ต้องสงสัย ส่วนธุรกรรมที่ได้ตรวจสอบแล้ว หากไม่พบความผิดปกติ บริษัทสมาชิกก็ได้ดำเนินการจ่ายเงินให้แก่ลูกค้าไปแล้ว 

ขณะที่ธุรกรรมที่พบความผิดปกติ บริษัทสมาชิกจำเป็นที่จะต้องทำการตรวจสอบลูกค้าอย่างเข้มข้น และได้มีการระงับการทำธุรกรรมในบัญชีดังกล่าวของลูกค้าระหว่างที่ทำการตรวจสอบ 

และล่าสุด หลังจากที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้มีการประสานกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อให้เข้ามาทำการสอบสวน ได้มีความคืบหน้าเป็นอย่างดี โดยวานนี้ บริษัทสมาชิกหลายแห่ง ได้ไปดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) แล้ว 

ทั้งนี้ คาดว่าจะสรุปข้อมูลในการตรวจสอบร่วมกับฝ่ายต่างๆ เพื่อดำเนินการในขั้นต่อไปภายในวันศุกร์นี้ 

ที่มาข้อมูล : TNN ONLINE

ที่มาภาพ : TNN