หุ้นไทยปิดลด 9.40 จุด ปรับลงตามทิศทางตลาดหุ้นเอเชีย

SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,619.98 จุด ลดลง 9.40 จุด (-0.58%) มูลค่าการซื้อขาย 61,524.93 ล้านบาท 

นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับลงตามทิศทางตลาดหุ้นเอเชียรับความกังวลมิสไซล์จากรัสเซียตกในโปแลนด์ และแรงขาย sell on fact หลังประกาศงบฯ โดยเฉพาะหุ้นใหญ่ ส่วนแนวโน้มพรุ่งนี้คาดรีบาวด์จากแรงหนุนโอกาสดึงเม็ดเงินลงทุนเข้าหลังประชุมเอเปค ให้แนวต้าน 1,630-1,635 จุด แนวรับ 1,610-1,615 จุด

SET ปิดวันนี้ที่ 1,619.98 จุด ลดลง 9.40 จุด (-0.58%) มูลค่าการซื้อขาย 61,524.93 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นวันนี้แกว่งตัวในแดนบวกตลอดวัน ดัชนีทำระดับสูงสุด 1,629.06 จุด และระดับต่ำสุด 1,616.82 จุด

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 486 หลักทรัพย์ ลดลง 1,208 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 524 หลักทรัพย์

นายชัยพร นิ่มพิทักษ์เจริญ รองกรรมการผู้จัดการสายงานค้าหลักทรัพย์บุคคล บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลดลง ตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง จากความกังวลในเรื่องของมิสไซล์จากรัสเซียตกในโปแลนด์ ทำให้กลับมากังวลความรุนแรงของสงครามรัสเซีย-ยูเครน อีกครั้ง

ขณะเดียวกันยังมีแรงขาย sell on fact หลังจากบริษัทจดทะเบียนต่างทยอยประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/65 ออกมาแล้ว โดยเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่ ทำให้กดดันต่อภาพรวมดัชนีให้เกิดการพักตัวในวันนี้

แนวโน้มตลาดหุ้นไทยพรุ่งนี้คาดรีบาวด์หลังจากปรับลงวันนี้ โดยที่ยังมองปัจจัยบวกในประเทศจากการประชุมเอเปคที่จะสามารถช่วยดึงดูดเม็ดเงินการลงทุนเข้ามาได้ และจะส่งผลบวกต่อตลาดหุ้น แนะติดตามคววามคืบหน้าการสืบสวนมิสไซล์ที่ตกในโปแลนด์ว่าจะออกมาอย่างไร

แนวต้าน 1,630-1,635 จุด แนวรับ 1,610-1,615 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,685.86 ล้านบาท ปิดที่ 188.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท

POLY  มูลค่าการซื้อขาย 2,015.22 ล้านบาท ปิดที่   7.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

GULF  มูลค่าการซื้อขาย 1,925.81 ล้านบาท ปิดที่  50.50 บาท ลดลง  1.50 บาท

PTT   มูลค่าการซื้อขาย 1,898.72 ล้านบาท ปิดที่  33.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

BDMS  มูลค่าการซื้อขาย 1,848.96 ล้านบาท ปิดที่  30.25 บาท ลดลง  1.00 บาท

ภาพจาก AFP