เศรษฐกิจของยุโรปกำลังเผชิญกับภาวะ Stagflation

แม้ภาวะเศรษฐกิจถดถอยอาจไม่ทำให้เงินเฟ้อในยูโรโซนลดลง โดยอัตราในเดือนตุลาคมอยู่ที่ 10.7% สูงกว่าปีก่อนหน้า ขณะที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้เพิ่มอัตราดอกเบี้ยขึ้น 0.75% ในการประชุมครั้งที่สองติดต่อกัน แต่เงินเฟ้อได้มีการกระจายตัวมากขึ้น ไม่ต่างจากสหรัฐ

.

.

ดร.ปิยศักดิ์ มานะสันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยการลงทุน บล.ไทยพาณิชย์ ระบุว่า นักเศรษฐศาสตร์บางกลุ่มยังคงเชื่อว่าเงินเฟ้อในยูโรโซนจะชะลอลงในไม่ช้า เนื่องจากยุโรป ไม่ได้ดำเนินกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่หลังจากการระบาดของ covid-19 แตกต่างจากสหรัฐที่มีการกระตุ้น หมายความว่าอัตราเงินเฟ้อในยุโรปเกิดจากปัญหาอุปทานและราคาพลังงาน แทนที่จะเป็นเศรษฐกิจที่ร้อนแรง ทำให้มาตรการเศรษฐกิจล่าสุดในยุโรปได้พยายามบรรเทาผลกระทบจากราคาพลังงาน ไม่ใช่กระตุ้นการใช้จ่าย

.

.

นอกจากนี้ ตัวชี้วัดความเชื่อมั่นยังชี้ว่า เศรษฐกิจยุโรปกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอย ค่าแรงเพิ่มขึ้นในระดับปานกลาง ราคาพลังงานใน ตลาดค้าส่งในปัจจุบันและอนาคตลดลงจากจุดสูงสุดในช่วงกลางปี ปัญหาคอขวดที่ส่งผลต่อ ทุกอย่างตั้งแต่ไมโครชิปไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์ได้ผ่อนคลายลง 

.

.

อย่างไรก็ตาม ยังคงเป็นไปได้ยากที่เงินเฟ้อยุโรปจะลดลงเร็ว เนื่องจากราคาพลังงานที่ลดลง ต้องใช้เวลาในการเดินทางเข้าสู่ผู้บริโภค ขณะที่รัฐบาลยังคงอุดหนุนราคาพลังงาน แต่จะต้อง ยกเลิกในไม่ช้า โดยในฝรั่งเศสมีอัตราเงินเฟ้อต่ำสุดในกลุ่มที่ 7.1% ในเดือนตุลาคม 

.

.

ส่วนหนึ่งเป็นเพราะรัฐบาลจำกัดราคาก๊าซและไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม ในปี 2023 ราคาจะถูกปรับเพิ่มขึ้น 15% บวกกับอัตราเงินเฟ้อ ในเยอรมนีหลายครัวเรือนมีสัญญาระยะยาวที่ค่อย ๆ ต่ออายุ เพื่อสะท้อนราคาที่สูงขึ้น

.

.

ติดตามข่าวหุ้นและการลงทุนทางไลน์

• Line @TNNWEALTH : https://bit.ly/3tCKmiD

———————————————————————

ติดตาม TNN Wealth ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่ 

• Website : https://bit.ly/TNNWealthWebsite

• Youtube : https://bit.ly/TNNWealthYoutube

• TikTok : https://bit.ly/TNNWealthTikTok

 

หรือดูรายการ Live ได้ทาง https://bit.ly/3HmUu4O