TNN online "ศักดิ์สยาม"สั่งทอท.รับมือผู้โดยสารรีเทิร์น 2แสนคนต่อวัน

TNN ONLINE

Wealth

"ศักดิ์สยาม"สั่งทอท.รับมือผู้โดยสารรีเทิร์น 2แสนคนต่อวัน

 ศักดิ์สยามสั่งทอท.รับมือผู้โดยสารรีเทิร์น 2แสนคนต่อวัน

“ศักดิ์สยาม”มองปีหน้าผู้โดยสารสุวรรณภูมิรีเทิร์น 2 แสนคนต่อวัน สั่งทอท.เร่งเปิดอาคาร SAT-1 กลางปี พร้อมทำจุดตรวจคนเข้าเมืองชั่วคราวลดแออัดอาคารหลัก ขณะที่ส่วนขยายอาคารด้านตะวันออกปรับแบบใหม่ คาดเปิดประมูลเม.ย. 66


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า   ผู้โดยสารสนามบินสุวรรณภูมิโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 1- 1.2 แสนคนต่อวัน แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 87,000 คน ผู้โดยสารภายในประเทศประมาณ 30,000 คนต่อวัน ขณะที่ก่อนเกิดโควิด-19 สุวรรณภูมิเคยมีผู้โดยสารสูงสุดถึง 2 แสนคนต่อวัน ซึ่งเกินขีดความสามารถรองรับ และขณะนี้ถือว่าการเดินทางฟื้นตัวผู้โดยสารมีแนวโน้มโตก้าวกระโดด และคาดว่า ปี 2566 จะกลับมามีจำนวนเท่ากับช่วงก่อนโควิด หรือมากกว่า 40 ล้านคน


โดยตัวเลขที่ สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ หรือ ไออาตา (IATA) เป็นการประเมินจะดูตามที่สายการบินจะปรับเพิ่มการบริการ ที่อาจต้องใช้เวลา หลังจากที่สายการบินมีการปรับลดขนาดตัวเองลงในช่วงสถานการณ์โควิด แต่ปัจจุบันการเติบโตของเที่ยวบินและผู้โดยสารเพิ่มเร็วมาก 


ซึ่งล่าสุดได้พบกับประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) แจ้งว่า ทางประเทศญี่ปุ่นต้องการเพิ่ม SLOT นอกจากนี้ทางประเทศจีน ส่งสัญญาณในการเปิดประเทศในปี 2566 ซึ่งก็ต้องเตรียมความพร้อม โดยเฉพาะการบริการแบบเต็มประสิทธิภาพทั้งการจัดการ SLOT พื้นที่บริการ ไม่เช่นนั้นจะไม่ทันการณ์


ส่วนอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT-1) รองรับผู้โดยสาร 15 ล้านคนต่อปี กำหนดเปิดปลายปี 2566 ซึ่งขณะนี้ภาพรวมการก่อสร้างเกือบเสร็จหมดแล้ว จึงให้ทอท. เร่งรัดแผนเปิดให้บริการเร็วขึ้น อาจเป็นช่วงประมาณกลางปี 2566 เพื่อรองรับ จำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น


 ทั้งนี้ SAT-1 เป็นพื้นที่สำหรับเทียบเครื่องบินแต่ไม่มีจุดตรวจคนเข้าเมือง ดังนั้นผู้โดยสารจะต้องเข้ามาแออัด ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ในอาคารหลัก จึงได้ให้นโยบายทอท.ไปศึกษา จัดทำจุดตรวจคนเข้าเมืองชั่วคราว เพื่อลดคอขวด ตม.ในอาคารหลัก และการทำพื้นที่อาคารผู้โดยสารพร้อมจุดตรวจค้นเพิ่มเติม


“ปัจจุบัน ปริมาณการเดินทางที่เพิ่มขึ้นเป็นสัญญาณการฟื้นตัวของเครื่องจักรทางเศรษฐกิจสำคัญ จากเดิมที่ช่วงโควิด มีเพียงการลงทุนภาครัฐ แต่ตอนนี้การท่องเที่ยว การลงทุน กำลังกลับมา ประเทศไทยพร้อมจะขับเคลื่อนได้อย่างเต็มที่”


ด้านนายกีรติ กิจมานะวัฒน์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (สายงานวิศวกรรมและการก่อสร้าง) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด หรือ ทอท. กล่าวถึงความคืบหน้า ขยายอาคารผู้โดยสารหลักด้านทิศตะวันออก (East Expansion) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ว่า ขณะนี้ ทอท.อยู่ระหว่างการปรับแบบก่อสร้างและปรับวงเงินค่าก่อสร้างให้เป็นปัจจุบัน 


สอดคล้องกับต้นทุน ทั้งราคาน้ำมัน อัตราแลกเปลี่ยน ดัชนีผู้บริโภค และการปรับเพิ่มในส่วนของเทคโนโลยีที่จะนำมาให้บริการผู้โดยสารให้ได้รับความสะดวกรวดเร็วมากขึ้น มีการใช้ AUTO CHANNELมากขึ้น มีบริการผู้โดยสารกรุ๊ปทัวร์ เพื่อลดความแออัดมากขึ้น รวมถึง ติดตั้งระบบ Early Check- In และ Common Check- In โดยการปรับแบบจะแล้วเสร็จปลายปี 2565 และเข้าสู่ขั้นตอนการประกวดราคาหาผู้รับจ้างต้นปี 2566


ทั้งนี้ ตามมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) งานส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออก (East Expansion) รองรับผู้โดยสาร 15 ล้านคนต่อปี วงเงินลงทุน 7,830 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยประเมิน กรอบวงเงินใหม่ เบื้องต้นคาดว่า จะอยู่ที่ประมาณ 10,000 ล้านบาทเศษ หรือปรับขึ้นประมาณ 20%


 โดยหลังปรับปรุงแบบเสร็จ จะนำเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท.อนุมัติ และนำเสนอสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รับทราบและนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบการปรับแบบ และการปรับกรอบวงเงินค่าก่อสร้างใหม่ ซึ่งไม่เกินจากกรอบรวมการพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิระยะที่ 2 ที่ ครม. อนุมัติวงเงินที่ 6.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งขณะนี้ยังเหลืออยู่ประมาณ 2 หมื่นล้านบาท


สำหรับ แนวทางการปรับแบบก่อสร้างอาคารผู้โดยสารส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออกเพื่อให้สอดคล้องกับบริบททางการบินในปัจจุบัน ใช้ระยะเวลา 7 เดือน แล้วเสร็จประมาณเดือนธันวาคม 2565 และ คาดว่าจะนำเสนอบอร์ด ทอท.และ ครม. ได้ช่วงเดือนมกราคม 2565-มีนาคม 2566 และ เปิดประมูลจัดหาผู้รับจ้างช่วงเดือนเมษายน 2566-กรกฎาคม 2566 และเริ่มก่อสร้างในเดือนสิงหาคม 2566-ธันวาคม 2568 ใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 29 เดือน แล้วเสร็จในเดือนธันวาคม 2568


ที่มา ทอท.

ภาพประกอบ ทอท.

ข่าวแนะนำ