หุ้นยังผันผวน! แนะเพิ่มน้ำหนัก "ตราสารหนี้" คาดปีหน้าผลตอบแทนพุ่ง

สัญญาณเงินเฟ้อและดอกเบี้ยได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว แต่ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้มองว่า การลงทุนในหุ้นยังมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ควรหันมาให้น้ำหนักลงทุนในตราสารหนี้แทน
นายคมศร ประกอบผล หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ ให้มุมมองต่อการลงทุนในปีหน้าว่า จะยังคงอยู่ในโหมดของนโยบายการเงินที่ยังเข้มงวด เพราะดอกเบี้ยยังอยู่ในทิศทางขาขึ้น แต่ก็ถือว่าใกล้จุดสูงสุดแล้ว เพราะคาดว่าธนาคารกลางส่วนใหญ่ น่าจะหยุดขึ้นดอกเบี้ยในช่วงครึ่งปีแรกเพื่อดูสถานการณ์ก่อน
ส่วนเงินเฟ้อ คาดว่าได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว และจะเริ่มลดลงชัดเจนในช่วงครึ่งหลังของปีหน้า แต่อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อในเศรษฐกิจส่วนใหญ่ยังน่าจะทรงตัวอยู่เกินกว่าระดับเป้าหมายของธนาคารกลาง ซึ่งทำให้ธนาคารกลางยังต้องคงดอกเบี้ยสูงและไม่สามารถกลับมาลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจได้
และผลจากการที่เงินเฟ้อยังทรงตัวในระดับสูง และกดดันการบริโภค รวมไปถึงผลของการขึ้นดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วในปีนี้ จะเป็นปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงให้เศรษฐกิจโลก มีแนวโน้มชะลอลงต่อ
ซึ่งในภาวะเช่นนี้ ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้จึงมองว่า ตลาดตราสารหนี้ โดยเฉพาะพันธบัตรสหรัฐฯ น่าจะเป็นทางเลือกลงทุนที่จะให้ผลตอบแทนดีกว่าตลาดหุ้น ในขณะที่ความเสี่ยงยังต่ำกว่ามาก
ในขณะที่มุมมองต่อตลาดหุ้น แม้จะปรับฐานลงมามากกว่าร้อยละ 20 จากจุดสูงสุดแล้ว แต่มูลค่าหุ้นก็ยังไม่นับว่าถูกมากนัก เพราะค่า P/E ของดัชนี S&P 500 ในปัจจุบันที่ราว 15 เท่า นับว่ายังสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดในช่วงปี 2003 - 2014 ที่ 14 เท่า
ดังนั้น เชื่อว่าขาลงของตลาดหุ้นยังไม่สิ้นสุด ขณะที่ตราสารหนี้มีความน่าสนใจลงทุนมากขึ้น จากอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรที่ยืนสูงร้อยละ 4 สูงสุดในรอบกว่า 10 ปี ทิสโก้จึงแนะนำให้นักลงทุน ปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุน (Overweight) ในตราสารหนี้ ซึ่งให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่ากว่าเมื่อเทียบกับความเสี่ยง
ที่มาข้อมูล : TNN ONLINE
ที่มาภาพ : TNN