TNN online แบงก์อู้ฟู่ 9 เดือนฟันกำไรทะลัก 1.59 แสนล้านบาท ตัวไหนน่าลงทุนต่อ !

TNN ONLINE

Wealth

แบงก์อู้ฟู่ 9 เดือนฟันกำไรทะลัก 1.59 แสนล้านบาท ตัวไหนน่าลงทุนต่อ !

แบงก์อู้ฟู่ 9 เดือนฟันกำไรทะลัก 1.59  แสนล้านบาท ตัวไหนน่าลงทุนต่อ !

แบงก์ยิ้มร่าประกาศงบไตรมาส 3/65 กำไรพุ่ง 5.4 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.89% งวด 9 เดือน โกยไปกว่า 1.5 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.57% หลังรายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นอานิสงส์จากเศรษฐกิจ เริ่มฟื้นตัว-ตั้งสำรองหนี้ลดลง ตัวไหนน่าลงทุนต่อ !

ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับการประกาศงบธนาคารพาณิชย์ไตรมาส 3/65 ของธนาคารพาณิชย์ 10 แห่งฟันกำไรสุทธิ  54,533.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.89% หากเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 42,640.93 ล้านบาท ส่วนงวด 9 เดือนแรกของปี 65 มีกำไรสุทธิรวม 159,609.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.57% หากเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 140,536.70 ล้านบาท    โดยธนาคารส่วนใหญ่มีรายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว และตั้งสำรองหนี้จัดชั้นลดลง  ซึ่งแบงก์ใหญ่-แบงก์กลางโตโดดเด่น 


ธนาคารกรุงเทพ  หรือ BBL มีกำไรสุทธิไตรมาส 3/65 อยู่ที่ 7,656.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.82% หากเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 6,909.20 ล้านบาท เป็นผลจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่จากปริมาณเงินให้สินเชื่อที่ขยายตัว ประกอบกับค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานลดลง


งวด 9 เดือนปี 2565 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 21,736.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.7 % เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไร

สุทธิ 20,189.07 ล้านบาท

 

 ธนาคารกรุงไทย หรือ KTB  ผลประกอบการไตรมาส 3/65 กำไรสุทธิอยู่ที่ 8,449.82 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 67.16% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 5,054.98 ล้านบาท จากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ และรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิที่เพิ่มขึ้น


งวด 9 เดือนปี 2565 บริษัทสามารถทำกำไรสุทธิ 25,588.55 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53.74% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 16,644.45 ล้านบาท 


ธนาคารกสิกรไทย หรือ KBANK มีกำไรสุทธิไตรมาส 3/2565 อยู่ที่ 10,573.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น22.51% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 8,630.61 ล้านบาท เนื่องจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่มาจากรายได้ดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อ


งวด 9 เดือนปี 2565 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 32,578.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.72% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 28,151.55 ล้านบาท


บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB  ผลประกอบการไตรมาส 3/ 65 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 10,308.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.93% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 8,815. 74 ลำนบาท  เนื่องจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิและการตั้งเงินสำรองที่ลดลง


ขณะที่งวด 9 เดือนปี 2565 บริษัทสามารถทำกำไรสุทธิอยู่ที่ 30,403.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.68% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 27,718.08 ล้านบาท


ธนาคารกรุงศรีอยุธยา   หรือ BAY  กำไรสุทธิไตรมาส 3/ 65 อยู่ที่ 8,069.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.85 % เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 6,361.56 ล้านบาท โดยมีปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ สอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของเงินให้สินเชื่อ รวมถึงการเพิ่มขึ้นของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย และผลขาดทุนด้านเครดิดที่คาดว่าจะเกิดขึ้นลดลง


สำหรับงวด 9 เดือนปี  65 บริษัทสามารถทำกำไรสุทธิอยู่ที่ 23,321.63 ล้านบาท ลดลง 14.91% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 27,409.21 ล้านบาท


บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO  ประกาศงบไตรมาส 3/2565 มีกำไรสุทธิอยู่ที่  1,771.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.52% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 1,560.30 ล้านบาท มาจากรายสุทธิและรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น รวมถึงค่าใช้จายผลขาดทนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นลดลง


ขณะที่งวด 9 เดือนปี 2565 บริษัทสามารถทำกำไรสุทธิอยู่ที่ 5, 415.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.52% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 4,990.01 ล้านบาท


 ธนาคารทหารไทยธนชาต หรือ TTB ผลประกอบการไตรมาส 3/65 มีกำไรสุทธิอยู่ที่3,714.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57.49% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 2,358.65 ล้านบาท โดยรายได้ดอกเบี้ยปรับตัวดีขึ้นส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ย (NIM) เพิ่มสูงขึ้น ส่วนคุณภาพสินทรัพย์ยังคงบริหารจัดการได้ ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการการตั้งสำรองลดด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นลดลง


ส่วนงวด 9 เดือนปี  65  กำไรสุทธิอยู่ที่ 10,347.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.83% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของก่อนมีกำไรสุทธิ 7,674.71 ล้านบาท


ธนาคารเกียรตินาคินภัทร หรือ KKP  กำไรสุทธิไตรมาส 3/65 อยู่ที่ 2,803.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40.98% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิ 1,477.77 ล้านบาท จากการปรับเพิ่มขึ้นทั้งในส่วนของรายได้ดอกเบี้ยและรายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจการให้สินเชื่อตามการขยายตัวของสินเชื่อที่ยังคงเติบดตต่อเนื่อง 


งวด 9 เดือนปี 2565 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 6,172.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43.71% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 4,294.71 ล้านบาท 


ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย หรือ CIMBT ผลประกอบการไตรมาส 3/2565 อยู่ที่ 695.97 ล้านบาท ลดลง  7.62% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 753.38 ล้านบาท เนื่องจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิลดลง  นอกจากนี้มีค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น


ขณะที่งวด 9 เดือนปี 2565 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,811.48 ล้านบาท พิ่มขึ้น 64.59% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 1,708.15 ล้านบาท


ปิดท้ายที่บริษัทแอลเอชไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)   หรือ LHFG  ไตรมาส 3/2565 กำไรสุทธิอยู่ที่ 489.03 ล้านบาท ลดลง 31.96% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 718.74 ล้านบาท โดยสาเหตุมาจากรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยสุทธิลดลง และค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 


ส่วนงวด 9 เดือนปี 65 บริษัทสามารถทำกำไรสุทธิอยู่ที่1,234  ล้านบาท ลดลง 29.75% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสทธิ 1,756.76 ล้านบาท



บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) แนะนำ  BBL เป็นธนาคารใหญ่ที่มีความเสี่ยงเรื่องหนี้เสียต่ำ  และมีการเตรียมพร้อมในแง่ของการตั้งสำรองไว้มาก ท าให้แรงกดดันที่จะต้องตั้งสำ  รองในช่วงที่เหลือของปี 2565 และในปี 2566 ไม่สูงเท่ากับธนาคารใหญ่รายอื่น ขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายด้วย PBV ต่ำเพียง 0.5x และมี Upside 15.4% จากมูลค่าพื้นฐานเดิมปี 2566 ที่ 165 บาท อีกทั้งคาดให้เงินปันผลจากกำไร 2H65 อีกหุ้นละ 3 บาท คิดเป็น Div.Yield 2.1% จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”


หุ้นเด่นตัวต่อมาคือ  TTB  ราคาหุ้นซื้อขายด้วย PBV ต่ำ ขณะที่ผลดำเนินงานคาดจะเริ่มแข็งแรงขึ้น  เรามองว่าแนวโน้มธุรกิจของ TTB กำลังอยู่ในทิศทางฟื้นตัวขึ้น และเริ่มเห็นผลจากการที่บริษัทปรับพอร์ตมา เน้นสินเชื่อกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนสูงมากขึ้น อีกทั้งคาด 4Q65 จะเห็นการฟื้นตัวของพอร์ตสินเชื่อที่ดีขึ้นตาม เศรษฐกิจในประเทศที่ฟื้นตัว ขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายด้วย PBV ที่ต่ำเพียง 0.56x และมี Upside 21.8% จากมูลค่าพื้นฐานใหม่ปี 2565 ที่ 1.56 บาท (อิง Prospective PBV ที่ 0.66x) จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”  


บล.พาย ระบุว่า เรายังคงเลือก BBL เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มธนาคาร ด้วยคำแนะนำ “ซื้อ” ราคา เป้าหมายที่ 164 บาท ธนาคารจะรักษาทิศทางการเติบโตที่มั่นคงได้ ท่ามกลางความท้าทายทางการเงินในตลาดโลก ด้วยแรงหนุนจากงบดุลที่ แข็งแกร่ง สภาพคล่องที่เพียงพอ และโอกาสได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น ขณะท่ียังมีมูลค่าหุ้นไม่แพง ทั้งนี้กำไรไตรมาส 3/22 ออกมาอยู่ที่ 7.7 พันล้านบาท (+11% YoY, +10% QoQ) ด้วยงบดุลที่ยืดหยุ่นดี 


บล. ฟิลลิป (ประเทศไทย)    ระบุว่า KKP  ยังคงเป็นธนาคารที่มีสินเชื่อเติบโตโดดเด่นที่สุดในปี 65 ในขณะที่ยัง สามารถควบคุมระดับ NPL ไว้ได้ดี และยังมีความโดดเด่นทางด้าน ธุรกิจตลาดทุน โดยใน 4Q65 จะมีดีล IPO ขนำดใหญ่ต่อเนื่องจาก 3Q65 ที่มีการรับรู้รายได้จำก IPO ของ TLI ไปแล้ว นอกจากนี้ยังมีปั น ผลที่น่าสนใจด้วย  ฝ่ายวิจัยได้ปรับไปใช้ราคาพื้นฐานปี 66 ที่ 86  ยังคงแนะนำ “ซื้อ” 


หุ้นตัวต่อมาคือ  BAY กำไร 3Q65 เป็นไปตามคาด โดยยังคงเห็นการเติบโตของรายได้จากธุรกิจปกติทั้งรายได้ดอกเบี้ย  ค่าธรรมเนียม แต่กำไรทั้งปีจะลดลงจากปีก่อน   เนื่องจากมีกำไรพิเศษจากการขายหุ้น  TIDLOR โดยยังคงเป็นความได้เปรียบจากการเป็นบริษัทลูกของธนาคารขนาดใหญ่ของญี่ปุ่น  จากที่สินเชื่อรายใหญ่จากธุรกิจญี่ปุ่นยังโตต่อเนื่อง  คงราคาพื้้นฐานไว้ที่ 39.50  บาท แนะนำ  “ซื้อ” 

 


ที่มา  ตลาดหลักทรัพย์ฯ บล.หยวนต้า ,บล.พาย  ,บล. ฟิลลิป (ประเทศไทย)  

ภาพประกอบ  พิกซาเบย์


ข่าวแนะนำ