ราคาทองคำร่วงไม่แรง ! แม้เงินเฟ้อสหรัฐฯทะยานเพราะสาเหตุใด

นายวรุต รุ่งขํา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จํากัด เปิดเผยถึงทิศทางราคาทองคำในสัปดาห์หน้ากับ TNNONLINE ว่า  ปรับตัวลง หลังจากเงินเฟ้อเดือนก.ย.ของสหรัฐฯอยู่ที่ 8.2% สูงกว่าตลาดคาด 8.1% หนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดขึ้นดอกเบี้ยกดราคาทองคำร่วงแต่เชื่อว่าลงไม่นาน เนื่องจากยังมีปัจจัยต่างประเทศที่ยังหนุนราคาทองคำ ทั้งในเรื่องของสถานการณ์ตึงเครียดรัสเซีย-ยูเครนที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น หลังรัสเซียยิงขีปนาวุธถล่มกองทหารยูเครนและเกิดพลาดเป้า

ทำให้ประชาชนเสียชีวิต  ซึ่งกลุ่มจี 7 ประนาฌรัสเซีย  ดังนั้นต้องดูว่าจะมีมาตรการคว่ำบาตรหรือไม่ 

ขณะที่นายโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน วอนขอความช่วยเหลือทางการทหารเพิ่มเติม และเรียกร้องให้ดำเนินมาตรการคว่ำบาตรที่เข้มงวดยิ่งขึ้นต่อรัสเซีย ทั้งนี้หากสถานการณ์ยืดเยื้อจะเป็นปัจจัยหนุนทองคำ

นอกจากนี้ยังมีปมสงครามทางการค้าสหรัฐฯ-จีนที่เริ่มรุนแรงหลังสหรัฐฯจำกัดการส่งออกชิ้นส่วน  Semiconductor -ชิปไปจีน รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน และควบคุมการแพร่ระบาดโควิด ซึ่งหากจีนล็อกดาวน์ประเทศสักดโควิดอีกระลอกทำให้ค่าเงินหยวนอ่อนค่าลง ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่ารวมถึงการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์ของจีนว่า หลังนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นสมัยที่ 3 มีมุมมองต่อแนวทางการปฏิรูปเศรษฐกิจจีนอย่างไร เพื่อดึงความเชื่อมั่นหากเงินหยวนแข็งค่าก็จะทำให้ราคา

ทองคำดีดปรับตัวขึ้น

ทั้งนี้ประเมินกรอบแนวรับที่ 1,647 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ราคาทองคำแท่งอยู่ที่ 29,800 บาท แนวรับถัดไปที่ 1,631  ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ราคาทองคำแท่งอยู่ที่ 29,500 บาท แนวรับต่อมาที่   1,614 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ราคาทองคำแท่งอยู่ที่ 29,800 บาท  ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดของเดือนก.ย.ที่ผ่านมาและปีนี้  ทั้งนี้หากหลุดแนวรับสุดท้ายให้Stop Loss ทันที

ส่วนแนวต้านแรกที่ 1,688  ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ราคาทองคำแท่งอยู่ที่ 30,550 บาทแนวรับถัดมาที่  1,711 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ราคาทองคำแท่งอยู่ที่ 30,950 บาท

แนวรับสุดท้ายที่ 1,735ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ราคาทองคำแท่งอยู่ที่ 31,400 บาท 

อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมากองทุนการเงินระหว่างประเทศคาดเศรษฐกิจโลกแย่แต่ไม่ได้ทำให้ทองคำปรับตัวขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ แข็งแกร่ง ขณะที่จีน ญี่ปุ่น

และยุโรปยังอยู่ช่วงฟื้นตัวทำให้นักลงทุนหันไปถือครองดอลลาร์สหรัฐเพิ่มหนุนดอลลาร์แข็งค่า

"เชื่อว่าในอนาคตหากเศรษฐกิจสหรัฐฯดีต่อเนื่อง แต่เศรษฐกิจโลกแย่เชื่อว่าสหรัฐฯก็ต้องแย่ตามและกดให้ดอลลาร์อ่อนค่า ดังนั้นหากราคาทองลงเป็นช่วงจังหวะทยอย

สะสม  แต่ถ้าราคาดีดปรับตัวขึ้นก็ควรขายทำกำไรออกมาบางส่วนก่อน" 

ที่มา นายวรุต รุ่งขํา  

ภาพประกอบ วายแอลจี