ราคาน้ำมันผ่านจุดสูงสุดแล้วหรือยัง?

ราคาน้ำมันกับเงินเฟ้อมีความสัมพันธ์กันอย่างมีนัยสำคัญ ปัจจุบันเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่เริ่มชะลอตัวลงเมื่อเดือน ก.ค.และเงินเฟ้อพื้นฐานสหรัฐฯ ปรับตัวลงมาตั้งแต่ เดือน เม.ย.ที่ผ่านมาหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟดเริ่มต้นการขึ้นดอกเบี้ยเมื่อเดือน มี.ค.

.

.

บล.พาย ออกบทวิเคราะห์ระบุว่า หากย้อนกลับไปช่วงปี 2008 จะเห็นได้ว่าวิกฤติการเงินซัพไพรม์ส่งผลให้เงินฝืดชั่วคราวประกอบกับราคาน้ำมันปรับตัวลงสอดคล้องต่อกัน นอกจากนี้เมื่อ ปี 2014 ราคาน้ำมันลงกว่า 70% โดยตลาดน้ำมันช่วงปี 2014 เผชิญปัญหาอุปทานส่วนเกิน เนื่องจากการการผลิตน้ำมันที่ชั้นหินดินดานเร่งตัวขึ้น ซึ่งเงินเฟ้อก็ปรับตัวลงเช่นกัน และครั้งล่าสุดในปี 2020 การระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่นำไปสู่การ ล็อกดาวน์ และกิจกรรมต่างๆ ทั่วโลกหยุดชะงัก เช่นเดียวกับเงินเฟ้อปรับตัวลง 

.

.

ที่น่าสนใจคือราคาน้ำมันปรับฐานได้แค่ไหน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าหากราคา น้ำมัน WTI ลงมาลึกกว่า 75US$/bbl จะทำให้ Credit spread เพิ่มแล้วนำไปสู่ ความเสี่ยง Default เพิ่มขึ้น เนื่องจากหลายๆ บริษัทน้ำมันกู้มาลงทุนนั่นเอง

.

.

ราคาน้ำมันมีปัจจัยหนุน ราคาที่ลงมาลึกนับจาก Peak (-34%) พร้อมกันนี้ตลาดคาดว่าราคาพลังงานไตรมาส 4 จะปรับขึ้นท่ามกลางปัญหาการขาดแคลนพลังงาน ในยุโรป และอากาศที่หนาวเหน็บในซีกโลกตะวันตก 

.

.

ทั้งนี้ บล.พายคาดว่าการที่สหรัฐฯ จะควบคุมเพดานน้ำมันของรัสเซียภายในสิ้นปีนี้ อาจไม่ทำให้ราคาน้ำมันลงมากนัก เนื่องจากอีกฝั่งอย่างเช่น OPEC+ พยายามปรับลดกำลังการผลิตเพื่อควบคุมราคาน้ำมัน ทั้งนี้ ปัจจัยคล้อยตามกันอย่างเงินเฟ้อซึ่งประเด็นนี้เป็นปัจจัยที่น่าติดตาม โดยหากเงินเฟ้อ ชะลอตัวลงต่อเนื่องก็อาจส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับฐานระยะข้างหน้า

.

.

ติดตามข่าวหุ้นและการลงทุนทางไลน์

• Line @TNNWEALTH : https://bit.ly/3tCKmiD

———————————————————————

ติดตาม TNN Wealth ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่ 

• Website : https://bit.ly/TNNWealthWebsite

• Youtube : https://bit.ly/TNNWealthYoutube

• TikTok : https://bit.ly/TNNWealthTikTok

 

หรือดูรายการ Live ได้ทาง https://bit.ly/3HmUu4O