PROPERTY SECTOR ถึงไม่ซิ่ง...แต่ก็มีดีที่ Valuation
PROPERTY SECTOR ถึงไม่ซิ่ง...แต่ก็มีดีที่ Valuation กำไร 2Q65 ของหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรพัย์เติบโต 17% QoQ และ 18% YoY… 1H65 คิดเป็น 48.0% ของทั้งปี
บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) ออกบทวิเคราะห์ระบุว่า 11 บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ใน Coverage รายงานกำไรสุทธิใน 2Q65 เพิ่มขึ้น 17.0% QoQ และ 17.5% YoY เป็น 9.3 พันลบ. มีสาเหตุหลัก มาจากยอดโอนกรรมสิทธิ์รวมที่เพิ่มขึ้น 7.5% QoQ และ 2.1% YoY เป็น 4.5 หมื่นลบ.
.
.
แบ่งเป็นโครงการแนวราบ (สัดส่วน 77.4%) ที่ 3.5 หมื่นลบ.(+9.5% QoQ +7.7% YoY) และโครงการแนว สูงที่1.0 หมื่นลบ. (+8.2% QoQ, -13.4% YoY) รวมทั้งในช่วง 2Q65 มีการรับรู้กำไรพิเศษเข้ามาค่อนข้างมาก เช่น JV Share Premium และกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน
.
.
โดยบริษัทส่วนใหญ่รายงานกำไรสุทธิใกล้เคียงกับคาดการณ์ ยกเว้น ORI และ SPALI ที่รายงานกำไรสูงกว่าที่คาด
.
.
ทั้งนี้ ในช่วง 2Q65 มี 2 บริษัทคือ ORI และ BRI ที่มีกำไรสุทธิทำจุดสูงสุดรายไตรมาสอยู่ที่ 1.2 พันลบ. และ 376 ลบ. ตามลำดับ นอกจากนี้ ภาพรวมกำไรสุทธิของกลุ่มในช่วง 1H65 อยู่ที่1.7 หมื่นลบ. (+14.1% YoY) และคิดเป็น 48.0% เมื่อเทียบกับประมาณการทั้งปี แนวโน้มกำไรปกติ 2H65 เติบโตทั้ง HoH และ YoY
.
.
ทั้งนี้ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) คาดว่าผลประกอบการปกติของกลุ่มใน 2H65 จะเติบโตทั้ง HoH และ YoY หนุนจากแผนเปิดโครงการใหม่รวม มูลค่า 2.0 แสนลบ. (+65.4% HoH, +149.9% YoY) แบ่งเป็น โครงการแนวราบที่ 1.5 แสนลบ. (+106.4% HoH, +143.6% YoY) โดยบริษัทที่มีสัดส่วน Launch/Sales สูงที่สุด 3 อันดับแรกเรียงตามลำดับได้แก่ BRI, AP และ SC โดยมี Launch/Sales อยู่ในช่วง 1.09x-1.55x
.
.
สำหรับแผนเปิดโครงการแนวสูงใหม่ใน 2H65 ของกลุ่มอยู่ที่ 5.2 หมื่น ลบ. (+5.7% HoH, +169.9% YoY) นำโดย ORI และ NOBLE ที่มีแผนเปิดมูลค่าใกล้เคียงกัน (รวมกันคิดเป็น 56.2% ของทั้งกลุ่ม) และ
.
.
- การรับรู้ Backlog โครงการแนวสูงสร้างเสร็จใหม่พร้อมโอนรวมมูลค่ากว่า 8.6 หมื่นลบ. (+ 360.3% HoH) แบ่งเป็นโครงการของบริษัทฯ ที่ 5.0 หมื่นลบ. และโครงการ JV ที่3.6 หมื่นลบ.
.
.
- นอกจากนี้ ประมาณการรายได้ของกลุ่มในปี 2565 มี Backlog รองรับแล้วที่73.0% คงน้ำหนัก Neutral ต่อกลุ่มอสังหาฯ… ผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าแรงจำกัด
.
.
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) คงน้ำหนักต่อกลุ่มพัฒนาอสังหาทรัพย์ “เท่ากับตลาด” จาก
1) แนวโน้มผลประกอบการ 2H65 ที่แข็งแกร่งหนุน จากการเข้าสู่ฤดูการส่งมอบโครงการแนวสูงสร้างเสร็จใหม่ และ
2) ค่าเฉลี่ยเงินปันผลในช่วง 2H65 ของกลุ่มอยู่ที่ ระดับ 3.4%-8.1% สูงกว่าค่าเฉลี่ยตลาดช่วยจำกัด Downside Risk ในสภาวะตลาดที่ผันผวน
.
.
อย่างไรก็ดี สำหรับประเด็นการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเฉลี่ย 5.0% มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2565 ประเมินผลกระทบต่อกำไรของกลุ่มฯในปี 2565 ค่อนข้างจำกัดเนื่องจากผู้ประกอบการส่วนใหญ่ได้มีการเซ็นสัญญากับผู้รับเหมาสำหรับ โครงการที่จะเปิดตัวใหม่ในช่วงปลายปีไว้แล้วเกือบทั้งหมด ขณะที่ในปี 2566 คาดผลกระทบต่ออัตรากำไรสุทธิของกลุ่มอยู่ในระดับไม่เกิน 0.5-1.0% (โดยปกติต้นทุนค่าแรงงานก่อสร้างคิดเป็นสัดส่วนโดยเฉลี่ยราว 18-22% ของ ต้นทุนขาย)
.
.
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กำหนดเกณฑ์ 3 เกณฑ์ในการคัดเลือกหุ้นสำหรับลงทุนในช่วง 2H65 ได้แก่
1) แนวโน้มผล ประกอบการ2H65 มีอัตราการเติบโตที่ดีกว่ากลุ่ม
2) Dividend Yield 2H65F สูงกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่ม และ
3) Valuation ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลังซึ่งคาดทำให้มี Downside Risk จำกัดจากประเด็นลบเชิงปัจจัยมหภาค อาทิ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วง 2 ครั้งประชุมที่เหลือของปี 2565 จากการประเมินด้วยเกณฑ์ข้างต้น บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ได้หุ้น Top Pick ดังนี้
.
·
ผู้พัฒนาฯ แนวสูง: ORI แนะนำ “ซื้อ ” (TP:14.10 THB) แนวโน้มผลประกอบการปกติปี 2565 คาดเติบโตโดด เด่น 42.2% YoY เป็น 3.6 พันลบ.หนุนจากการมี Backlog โครงการแนวสูงที่คาดจะโอนกรรมสิทธิ์ใน 2H65 มากถึง 1.2 หมื่นลบ. นอกจากนี้ยังมี Upside risk จากการ Spin-off บริษัทลูกคือ PRIMO Service Solution คาดเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ช่วง 4Q65 บน IPO Value ประเมินที่ 6.0 พันลบ.
.
·
ผู้พัฒนาฯ แนวราบขนาดใหญ่: AP แนะนำ “ซื้อ” (TP:13.60 THB) แนวโน้มผลประกอบการ 2H65 แข็งแกร่ง จากการรับรู้ Backlog และแผนเปิดโครงการแนวราบใหม่จำนวนมาก (AP มีBacklog ที่คาดรับรู้รายได้ในปี 2565 คิดเป็น Secured Revenue กว่า 88.7%) ขณะที่ราคาปัจจุบันซื้อขายบน PER65 ที่ 5.6x (-0.6 S.D.)
.
.
ผู้พัฒนาฯ ขนาดกลาง-เล็ก: BRI แนะนำ “ซื้อ” (TP:14.60 THB) แนวโน้มผลประกอบการปกติคาดทำ New High ต่อเนื่องใน 3Q-4Q65 หนุนจากแผนการเปิดโครงการใหม่ใน 2H65 รวมมูลค่า 1.1 หมื่นลบ. (+296.3% HoH) และมีแนวโน้มการเติบโตของผลประกอบการปี 2565-66 ที่โดดเด่นกว่ากลุ่มฯอย่างมีนัยสำคัญ พร้อมทั้งมี Upside จากการจัดตั้ง JV ทำให้ประมาณการกำไรสุทธิและเงินปันผลปี 2565 จะมีUpside risk อย่างน้อย 15-20%
.
·
Top Pick สำหรับ Theme Reopening: LH แนะนำ “ซื้อ” (TP:10.20 THB) แนวโน้มจำนวนนักท่องเที่ยว ต่างชาติที่คาดฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ (อิงคาดการณ์จากสภาพัฒน์ฯ ที่ 9.5 ล้านคนในปี 2565)ช่วยหนุนรายได้ ธุรกิจโรงแรมและห้างสรรพสินค้าให้ปรับตัวเพิ่มขึ้น กอปรกับธุรกิจหลักคาดเห็นการเติบโตจากแผนเปิดโครงการ แนวราบใหม่รวมมูลค่า 1.8 หมื่นลบ. (+66.0% HoH) อย่างไรก็ดี แม้ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ +1.0 S.D. แต่คาดประมาณการกำไรปกติปี 2565 จะมี Upside risk ระดับ 5-10% ส่งผลให้ ณ ระดับราคาปัจจุบันยังไม่แพงเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย
.
.
ติดตามข่าวหุ้นและการลงทุนทางไลน์
• Line @TNNWEALTH : https://bit.ly/3tCKmiD
———————————————————————
ติดตาม TNN Wealth ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
• Website : https://bit.ly/TNNWealthWebsite
• Youtube : https://bit.ly/TNNWealthYoutube
• TikTok : https://bit.ly/TNNWealthTikTok
หรือดูรายการ Live ได้ทาง https://bit.ly/3HmUu4O