"พาวเวล"อัดยาแรงขึ้นดอกเบี้ยสกัดเงินเฟ้อทุบบาทอ่อน

"รุ่ง"มองเงินบาทสัปดาห์หน้าเคลื่อนไหว35.75-36.35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แนวโน้มอ่อนหลังเฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยสกัดเงินเฟ้อ ระบุตั้งแต่ 1ส.ค.-26 ส.ค.บาทแข็งนำโด่งสวนภูมิภาคอ่อน เงินไหลทะลักเข้าหุ้น พันธบัตร 53,000 ล้านบาท
น.ส. รุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมธุรกิจและกำกับดูแลโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทสัปดาห์หน้าเคลื่อนไหวในกรอบ 35.75-36.35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐหลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดเฟดส่งสัญญาณเดินหน้าต่อสู้กับเงินเฟ้อ คาดตลาดเทขายสินทรัพย์เสี่ยง
นอกจากนี้ให้ติดตามดัชนี ISM ภาคการผลิตและการจ้างงานนอกภาคเกษตร เดือน ส.ค. ของสหรัฐฯ (คาด +2.9 แสนตำแหน่ง)
สำหรับการเคลื่อนไหวสกุลภูมิภาค ตั้งแต่ 1 ส.ค.-26 ส.ค.ที่ผ่านมาพบว่า บาท-ไทยแข็งค่าสุด 2.57% รองลงมาคือรูเปียห์-อินโดนีเซีย 0.10%ยกเว้นวอน-เกาหลีใต้อ่อนค่า 2.33% หยวน-จีน 1.66%เปโซ-ฟิลิปปินส์1.58% ดอลลาร์-ไต้หวัน 0.92% รูปี-อินเดีย 0.76% ดอลลาร์-สิงคโปร์ 0.70% ริงกิต-มาเลเซีย 0.53% ดอง-เวียดนาม 0.31%
สาเหตุที่เงินบาทแข็งค่าที่สุดในกลุ่มสำหรับเดือนนี้ จากเงินทุนไหลเข้า ความหวังเรื่องเศรษฐกิจฟื้นตัวจากภาคท่องเที่ยว ขณะที่ต่างชาติซื้อหุ้นไทยสุทธิ 5.2 หมื่นล้านบาท ยอดขายพันธบัตรซื้อสุทธิ 1.9 พันล้านบาท เนื่องจากมีตราสารหนี้ครบอายุ 1.7 หมื่นล้านบาท
อย่างไรก็ตาม การซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน ขณะที่นักลงทุนยังไม่แน่ใจว่าความแข็งกร้าวในการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดจะดำเนินต่อไปอีกนานเพียงใด แม้ว่าเงินเฟ้อทั่วไปของสหรัฐฯน่าจะผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว แต่ยังอยู่ที่ระดับสูงเกินปกติอยู่มาก และตลาดแรงงานสหรัฐฯยังแข็งแกร่ง เอื้อให้เฟดมุ่งเน้นการขึ้นดอกเบี้ยดูแลเงินเฟ้อต่อไป
นอกจากนี้ การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและยุโรป ช่วยจำกัดแรงขายดอลลาร์ในตลาดโลก ทั้งนี้โดยผู้ประกอบการควรป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
ที่มา น.ส. รุ่ง สงวนเรือง
ภาพประกอบ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา