TNN online สรุปสาระสำคัญจากงาน “Thailand Focus 2022”

TNN ONLINE

Wealth

สรุปสาระสำคัญจากงาน “Thailand Focus 2022”

สรุปสาระสำคัญจากงาน “Thailand Focus 2022”

สรุปสาระสำคัญจากงาน “Thailand Focus 2022” รมว.คลัง นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ มองว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวแข็งแกร่งและมีเสถียรภาพ ได้แรงหนุนจากการส่งออก ท่องเที่ยว และการบริโภคในประเทศที่เพิ่มขึ้น โดยคาด GDP จะฟื้นตัวต่อเนื่องใน 2H65 ท าให้ทั้งปี สามารถโตได้ 3.0-3.5% ซึ่งถ้าอิง 1H65 ที่โต 2.4% แปลว่า 2H65 ต้องโตสูง 3.5%-4.5% ถึงจะได้ตามเป้า

สรุปสาระสำคัญจากงาน “Thailand Focus 2022” รมว.คลัง นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ  มองว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวแข็งแกร่งและมีเสถียรภาพ ได้แรงหนุนจากการส่งออก ท่องเที่ยว และการบริโภคในประเทศที่เพิ่มขึ้น โดยคาด GDP จะฟื้นตัวต่อเนื่องใน 2H65 ท าให้ทั้งปี สามารถโตได้ 3.0-3.5% ซึ่งถ้าอิง 1H65 ที่โต 2.4% แปลว่า 2H65 ต้องโตสูง 3.5%-4.5% ถึงจะได้ตามเป้า 

.

.

ฐานะทางการคลัง หนี้สาธารณะยังไม่เกินเพดานที่ 70% ต่อ GDP โดย ณ สิ้นเดือน มิ.ย. อยู่ที่ 61% ต่อ GDP และเมื่อเทียบกับภูมิภาค ถือว่าหนี้ยังต่ำและไม่เสียวินัยการคลัง 

.

.

สำหรับ 4 แนวนโยบายที่จะสร้างการเติบโตในอนาคต บล.หยวนต้า (ประเทศไทย)  สรุปปว่า คือ 

1) เน้นลงทุนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ไม่ใช่เฉพาะทางกายภาพเท่านั้น แต่จะรวมไป ถึงทรัพยากรคน และการใช้เทคโนโลยี + นวัตกรรม 2) ภาครัฐและเอกชนจะเร่งพัฒนา EEC เพื่อเร่งสร้างการเติบโตในอุตสาหกรรมเป้าหมาย ใหม่ เช่น ยานยนต์สมัยใหม่, อิเล็กทรอกนิกส์อัจฉริยะ, การบินและโลจิสติกส์ 

3) ภาครัฐจะสร้างการเติบโตสีเขียวที่มีคุณภาพในเศรษฐกิจทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็น การเกษตรการผลิตและการบริการ เช่น ยานพาหนะไฟฟ้าที่มีการสนับสนุนด้านภาษี(tax and non tax support) 

4) มีการระดมทรัพยากรทางการเงินเพื่อสนับสนุนรูปแบบการเติบโตใหม่ โดยเน้นการ ลงทุนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและพันธบัตรเพื่อความยั่งยืนในอนาคต

.

.

ด้านผู้ว่าแบงกช์าติ  ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ระบุว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยทำได้ค่อนข้างดี สะท้อนจากการบริโภคในประเทศที่ขยายตัว, การว่างงานที่อยู่ในระดับต่ำ, และการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวในอัตราเร่งคาดกลับไปเท่าช่วง ก่อน COVID-19 ระบาดได้ในสิ้นปีนี้ 

.

.

สำหรับประเด็นเรื่องเงินเฟ้อ มองว่ามาจากฝั่งอุปทานเป็นหลัก ยังไม่เห็นผลกระทบจากฝั่ง อุปสงค์ การขึ้นดอกเบี้ยจึงท าแบบค่อยเป็นค่อยไป และคาดว่าเงินเฟ้อจะกลับสู่เป้าหมาย ในกรอบ 1%-3% ได้ภายในกลางปี2566 

.

.

การขึ้นดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่ทำให้ Behind the curve (ขึ้นดอกเบี้ยช้าเกินไป) เพราะเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้ากว่าประเทศอื่น และเป็นประเทศเดียวที่ขึ้นดอกเบี้ย โดยที่ เศรษฐกิจยังไม่กลับไปเท่าช่วงก่อน COVID-19 ระบาด 

.

.

การเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED ส่งผลกระทบต่อค่าเงิน ซึ่งเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ ส่วน เงินบาทที่อ่อนค่า ไม่ได้ท าให้เกิดเงินทุนไหลออก สะท้อนผ่าน YTD ที่มีเงินไหลเข้าตลาด หุ้นและพันธบัตรราว 4,800 ล้านดอลลาร์ 

.

.

อย่างไรก็ตามความเสี่ยง ประกอบด้วย 

1) เศรษฐกิจโลกถดถอย มองว่ากระทบประเทศไทยจ ากัด เพราะเรามีการฟื้น ตัวที่ยืดหยุ่นจากหลายภาคส่วน ขณะที่ การฟื้ นตัวของภาคท่องเที่ยวยังไม่ถูกกระทบ ตราบใดที่ยังไม่มีการกลายพันธุ์ของโรคระบาดต่างๆ 

2) ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์

.

.

บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) มีมุมมองเป็นบวกต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และแรงกดดันด้านเงินเฟ้อเริ่มลดลงสะท้อน ผ่านราคาน้ำมัน WTI ที่ปรับตัวลงจากระดับสูงสุด 23% ซึ่งจะช่วยหนุนกลุ่มท่องเที่ยว, ค้า ปลีก, อาหารและเครื่องดื่ม, สื่อและสิ่งพิมพ์, การแพทย์, และธนาคาร เช่น CPALL, CRC, MINT, SHR, M, ONEE, BEC, BDMS, KBANK ส่วนกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเร่งลงทุนของ ภาครัฐ และการส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล เช่น WHA, AMATA, ROJNA, HUMAN

.

.

ติดตามข่าวหุ้นและการลงทุนทางไลน์

• Line @TNNWEALTH : https://bit.ly/3tCKmiD

———————————————————————

ติดตาม TNN Wealth ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่ 

• Website : https://bit.ly/TNNWealthWebsite

• Youtube : https://bit.ly/TNNWealthYoutube

• TikTok : https://bit.ly/TNNWealthTikTok

 

หรือดูรายการ Live ได้ทาง https://bit.ly/3HmUu4O

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ข่าวแนะนำ