ประเด็นร้อน! ความขัดแย้งจีน-สหรัฐฯ เสี่ยงดึงเงินไหลออก
หลังจากการประทุอีกครั้ง ของความขัดแย้งในแง่ภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างจีน-สหรัฐ เสี่ยงกระทบต่อการลงทุนเป็นระยะหลังจากนี้ คล้ายสถิติความขัดแย้งที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้า
จากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่าง "จีน-สหรัฐฯ" ที่ประทุขึ้นมาอีกครั้ง ฝ่ายวิจัยของบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส ระบุว่า นี่ถือเป็นปัจจัยที่ต้องติดตามใน 2 แง่มุม ดังนี้ มุมของความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์ ที่เสี่ยงต่อการเกิดการใช้กำลังระหว่างประเทศ จากการที่จีนประกาศซ้อมรบทางทหารบนน่านน้ำและน่านฟ้าที่ล้อมรอบไต้หวัน ในวันที่ 4 - 7 สิงหาคมนี้ และความเสี่ยงอีกมุมคือ เรื่องของการค้าระหว่างประเทศ ที่อาจทำให้ความหวังที่ตะวกำแพงภาษีระหว่าง สหรัฐ-จีน (Trade War) ที่ลุ้นว่ากำลังจะผ่อนคลาย อาจไม่เป็นดังนั้น
โดยสถานการณ์ความเสี่ยงในประเด็นที่สองนั้น นักวิเคราะห์ว่าอาจสร้าง Downside ในเชิงเศรษฐกิจเพิ่มเติม หลังจากที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) มีการปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลก (World GDP Growth) ปี 2565 ลงจากร้อยละ 3.6 มาอยูที่ร้อยละ 3.2 ถือว่าใกล้เคียงกับ World Bank และ OECD ที่
ปรับลดมาก่อนหน้านี้
ในด้านผลกระทบต่อประเทศไทย "เอเซีย พลัส" ประเมินว่าน่าจะมีความเสี่ยงที่จะทำให้การค้าระหว่างประเทศสะดุด โดยไทยมีสัดส่วนการค้ากับจีนมากที่สุดราว 128,000 ล้านเหรียญในปี 2021 หรือเป็นร้อยละ 22 ของประเทศคู่ค้าทั้งหมดและสหรัฐฯ ก็มีสัดส่วนการค้ากับไทยอันดับที่ 3 ราว 61,000 ล้านเหรียญ หรือคิดเป็นสัดส่วนราวร้อยละ 11 ของประเทศคู่ค้าทั้งหมด
ส่วนด้านการยกเลิกกำแพงภาษีจะมีการยืดเยื้อออกไป ส่งผลให้ตลาดหุ้นมีโอกาสพลิกกลับมาผันผวนอีกครั้งนั้น นักวิเคราะห์ได้พบว่าปัจจัยกดดัน SET Index ให้เกิดการปรับฐานเฉลี่ยราวร้อยละ 10 ต่อรอบ มีรายละเอียดดังนี้
- การขึ้นภาษีรอบที่ 1 และรอบ ที่ 2 วงเงิน 50,000 ล้านบาท เกิดขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคม - มิถุนายน ปี 2561 ในครั้งนั้น กดดัน SET Index ปรับตัวลงเฉลี่ยร้อยละ 10.4
- การขึ้นภาษีรอบที่ 3 วงเงิน 200,000 ล้านบาท เกิดขึ้นและกดดันตลาดในช่วงเดือนตุลาคม ถึงเดือนธันวาคม ปี 2561 ครั้งนั้น SET Index ปรับตัวลงเฉลี่ยร้อยละ 11
- การขึ้นภาษีรอบที่ 4 วงเงิน 110,000 ล้านบาท กดดันตลาดในรอบเดือนสิงหาคม ถึงเดือนธันวาคม ปี 2562 พบว่า SET Index ปรับตัวลงเฉลี่ยร้อยละ 8.1
โดยนี่เป็นเพียงความเห็น เพื่อเป็นข้อมูลให้นักลงทุนเท่านั้น ในเรื่องพัฒนาการของเหตุการณ์ต้องจับตากันต่อไป ว่าจะบานปลายจนกระทั่งนำไปสู่ความขัดแย้งที่มากขึ้นหรือไม่
ข้อมูลจาก : TNN ONLINE
ภาพจาก : TNN, AFP