หุ้นไทยปิดบวกแรงซื้อรายย่อย-บัญชีบล.หนุน ชู 11 หุ้นเด่น Domestic Play

นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย (PI) เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นไทยปิดที่1,594.73  จุด  บวก 5.57 จุด หรือ  0.35 % ระหว่างวันดัชนีซื้อขายสูงสุด 1,597.74  จุด และต่ำสุดที่ 1,586.49 จุด มูลค่าการซื้อขาย 50,898.19  ล้านบาทว่าภาพรวมตลาดหุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหวค่อนข้างทรงตัวในกรอบแคบๆ สาเหตุเนื่องจากยังขาดปัจจัยใหม่ๆประกอบกับดัชนีก็ได้ฟื้นตัวขึ้นมาจากจุดต่ำสุดแล้วราว 3.6% แรงซื้อจึงเริ่มเบาบางลง 

ส่วนประเด็นผู้นำสหรัฐฯเยือนไต้หวันและอาจสร้างความไม่พอใจให้กับจีนนั้นมองว่ายังไม่น่ากังวลเท่าใดนัก สังเกตุได้จากการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นหลาย ๆ ประเทศยังมิได้ปรับฐานลงแรง

ขณะที่สินทรัพย์ปลอดภัยก็ยังเคลื่อนไหวทรงตัวจึงพอประเมินเบื้องต้นได้ว่าตลาดยังดูมิได้กังวล ขณะเดียวกันมองว่าจีนเองก็มีปัญหาทั้ง COVID-19 รวมถึงปัญหาทางเศรษฐกิจจึงเชื่อว่าการบุกไต้หวันยังมีโอกาสเป็นไปได้ต่ำ อย่างไรก็ตามหากผิดจากคาดคือเกิดการบุกไต้หวัน มองว่ากลุ่ม Electronics จะรับผลกระทบ

"หุ้นที่ดันตลาดวันนี้เป็นกลุ่มโรงพยาบาล โรงไฟฟ้า ขนส่ง และอสังหาริมทรัพย์ส่วนมูลค่าการซื้อขายพบว่า สถาบันในประเทศขายสุทธิ 853.53 ล้านบาทนักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 108.08ล้านบาทบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 387.42ล้านบาทนักลงทุนทั่วไปในประเทศซื้อสุทธิ 574.18 ล้านบาท"

สำหรับแนวโน้มวันพรุ่งนี้คาดเคลื่อนไหวในกรอบ 1,580 – 1,600 โดยปัจจัยติดตามคืนนี้ได้แก่การประชุม OPEC+ และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อสำหรับภาคบริการจากสถาบัน ISM (Bloomberg คาดที่ 53.5) เชิงกลยุทธ์การลงทุนแนะนำเพิ่มการถือครองเงินสดสูงขึ้นบ้างเพราะ

ตลาดก็รับรู้ปัจจัยบวกไปพอสมควร

 โดยช่วงถัดไปมีความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวที่จะกลับมากระทบกับการลงทุนรวมถึงการปรับลดประมาณการกำไร ส่วนหุ้นแนะนำช่วงนี้เน้น Domestic ด้วยผลกระทบจากข้างนอกที่จำกัดและฟื้นตัวตามการเปิดประเทศ แนะนำ ขนส่ง (BTS, BEM) ค้าปลีก (BJC, CRC ,CPALL, HMPRO) โรงพยาบาล (BCH ,CHG) ร้านอาหาร (M) ท่องเที่ยว (CENTEL ,MINT)

ที่มา  นายวทัญ จิตต์สมนึก 

ภาพประกอบ  tnn online