เปิดโพย 6 หุ้นเด่นรับประโยชน์เงินบาทอ่อน
เงินบาททุบสถิติอ่อนค่าสุดในรอบ 13 ปี หลังดอลลาร์แข็งค่าอย่างหนัก หุ้นตัวไหนได้รับประโยชน์จากเงินบาทอ่อน-ราคาแลกการ์ดตามไปดูกันเลย
นายจารุชาติ บูชาชาติ นักกลยุทธ์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า การอ่อนค่าของเงินบาทที่แตะระดับ 36.70 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าสุดในรอบเกือบ 13 ปี นับจากปี 2009 หรือปี 52มาจาก 2 ส่วนคือ 1.ความกังวลเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐฯ หลังจากเงินเฟ้อเดือนมิ.ย.ปรับขึ้น 9.1% มากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ทำให้ตลาดคาดว่าในการประชุมธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดในวันที่ 26-27 ก.ค.นี้จะปรับขึ้นดอกเบี้ยร้อนแรงที่ 1% จากเดิมคาดการณ์ไว้่ที่ 0.75% เพื่อสกัดเงินเฟ้อ หนุนให้ดัชนีดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าในรอบ 20 ปี เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์สหรัฐ ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
2.เงินบาทอ่อนค่า แม้ส่งผลดีต่อผู้ส่งออกอาหาร แต่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ล็อกต้นทุนค่าเงินไว้แล้วผลประโยชน์ที่ได้รับจากบาทอ่อนก็ไม่ได้มากนัก นอกจากนี้ไทยเป็นผู้นำเข้าพลังงานเกิน 90% จะทำให้ราคาน้ำมันแพงขึ้นกระทบต่อค่าครองชีพลและกำไรของบริษัทจดทะเบียน
โดยประเมินเบื้องต้นว่า
-เฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ดอกเบี้ยไทยขยับขึ้น 0.25%ดัชนีหุ้นไทยจะอยู่ที่ 1,525 จุด
-เฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ดอกเบี้ยไทยขึ้น 0.5% ดัชนีหุ้นไทยอยู่ที่ 1,515 จุด
-เฟดขึ้นดอกเบี้ย 1% ดอกเบี้ยไทยขึ้น 0.5% ดัชนีหุ้นไทยอยู่ที่ 1,480 จุด
นอกจากนี้หากเฟดขึ้นดอกเบี้ยในปลายเดือนนี้ แม้ว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) จะขึ้นดอกเบี้ยในวันที่ 10 ส.ค.นี้ จะทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ยของไทย - สหรัฐฯ แคบลงและชะลอการอ่อนค่าของเงินบาทลงได้ในระดับหนึ่งแต่ถ้าดอกเบี้ยไทยไม่ขยับหากเฟดขึ้นดอกเบี้ย 1% อาจจะเห็นเงินบาทอ่อนหลุด 37 บาทต่อดอลลาร์
ส่วนหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนและยัง Laggard เช่น BANPU ([email protected]) CPF (FV@B30) GFPT ([email protected]) TU ([email protected]) BDMS (FV @B31) AH ([email protected]) กลุ่มที่ต้องระมัดระวังคือ ปิโตรเคมี ผู้นำเข้าสินค้ามาขายในประเทศ
ที่มา นายจารุชาติ บูชาชาติ
ภาพประกอบ พิกซ่าเบย์,บล.หยวนต้า (ประเทศไทย)
