“ทรีนีตี้” คัด10 หุ้นเด่นฝ่าเศรษฐกิจโลกชะลอตัว
“ทรีนีตี้” มองเศรษฐกิจโลกส่งสัญญาณชะลอตัวจากความกดดันเงินเฟ้อ ชี้ไตรมาส 3 เป็นจุดเริ่มต้นของการโยกย้ายเม็ดเงินจากตลาดหุ้นเข้าสู่ตราสารหนี้ คัด 10 หุ้นหลบภัย
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. ทรีนีตี้ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยไตรมาส 3/65 เป็นจุดเริ่มต้นของการโยกย้ายเม็ดเงินจากตลาดหุ้นเข้าสู่ตราสารหนี้หลังเศรษฐกิจโลกส่งสัญญาณชะลอมากขึ้น ซึ่งจะเป็นความกังวลใหม่ที่เปลี่ยนผ่านมาจากความกังวลด้านเงินเฟ้อและการเข้มงวดนโยบายการเงินที่เตรียมจะผ่านพ้นจุดสูงสุดในไตรมาสนี้
สำหรับกลยุทธ์การจัดสรรพอร์ตการลงทุนนักลงทุนสามารถ Overweight ในตราสารพันธบัตรระยะยาวได้ แต่ตลาดหุ้น ควรเน้นการตั้งรับและรอการเข้าซื้อในจังหวะที่เหมาะสม หรือในช่วงเวลาที่ Valuation ลงมาในระดับที่น่าจูงใจนั่นเอง
มองกรอบแนวรับแรกของดัชนี SET ที่น่าสนใจได้แก่บริเวณ 1,500-1,530 จุด ส่วนระดับแนวรับสำคัญที่ไม่น่าหลุดไบริเวณ 1,460-1,500 จุด ซึ่งถือเป็นระดับที่ทำให้ SET กลับมามีความน่าสนใจอย่างมาก ทั้งในมิติของ PBV, PE และ Earning yield gap
ทั้งนี้ หากดัชนีหุ้นไทยจะกลับมาไต่ระดับขึ้นได้อีกครั้ง มองว่าจะต้องอาศัยการไหลเข้าของ Fund flow อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งประเมินว่าน่าจะเกิดขึ้นในช่วงกลาง-ปลายไตรมาส 3 นี้เป็นอย่างเร็วไปพร้อมๆ กับจุดเปลี่ยนของค่าเงินบาท
"ตลาดหุ้นในช่วงช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา(ม.ค.-มิ.ย.) เป็นช่วงเวลาซึม และอ่อนแรงของตลาดหุ้นไทย จากทั้งปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจ นโยบาย ค่าเงิน และสภาพคล่อง "
ส่วนการจัดสรรการลงทุนรายกลุ่มอุตสาหกรรมในช่วงไตรมาสที่ 3 นี้ สามารถหลีกเลี่ยงหรือ Underweight หุ้นในกลุ่ม Cyclical ไปก่อนได้ ทั้งในฝั่งของ Global เช่น กลุ่ม Oil & Gas , ปิโตรเคมี , อิเล็กทรอนิกส์ ,ชิ้นส่วนยานยนต์ รวมถึงฝั่งของไทย เช่น กลุ่ม Consumer discretionary , อสังหา,ก่อสร้าง , สื่อฯ ,ไฟแนนซ์ เป็นต้น
ทั้งนี้หากจะต้องเลือกลงทุนในกลุ่ม Cyclical จริง มองไปยังกลุ่ม Oil retailer ที่ค่าการตลาดเริ่มทรงตัวได้ และ Volume การขายกลับเข้าสู่ภาวะปกติ รวมไปถึง Bank ที่มีฐานลูกค้าเน้นไปทาง Corporate และยังมีสัดส่วนการตั้งสำรองในระดับสูงขณะเดียวกัน กลุ่มที่เรามองว่าค่อนข้างปลอดภัย และมักทนทานต่อภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
รวมถึงการปรับขึ้นดอกเบี้ยของไทยเป็นครั้งแรกของ Cycle ได้แก่ กลุ่ม Healthcare , Consumer staples ,Utilities , ICT ซึ่งกลุ่มเหล่านี้เรามองว่านักลงทุนสามารถใช้จังหวะแนวรับที่ให้ไว้ในการทยอยเข้าลงทุนได้
ส่วนกลุ่มอื่นๆที่มองว่าน่าสนใจด้วยเช่นกันจะได้แก่กลุ่มบริหารหนี้ ที่ได้ประโยชน์จากแนวโน้ม NPL ในประเทศที่เตรียมกลับมาเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง รวมถึงกลุ่มอาหาร ที่ได้อานิสงส์จากการอ่อนค่าของเงินบาทในช่วงครึ่งแรกของไตรมาส 3 และยังได้ประโยชน์จากราคาเนื้อสัตว์ที่สูงขึ้นด้วย
โดยสรุป หุ้นที่ทางทรีนีตี้แนะนำเป็น Top picks สำหรับการลงทุนในไตรมาส 3 ปี 2022 ได้แก่ ADVANC , BBL , BDMS , CPALL, CPF, GPSC, JMT, OR, RATCH, WHAUP
ที่มา นายณัฐชาต เมฆมาสิน
ภาพประกอบ บล. ทรีนีตี้