ปักหมุด 7 หุ้นเด่นรับประโยชน์เงินบาทอ่อนค่า
"จารุชาติ"มองภาวะเศรษฐกิจไทยที่ต้องเผชิญความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ-ดอกเบี้ยขาขึ้นของธนาคารกลาง ในหลายประเทศทั่วโลก-กระแสเงินทุนไหลออกจับจังหวะลงทุนหุ้นตัวไหนดีท่ามกลางความผันผวน
นายจารุชาติ บูชาชาติ นักกลยุทธ์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยว่าค่าเงินบาทในสัปดาห์ที่ผ่านมาอ่อนค่าแตะระดับ 35.12 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐทำสถิติใหม่ในรอบ 5 ปี 3 เดือน หลังจากธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ล่าสุดปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ทำให้ดอกเบี้ยปัจจุบันอยู่ที่ 1.5-1.75%
สำหรับการอ่อนค่าของเงินบาท แม้จะส่งผลดีต่อภาคการส่งออก แต่ในช่วงที่ภาคท่องเทียวยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ เนื่องจาก ประเทศคู่ค้าสำคัญ เช่น จีน กำลังชะลอตัวเพราะ Zero Covid, รวมไปถึง ต้นทุน การนำเข้าที่เร่งตัวขึ้นตามทิศทางราคาพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งถูกกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำให้ดุลบัญชีเกินสะพัดยังเคลือนไหวในแดนลบ และส่งผลให้เศรษฐกิจไทยมีความเสี่ยง (ทีไม่ควรมองข้าม) อยู่ 3 ประเด็น คือ
1. เงินเฟ้อทรงตัวในระดับสูง จากต้นทุนการนำเข้าที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
2. แนวโน้มดอกเบี้ย ในประเทศปรับตัวเพิมขึ้น ตามหลักความเสมอภาคของค่าเงิน
3. กระแสเงินทุนต่างชาติมีแนวโน้มไหลออกในระยะสั้น
อย่างไรก็ตาม จากการวิเคราะห์ความสัมพันธ์รายสัปดาห์ 5 ปีย้อนหลัง พบว่า SET Index มักเคลื่อนไหวผกผันกับกราฟค่าเงิน USD/THB เช่นเดียวกับความสัมพันธ์ระหว่าง USD/THBกับกระแสเงินทุนต่างชาติ แต่การอ่อนค่าของเงินบาทเป็นปัจจัยเร่งให้กระแสเงินไหลออกเร็วขึ้น โดยกรอบค่าเงินบาทมองไว้ที่ 35-36 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐดังนั้นเชิงของกลยุทธ์การลงทุน ทั้งนี้แนะนำให้ระมัดระวังต่อเนื่อง
ส่วนหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนและยัง Laggard เช่น SPA ([email protected]) , BANPU([email protected] ) , CPF (FV@30 ) , GFPT ([email protected]) , TU (FV@22 ), BDMS (FV@31 ), AH ([email protected]) กลุ่มที่ต้องระมัดระวังคือ ปิโตรเคมี ผู้นำเข้าสินค้ามาขายในประเทศ
ที่มา นายจารุชาติ บูชาชาติ
ภาพประกอบ บล.หยวนต้า