TNN online 'ศุลกากร' เร่งถก 'สภาอุตสาหกรรม' หาแนวทางบรรเทาผลกระทบปชช.ซื้อคาร์ซีท เล็งชงครม.ลดภาษีนำเข้า

TNN ONLINE

Wealth

'ศุลกากร' เร่งถก 'สภาอุตสาหกรรม' หาแนวทางบรรเทาผลกระทบปชช.ซื้อคาร์ซีท เล็งชงครม.ลดภาษีนำเข้า

'ศุลกากร' เร่งถก 'สภาอุตสาหกรรม' หาแนวทางบรรเทาผลกระทบปชช.ซื้อคาร์ซีท เล็งชงครม.ลดภาษีนำเข้า

ศุลกากรเร่งหารือสภาอุตฯ หาแนวทางลดภาษีนำเข้าคาร์ซีท หวั่นกระทบผู้ผลิตในประเทศ เล็งชง ครม. ลดภาษีนำเข้า จากปัจจุบันเก็บ 20% ช่วยคนไทยซื้อได้ถูกลง

วันนี้( 13 พ.ค.65)  นายชัยยุทธ คำคุณ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยว่า  ตามที่ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่พระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2565 เมื่อวันที่ 7 พ.ค.65 ซึ่งกำหนดให้ผู้โดยสารที่เป็นเด็กอายุไม่เกิน 6 ปี ต้องจัดให้นั่งในที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก หรือนั่งในที่นั่งพิเศษสำหรับเด็ก (คาร์ซีท) เพื่อป้องกันอันตราย ได้ทำให้ประชาชน มีความสนใจต่อภาษีอากรขาเข้าที่อาจส่งผลต่อราคาของสินค้าคาร์ซีท


โดยกรมศุลกากร  ชี้แจงว่า ปัจจุบันที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก (คาร์ ซีท) จัดเป็นของในประเภทพิกัด 9401.80.00 โดยมีอัตราอากรขาเข้า อยู่ที่ 20% แต่หากนำเข้าภายใต้ความตกลงเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ที่ประเทศไทยมีอยู่ก็จะสามารถใช้สิทธิพิเศษยกเว้นอากรขาเข้าเหลือ 0% ได้สำหรับทุกความตกลง  ขณะเดียวกันกรมศุลกากรยังอยู่ระหว่างการหารือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในประเด็นการลดอัตราอากรขาเข้าเป็นการทั่วไปให้ต่ำกว่า 20% ซึ่งเตรียมนำเสนอต่อกระทรวงการคลังและ ครม. เพื่อให้อัตราอากรของที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กอยู่ในระดับที่เหมาะสม เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคและไม่กระทบต่อผู้ผลิตในประเทศ


ทั้งนี้ ปัจจุบันการนำเข้า Car Seat ดังกล่าวส่วนใหญ่จะได้รับการยกเว้นภาษีภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรีหรือ FTA ขณะที่ การจัดเก็บภาษีที่ได้ในแต่ละปีจะอยู่หลัก 10 ล้านบาทเท่านั้น


สำหรับที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก (Car Seat) จัดเป็นของในประเภทพิกัด 9401.80.00 โดยมีอัตราอากรขาเข้าอยู่ที่ 20% แต่หากนำเข้าภายใต้ความตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) ที่ประเทศไทยมีอยู่กับหลายประเทศ ก็จะสามารถใช้สิทธิพิเศษยกเว้นอากรขาเข้าได้สำหรับทุกความตกลง FTA


ทั้งนี้ ราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่การแก้ไข พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ 13) ปี 2022 ที่เกี่ยวข้องกับการบังคับใช้ Car Seat ด้วย โดยบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 120 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป  โดยมีสาระดังต่อไปนี้ คือผู้ขับขี่ ต้องรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัยไว้กับที่นั่งตลอดเวลาในขณะขับรถยนต์ ,ส่วนคนโดยสารนั้น กรณี คนโดยสารที่นั่งแถวตอนหน้า และที่นั่งแถวตอนอื่น ต้องรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัยไว้กับที่นั่งตลอดเวลาในขณะโดยสารรถยนต์  ส่วนคนโดยสารที่เป็นเด็กอายุไม่เกิน 6 ปี ต้องจัดให้นั่งในที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก หรือนั่งในที่นั่งพิเศษสำหรับเด็กเพื่อป้องกันอันตราย หรือมีวิธีการป้องกันอันตรายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ คนโดยสารที่มีความสูงไม่เกิน 135 เซนติเมตร ต้องรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัยไว้กับที่นั่ง หรือมีวิธีการป้องกันอันตรายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะนั่งแถวตอนใด  ในกรณีที่ผู้ขับขี่หรือคนโดยสารมีเหตุผลทางสุขภาพอันไม่สามารถรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัยไว้กับที่นั่งได้ ให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามวรรคหนึ่ง แต่บุคคลนั้นต้องมีวิธีการป้องกันอันตรายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ  ที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก และที่นั่งพิเศษสำหรับเด็กเพื่อป้องกันอันตราย และวิธีการป้องกันอันตรายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุตามที่บัญญัติไว้ ให้เป็นไปตามที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติประกาศกำหนด ทั้งนี้ หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท


ข้อมูลจาก : กรมศุลกากร ,เว็บไซต์  ราชกิจจานุเบกษา 

ภาพจาก: TNN Online

 


 

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง