TNN online หุ้นไทยดิ่งหนักหลุด 1,600 จุดรอบ 6 เดือนครึ่ง ชู 3หุ้นหลบภัย

TNN ONLINE

Wealth

หุ้นไทยดิ่งหนักหลุด 1,600 จุดรอบ 6 เดือนครึ่ง ชู 3หุ้นหลบภัย

หุ้นไทยดิ่งหนักหลุด 1,600 จุดรอบ 6 เดือนครึ่ง ชู 3หุ้นหลบภัย

หุ้นไทยปิดแดงยกแผง 28.82 จุด สอดรับตลาดหุ้นโลก หลังเงินเฟ้อสหรัฐฯเม.ย.พุ่ง หนุนเฟดใช้นโยบายการเงินเข้มงวด จับตาตัวเลขขอรับสวัสดิการว่างงาน- PPI คืนนี้ มองแนวโน้มพรุ่งนี้แกว่งไซด์เวย์ดาวน์ ชูหุ้นรับประโยชน์บาทอ่อน

น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล. โกลเบล็ก หรือ GBS เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นไทยปิด 1,584.52  จุด ลบ 28.82  จุดหรือ 1.79 % ระ หว่างวันดัชนีสูงสุด 1,607.88 จุด และต่ำสุดที่ 1,580.10  จุดมูลค่าการซื้อขาย 92,529.65 ล้านบาทว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงตามตลาดหุ้นทั่วโลกหลังจาก ที่ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ แตะระดับ 8.30 % สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 8.1% ทำให้นักลงทุนปรับลดพอร์ตกดดันให้หุ้นไทยหลุด 1,600 จุด ในรอบ  6 เดือนครึ่งนับจาก พ.ย. 64ขณะที่ ตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่ปรับตัวลงเฉลี่ยราว 2 %


สำหรับหุ้นที่กดตลาดในวันนี้เป็นกลุ่มแบงก์ พลังงาน ค้าปลีก และสื่อสาร ส่วนปัจจัยที่ติดตามคืนนี้คือสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน รายสัปดาห์และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนเม.ย. ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อฝั่งผู้ผลิต หากสูงกว่าคาดการณ์เช่นเดียวกับ CPI ที่สูงกว่าคาดจะทำให้นักลงทุนกังวลว่าเฟดจะ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรงกว่าคาดการณ์เดิม 


อย่างไรก็ตาม มองแนวโน้มพรุ่งนี้แกว่งไซด์เวย์ดาวน์  ประเมินกรอบแนวรับแรกที่ 1,573 จุดแนวรับถัดไปที่ 1,561 จุด แนวต้านแรกที่ 1,596จุด แนวต้านถัดไปที่ 1,608 จุด 


ด้านกลยุทธ์กลยุทธ์แนะนำหุ้นส่งออกที่มีแนวโน้มขยายตัวและได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า นำโดย SMPC (Bloomberg Consensus คาดราคาเป้าหมาย 15.35 บาท )รายงานกำไร 289 ลบ. ดีกว่าคาดอย่างมีนัยสำคัญ +153%YoY และ +6%QoQ


กำไรเติบโตได้รับแรงหนุนจากรายได้ที่เติบโต 70%YoY สู่ 1.54 พันลบ. เนื่องจากมีการส่งมอบถังแก๊สเพิ่มขึ้น และราคาขายปรับตัวขึ้นตามราคาเหล็ก ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นจาก 21.5% สู่ 26.8% โดยได้แรงหนุนจากราคาเหล็กที่ปรับตัวขึ้น ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง และการมุ่งเน้นผลิตถังขนาดใหญ่ซึ่งมีคู่แข่งน้อย อีกทั้งค่าระวางเรือเริ่มปรับลดลงทำให้สามารถส่งมอบสินค้าได้เพิ่มขึ้น


ทั้งนี้มีมุมมองบวกต่อผลประกอบการตั้งแต่ 2Q65 เป็นต้นไปเนื่องจากค่าเงินบาทยังอ่อนค่าต่อเนื่อง และค่าระวางเรือเริ่มปรับตัวลงทำให้สามารถส่งมอบสินค้าได้เพิ่มขึ้น นอกจากนี้บริษัทยังมุ้งเน้นผลิตถังขนาดใหญ่ซึ่งมีคู่แข่งน้อยช่วยหนุนอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มเติม เราคาดว่า Bloomberg จะปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 65 ขึ้นเนื่องจากกำไร 1Q65 คิดเป็น 40% ของประมาณกำไรปี 65 เราจึงแนะนำ ซื้อ


หุ้นเด่นตัวต่อมาคือ NER  ( Bloomberg Consensus คาดราคาเป้าหมาย 10 บาท)คาดผลประกอบการงวด 2Q-3Q65 โต YoY QoQ  รายงานรายได้และกำไรงวด 1Q65 เท่ากับ 5,593 ลบ. +12.7%YoY -7%QoQ และ 469 ลบ. +28%YoY -22%QoQ ตามลำดับ 


คาดว่าเติบโตตามปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นสู่ 9.6 หมื่นตัน +7.4%YoY -10%QoQ จากคำสั่งซื้อที่ยังคงแข็งแกร่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่วน %GPM ปรับดีขึ้นมาที่ 13.76% จากปีก่อนที่ 12.82% จากแนวโน้มราคายางที่เร่งขึ้น


แนวโน้มปี 65 ผู้บริหารคงเป้ารายได้ราว 2.84 หมื่นลบ. +16%YoY โดยแนวโน้มผลประกอบการช่วง 2Q-3Q65 คาดจะเร่งดีขึ้นทั้ง YoY และ QoQ จากปริมาณขายและราคาขายที่คาดจะปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้แนวโน้ม % GPM คาดจะปรับดีขึ้นเช่นกัน โดยช่วง 3Q65 จะมีกำลังการผลิตใหม่เพิ่มขึ้นอีก 5 หมื่นตัน สู่กำลังผลิตรวม 5.16 แสนตันต่อปี ประกอบกับตั้งแต่ต้นปีบริษัทมีลูกค้าใหม่เพิ่มอีก 4 ราย เป็นในประเทศ 2 รายและอินเดียอีก 2 ราย อย่างไรก็ดี การเติบโตในช่วงที่เหลือของปียังมีความเสี่ยงเล็กน้อยจากค่า Freight ที่ยังทรงตัวสูง และปัญหาขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์


ทั้งนี้มีมุมมองบวกต่อแนวโน้มการเติบโตใน 65 จากแนวโน้มความต้องการใช้ยางพาราเพื่อผลิตยางล้อรถยนต์ใหม่และทดแทนยางล้อเดิมที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ ธุรกิจใหม่-แผ่นปูรองปศุสัตว์ ปัจจุบันเครื่องจักรเข้ามาถึงที่โรงงานแล้ว โดยจะเริ่มผลิตและจำหน่ายช่วงต้น 3Q65 คาดจะสร้างรายได้ในปีนี้เพิ่มอีกราว 290 ลบ. และจะเป็น New-S-Curve ให้กับบริษัทในอนาคต เบื้องต้น Bloomberg คาดกำไรปี 65 ราว 2,043 ลบ. +10%YoY


ปิดท้ายที่ TWPC (Bloomberg Consensus 6.95 บาท) รายงานกำไร 1Q65 ที่ 167 ลบ. +30%YoY และ +106%QoQ รายได้ทรงตัวที่ 2.4 พันลบ.ใกล้เคียงไตรมาสก่อน แต่อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวขึ้น 1% สู่ 23% เนื่องจากสัดส่วนผลิตภัณฑ์ HVA เพิ่มขึ้น และเงินบาทอ่อนค่า แม้ว่าต้นทุนมันสำปะหลัง และค่าขนส่งทางเรือจะปรับตัวขึ้นก็ตาม 


ธุรกิจไบโอพลาสติก กำลังการผลิต 3,000 ตันต่อปีคาดว่าจะเริ่มเดินเครื่องภายใน 2Q65 โดยบริษัทมีมุมมองบวกต่ออุปสงค์การใช้ไบโอพลาสติกเนื่องจากทางยุโรปและจีนเริ่มแบนการใช้ single use plastic และหันมาใช้ไบโอพลาสติกเพิ่มขึ้น ขณะที่กำลังการผลิตไบโอพลาสติกยังต่ำกว่าความต้องการเนื่องจากวัตถุดิบหลักมาจากสินค้าเกษตร


อย่างไรก็ตาม  มีมุมมองบวกต่อผลประกอบการ 2Q65 ที่คาดว่ายังเติบโต YoY แต่อาจอ่อนตัว QoQ เนื่องจากปัจจัยฤดูกาล แต่จะได้แรงหนุนจากธุรกิจไบโอพลาสติกเข้ามาชดเชย เราจึงแนะนำ ซื้อเมื่ออ่อนตัว



ที่มา  น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล. โกลเบล็ก  

ภาพประกอบ   บล. โกลเบล็ก  

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง