ส่อง 4 หุ้นเด่น Defensive Play รับมือเศรษฐกิจถดถอย

ภาวะตลาดหุ้นที่ผันผวนจากปัจจัยเสี่ยงทั้งภายในประเทศ และต่างประเทศที่ไม่สามารถคาดเดาล่วงหน้าได้หนุนหุ้น Defensive Play  เป็นหุ้นที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะเป็นหุ้นที่มีความทนทานในทุกสภาพตลาด ทั้งตลาดขาขึ้นและขาลง หุ้นกลุ่มนี้จะเป็นหุ้นที่มีพื้นฐานค่อนข้างแข็งแกร่ง ความเสี่ยงต่ำ และมีการจ่ายเงินปันผลค่อนข้างสม่ำเสมอ  

โดยบล.กสิกรไทยชู 4 หุ้น Defensive Play   เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย เนื่องจากเป็นวัฏจักรที่สวนทางกันนำโดย

-  BGRIM มาร์เก็ตแคป 91,893 ล้านบาท ซื้อ ราคาเป้าหมาย 61 บาท 

เป็นผู้ผลิตไฟ้ฟ้าภายใต้สัญญา ซื้อขายไฟฟ้าประเภท SPP มีกลไกลส่งต่อการปรับค่าไฟฟ้าที่จัดหาให้กับกฟผ. ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 70-75% ของ PPA รวมของBGRIM ราคาขายไฟฟ้าที่เหลือจัดหาให้ผู้ใช้อุตสาหกรรมสามารถปรับตามการปรับขึ้นค่าไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ประกอบด้วยอัตราขึ้นพื้นฐานและเอฟที 

ปัจจัยที่อาจลดแรงกดดันจากต้นทุนพลังงานที่พุ่งขึ้น ได้แก่ 1) การเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า  2) ปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น 7-10% จากผู้ใช้อุตสาหกรรมใหม่ที่ 55 MW 3) แผนนำเข้า LNG ที่ 0.5 ล้านตัน ในปี 2565 และ 4) เพิ่มกำลังการผลิตขึ้น 1,000 MW ในปี 2565 

- BJC มาร์เก็ตแคป 144,281  ล้านบาท ซื้อ ราคาเป้าหมาย42  บาท

ตั้งเป้ารายได้เติบโตขึ้นปีละ 11-16% ในปี 2565-69 หนุนจากการขยายธุรกิจและความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้นจากสัดส่วนผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้น BJC จะมุ่งเน้นไปยังการขยายธุรกิจในภูมิภาคอาเซียนและจะร่วมลงทุนกับพันธมิตรแทนที่จะลงทุนเอง  เรามีมุนมองบวกต่อแผนธุรกิจที่ชัดเจนมากขึ้นในระยะกลางถึงยาว เราเชื่อว่าราคาหุ้นขณะนี้รับรู้จจัยลบทั้งหมดดังกล่าวไปบางส่วนแล้ว

 

- GPSC   มาร์เก็ตแคป 203,725   ล้านบาท ถือ  ราคาเป้าหมาย 85   บาท

ตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนขึ้นเป็น 8,000 MW ภายในปี 2573 จากปัจจุบันที่ 2,350 MW ในประเทศไทย อินเดีย ไต้หวันและเวียดนามเป็นหลัก  นอกจากนี้ ยังขยายธุรกิจนอกกลุ่มโรงโฟฟ้า กำลังการผลิตแบตเตอรี่ในไทย 30 MWh เริ่มต้นการผลิตแล้วเมื่อ ก.ค.64 อย่างไรก็ดี การเริ่มผลิตของโรงงานผลิตแบตเตอร์ลิเทียมในจีน ด้วยกำลังการผลิตที่ 1,000 MWhจะเกิดขึ้นในปีนี้ GPSC ถือหุ้น 11% ในโรงงานผลิตแห่งนี้

- OSP มาร์เก็ตแคป 112,641 ล้านบาท ซื้อ  ราคาเป้าหมาย 40.50 บาท 

 เจาะตลาดต่างประเทศเชิงรุก  โดยการดำเนินงานในต่างประเทศจะเป็นเป้าหมายหลักของบริษัทฯ ในปี 2565  ซึ่ง OSP มีประสบการณ์ในการลองผิดลองถูกในการขายเครื่องดื่มชูกำลังในลาวกัมพูชาและอินโดนีเซีย  รวมถึงมีโนว์ฮาว ข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภคที่มากเพียงพอ  เชื่อว่าบริษัทฯ มีความสามารถที่จะเพิ่มยอดขายในต่างประเทศได้ จากปี 64 เติบโต 18% 

ที่มา บล.กสิกรไทย

ภาพประกอบ  พิกซาเบย์