TNN online เช็กเลย ! 5 หุ้น mai ตัวไหนร้อนแรงพุ่งเกิน 100%

TNN ONLINE

Wealth

เช็กเลย ! 5 หุ้น mai ตัวไหนร้อนแรงพุ่งเกิน 100%

  เช็กเลย ! 5 หุ้น mai ตัวไหนร้อนแรงพุ่งเกิน 100%

ในช่วงต้นปีจนถึงปัจจุบันหุ้นตลาด mai ก็ยังเป็นหุ้นที่น่าสนใจจากนักลงทุน ไม่แพ้ SET เห็นได้จากการเข้ามาเก็งกำไรหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กกันคึกคัก จนทำให้ราคาหุ้นปรับตัววิ่งกระฉูด

TNNONLINE  สำรวจข้อมูลบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ตลาดหลักทรัพย์ mai ตั้งแต่ม.ค.-18 ก.พ. พบว่า นักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 2,043.54 ล้านบาท ขณะที่ นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 1,558.24 ล้านบาท สถาบันขายสุทธิ 480.73 ล้านบาท และบัญชีบล.ขายสุทธิ 4.57 ล้านบาท โดยหุ้นขนาดกลางและเล็กยังเป็นหุ้นที่นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรไม่แพ้หุ้นขนาดใหญ่จากผลประกอบการที่ดี และกำไรเติบโต แต่บางบริษัทก็มีความเสี่ยง เนื่องจากราคาหุ้นวิ่งขึ้นเกินปัจจัยพื้นฐานอย่างไม่มีเหตุผล ซึ่งนักลงทุนจะต้องระมัดระวังการลงทุน

 

สำหรับ 5 หุ้นที่วิ่งแรงเกิน 100% (YTD) นั้นประกอบด้วย

ZIGA            ราคาปิดอยู่ที่     18.50 บาท   เพิ่มขึ้น  330.23 % 

HYDRO (c)   ราคาปิดอยู่ที่      1.08 บาท   เพิ่มขึ้น  200.00 % 

CMO             ราคาปิดอยู่ที่     13.60 บาท   เพิ่มขึ้น  140.71 % 

PSG (c)         ราคาปิดอยู่ที่       1.19 บาท   เพิ่มขึ้น  105.17 % 

BGT              ราคาปิดอยู่ที่       2.46 บาท   เพิ่มขึ้น  100.00 % 


หุ้น ZIGA นั้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาตลท.เตือนผู้ลงทุนให้ระมัดระวังการซื้อขายหลังราคาปรับขึ้นร้อนแรงเหมือนกับหุ้นอื่น ๆ ที่มีการประกาศทำธุรกิจขุดเหมืองคริปโตเคอร์เรนซี โดยขอให้ศึกษาข้อเท็จจริง และความเสี่ยงต่างๆ เกี่ยวกับการลงทุนในธุรกิจขุดเหมืองเงินดิจิทัล (Cryptocurrency Mining) ให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจซื้อขาย นอกจากนี้ขอให้บริษัทสมาชิกทุกรายกำกับดูแลการซื้อขายและการดำเนินการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดและเคร่งครัดเพื่อป้องกันภาวะการเก็งกำไรเกินควร และการส่งคำสั่งซื้อขายที่อาจไม่เหมาะสม หรือไม่เป็นไปตาม พ.ร.บ. หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์


ทั้งนี้บริษัทรายงานผลการดำเนินปี 2564 มีกำไร 204.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 73.5% จากปี 63 ที่มีกำไร 117.7 ล้านบาท โดยบริษัทมีรายได้จากการขายในปี 64 อยู่ที่ 1,141.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.3% จากปี 63 ที่มีรายได้ 972.9 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทสามารถปรับราคาขายได้เพิ่มขึ้น และมาจากบริษัทสามารถบริ หารจัดการกับสัดส่วนสินค้า สอดคล้องกับความต้องการของตลาดและเข้าถึงลูกค้าปลายทางได้มากขึ้น


ขณะที่หุ้น HYDRO  และหุ้น PSG เป็นหุ้นที่มีเครื่องหมาย C  หรือ Caution  ต้องระมัดระวังการลงทุนอาจมีผลกระทบต่อฐานะการเงินและการดำเนินธุรกิจซึ่งผู้ลงทุนจะต้องซื้อหลักทรัพย์ดังกล่าวด้วยบัญชีแคชบาลานซ์ (Cash Balance) เท่านั้น     


โดยผลประกอบการของ HYDRO ปี 61 ขาดทุนสุทธิ 186.72 ล้านบาทปี 62 ขาดทุนสุทธิ 91.01  ล้านบาท ปี 63 ขาดทุนสุทธิ 22.67  ล้านบาทไตรมาส 3/64 ขาดทุนสุทธิ 52.50 ล้านบาท


ขณะที่หุ้น PSG ปี 61 ขาดทุนสุทธิ 243.50 ล้านบาทปี 62 ขาดทุนสุทธิ 277.59  ล้านบาท ปี 63 ขาดทุนสุทธิ 74.27   ล้านบาทไตรมาส 3/64 ขาดทุนสุทธิ 4.19  ล้านบาท


ส่วนหุ้น CMO ปี 61 กำไรสุทธิ 52.93  ล้านบาทปี 62 กำไรสุทธิ 98.61  ล้านบาท ปี 63 ขาดทุนสุทธิ 129.98   ล้านบาทไตรมาส 3/64 ขาดทุนสุทธิ  110.89 ล้านบาท


ปิดท้ายหุ้น BGT  ปี 61 ขาดทุนสุทธิ 7.71   ล้านบาทปี 62 ขาดทุนสุทธิ 42.03 ล้านบาท ปี 63 ขาดทุนสุทธิ 35.80  ล้านบาทไตรมาส 3/64 ขาดทุนสุทธิ  31 ล้านบาท


ที่มา ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 

ภาพประกอบ  พิกซาเบย์

ข่าวแนะนำ