TNN online หุ้นไทยปิดพุ่ง 10.13 จุด หลังนลท.คลายกังวลเฟด-ต่างชาติซื้อหุ้นไทย

TNN ONLINE

Wealth

หุ้นไทยปิดพุ่ง 10.13 จุด หลังนลท.คลายกังวลเฟด-ต่างชาติซื้อหุ้นไทย

หุ้นไทยปิดพุ่ง 10.13 จุด หลังนลท.คลายกังวลเฟด-ต่างชาติซื้อหุ้นไทย

ปิดตลาดหุ้นไทย ปรับขึ้น 10.13 จุด ที่ระดับ 1,711.58 จุด ด้วยมูลค่าซื้อขาย 101,538.45 ล้านบาท หลังนักลงทุนคลายกังวลเฟด-ต่างชาติกลับมาซื้อหุ้นไทย

วันนี้ (17 ก.พ.65) ดัชนี SET Index ปิดตลาด อยู่ที่ระดับ 1,711.58 จุด ปรับขึ้น 10.13 จุด หรือคิดเป็น +0.60% มีมูลค่าซื้อขายรวมทั้งสิ้น 101,538.45 ล้านบาท เคลื่อนไหวในกรอบ 1,708.43-1,718.55 จุด  เนื่องมาจากการที่ค่าเงินบาทแข็งค่ามากที่สุดในรอบ 7 เดือน และนักลงทุนต่างชาติทยอยกลับเข้าลงทุนในตลาดหุ้นไทย หลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) รอบที่ผ่านมาบ่งชี้ว่าอาจจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรุนแรงไปกว่าที่ตลาดได้คาดการณ์ไว้   และยังมีนักลงทุนบางส่วน จับตาสถานการณ์ระหว่างรัสเซียกับยูเครนต่อเนื่อง 


บล.ไอร่า เปิดเผยว่า นักลงทุนต่างชาติยังมีมุมมองเชิงบวกและซื้อหุ้นไทยต่อเนื่อง โดยต้ังแต่ต้นปีนี้ซื้อไปแล้ว 6.45 หมื่นล้านบาท แม้จะเผชิญความกังวลจากการเร่งปรับข้ึนดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ แต่คาดว่าหุ้นขนาดใหญ่ยังคงปรับขึ้นได้ต่อ จึงแนะนำให้ทยอยเข้าสะสมหุ้นในกลุ่มค้าปลีก ที่เริ่มกลับมามีความน่าสนใจอีกครั้งหลังมูลค่าซื้อขายในปัจจุบันยังอยู่ในระดับต่ำ อีกท้ังคาดว่าผลประกอบการของหุ้นในกลุ่มดังกล่าวจะทยอยกลับมาฟื้นตัวได้หลังเศรษฐกิจไทยผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19 และผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในช่วงไตรมาส3 ปี64


ด้านบล.หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยบวกชดเชยหลังจากที่บ้านเราปิดทำการไปวานนี้ ซึ่งเป็นวันที่ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น กลุ่มนำตลาดวันนี้คือหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ EV Car และการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมัน  รวมถึง กลุ่มค้าปลีกและธนาคารที่ยังปรับตัวขึ้นได้ เพราะเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อและดอกเบี้ยขาขึ้นในระดับที่จำกัด


ในวันพรุ่งนี้ คาดว่า SET INDEX แกว่งออกด้านข้างในกรอบ 1,700-1,715 จุด โดยแนะนำให้ติดตามสถานการณ์ระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ตึงเครียดมากขึ้น ซึ่งอาจจะกระทบบรรยากาศการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงเป็นระยะ  ขณะที่ ปัจจัยในประเทศติดตามการอภิปรายแบบไม่ลงมติของฝ่ายค้าน แม้ไม่กระทบต่อบรรยากาศการลงทุนในทันที แต่ในระยะถัดไปจะสท้อนความเสี่ยงทางการเมืองในประเทศได้ชัดเจนยิ่งขึ้น 


หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 หลักทรัพย์

1. KBANK  มูลค่าการซื้อขาย  8,954.36 ล้านบาท  ปิดที่  170.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

2. SCC    มูลค่าการซื้อขาย  4,192.34 ล้านบาท  ปิดที่  399.00 บาท เพิ่มขึ้น 11.00 บาท

3. BBL    มูลค่าการซื้อขาย  3,484.34 ล้านบาท  ปิดที่  145.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

       


ที่มา : บล.wvijk  ,บล.หยวนต้า ,marketdata.set.or.th

ภาพ: AFP,TNN Online 

ข่าวแนะนำ