TNN online เปิดโพย 4 หุ้นปันผลแจ่มรับมือตลาดผันผวน

TNN ONLINE

Wealth

เปิดโพย 4 หุ้นปันผลแจ่มรับมือตลาดผันผวน

เปิดโพย 4 หุ้นปันผลแจ่มรับมือตลาดผันผวน

ในยามที่ตลาดหุ้นหน้าสิ่วหน้าขวานเผชิญความเสี่ยงจากปัจจัยลบภายใน-นอกประเทศที่กดดัน หุ้นที่ปลอดภัยต่อการลงทุนยังเป็นหุ้นปันผลที่ให้ผลตอบแทนดี ท่ามกลางความไม่แน่นอนของปัจจัยแวดล้อม แนะ 4 หุ้นปันผลแจ่มน่าเก็บเข้าพอร์ต

บล.กสิกรไทยระบุว่า  ในช่วงตลาดผันผวนหุ้นที่ปลอดภัยกับการลงทุนยังคงเป็นหุ้นปันผล  แม้ว่าตลาดจะเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงแต่การดำเนินธุรกิจของบจ. มีกำไรต่อเนื่องสามารถจ่ายปันผลได้  ซึ่งเป็นหุ้นที่ทำผลงานได้ดีในช่วงการปรับฐานของตลาด 


นำโดย BAM  บมจ. บริหารสันทร์พย์ กรุงเทพพาณิชย์ เราเชื่อว่า BAM จะเป็นผู้ได้ประโยชน์หลักจากหลักเกณฑ์ของ ธปท.ที่อนุณาตให้ธนาคารพาณิชย์ก่อตั้งบริษัทร่วมทุน JV กับกลุ่มAMC เพื่อดำเนินธุรกิจหนี้เสี่ยร่วมกัน BAM เป็นผู้เชี่ยวชาญในการบริหาร NPL ที่มีหลักประกันและมีประสบการณ์ในตลาดมาอย่างยาวนานคาดกำไรสุทธิไตแข็งแกร่งในปี 65เราคาดว่า BAM จะรายงานกำไรสุทธิปี 65 ที่เดิบโตขึ้นมากกว่า50% มาอยู่ที่ 42 พันล้านบาท  หนุนจากสภาวะเศรษจกิจที่ฟื้นตัวขึ้น


อย่างไรก็ตาม แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 24.00 บาท ราคาหุ้น BAM ขณะนี้ซื้อขายด้วยPBV ปี 2565 แค่ 13 เท่า เทียบกับ PBV ของบริษัทอื่น ๆ ในกลุ่ม AMC ที่มากกว่า 4 เท่า กำไรสุทธิที่คาดจะฟื้นตัวขึ้นในปี 2565 จะเป็นปัจจัยหนุนหลัก Dividend yield 2.9% 


หุ้นเด่นตัวต่อมาคือ DTAC บมจ. โกเท็ล แอ็คเซ็ล คอมมูนิเคชั่น  ดีลควบรวมกิจการ : เราคงมุมมองบวกต่อกลุ่มโทรคมนาคมไทยจากโอกาสที่เกิดการรวมตลาดโทรศัพท์มือถือ เราเชื่อว่าบรรยากาศการแข่งขันที่ดีขึ้นอาจไม่เกิดขึ้นจากจำนวนผู้เล่นในตลาดที่ลดลงแต่จะขึ้นอยู่กับการถือครองคลื่นความถี่ที่กลับมาสมดุลหลังรวมกิจการมากกว่า


มูลค่าจากการผนึกกำลัง :  หากพิจารณาจาก swap ratio เราคาดว่า equity value หลังรวมกิจการของ DTAC และ TRUE  จะอยู่ที่ 46.21-64.03 บาท และ 4.53-6.27 บาท ภายใต้มูลค่าที่เกิดจากการรวมกิจการในหลายสมมติฐานที่กรอบ 2-5 พันล้าน


แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย51.18 บาทปัจจัยหนุนราคาหุ้น ได้แก่ 1. เงินปันผลครึ่งหลังปีนี้ที่น่ประหลาดใจ 2. พัฒนาการเชิงบวกเที่ยวกับมีปัจจัยหนุนราคาหุ้นอีกเพราะการรวมกิจการและ 3. มูลค่าจากคาดว่า ROE ปี 2565 จะอยู่ที่ 14%การรวมกิจการที่สูงกว่าคาด  Dividend yield 5.5%


หุ้นเด่นตัวต่อมาคือ KKP  บมจ. ธนาคารเกียรตินาคินภัทร คาดการณ์ปี 65 อยู่ในเชิงบวก โดยผู้บริหารตั้งเป้าสินเชื่อปี 65 เติบโตขึ้น 12% ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดในกลุ่มธนาคารที่เราวิเคราะห์อยู่ เนื่องจาก KKP เพิ่งได้รับแบรนด์ HP ใหม่ในช่วงกลางปี 64 และจะเจาะตลาด HP ใหม่ในปี 65 กลุ่มหลักที่คาดจะเดิบโตขึ้นยังเป็นกลุ่มรายย่อยและธุรกิจในปี 65 


นอกจากนี้ ผู้บริหารยังคาดว่าจะสามารถลดเงินสำรองลงได้อีกในปี 65 จากmanagement overlay และสภาวะเศรษจูกิจที่ดีขึ้นในปี 65 คาดกำไรสุทธิของ KKP แตะระดับสูงสุดใหม่ในปี 64 เราคาดว่ากำไรสุทธิจะขยายตัวขึ้นต่อเนื่องที่ 4% ในปี 65 หนุนจากค่าใช้จ่ายผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น หรือ ECL ที่ลดลงและ non-NII หรือรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยสูงขึ้น


 แนะนำซื้อราคาเป้าหมาย  80.00 บาทราคาหุ้น KKP ขณะนี้ซื้อขายด้วยPBV แค่ 1 เท่า ซึ่งเราเชื่อว่าจะมีปัจจัยหนุนราคาหุ้นอีกเพราะคาดว่า ROE ปี 2565 จะอยู่ที่ 14%เป็นอย่างน้อยที่สุด  Dividend yield 5.6%


ปิดท้ายที่ LH  บมจ. แลนด์ แอนด์ เอ้าส์ แผนธุรกิจปี 65 ที่LH มีการประกาศเมื่อเร็ว ๆ นี้เป็นการยืนยันมุมมองของเราว่าผลประกอบการปี 2565 จะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งที่ประมาณ25.9% YOY จากระดับที่ต่ำผิดปกติในปี 2564 ที่ 6.7 พันลบ.หนึ่งในผู้ที่ได้ประโยชน์จากการกลับมาเปิดกิจกรรมทางเครษฐกิจ นอกจากอุปสงค์บ้านที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยรวมแล้ว ผลการดำเนินงานของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ให้เช่าและการลงทุนก็ยังเพิ่มขึ้นอีกด้วย


ทั้งนี้แนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 10.40 บาทแม้กำไรจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี 65 จะเป็นที่สามารถคาดหวังได้ แต่การวางแผนขายสินทรัพย์ของ LH ในสหรัฐอเมริกาก็ทำให้เกิดความเสี่ยงขาขึ้นต่อการคาดการณ์ของเรา เช่นเดียวกับผลตอบแทน DY ปี 65  โดย Dividend yield 6.2%


ที่มา บล.กสิกรไทย

ภาพประกอบ  บล.กสิกรไทย


ข่าวแนะนำ