ธุรกิจค้าปลีกมีแนวโน้มฟื้นตัว -ช้อปดีมีคืน กระตุ้นการใช้จ่ายของกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูง
เซ็นทรัล รีเทล มองธุรกิจค้าปลีกมีแนวโน้มดีขึ้น หลังโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย รัฐบาลไม่ล็อกดาวน์ - ช้อปดีมีคืน กระตุ้นการใช้จ่ายของกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูง เกิดการใช้จ่ายในประเทศ เชื่อหากเปิดประเทศจะดึงรายได้จากนักท่องเที่ยวเพิ่ม
วันนี้( 8 ก.พ.65) นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจรีเทลในประเทศมีแนวโน้มดีขึ้น หลังจากที่ได้ผ่านวิกฤตโควิด-19 มาแล้ว และจะค่อยๆฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยมาตรการต่างๆจากภาครัฐมีส่วนสำคัญต่อการกระตุ้นการจับจ่าย โดยโครงการ ช้อปดีมีคืน เป็นโครงการที่ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูง จะเห็นได้จากยอดขายสินค้าแบรนด์เนม และยอดขายในภาพรวมของกลุ่ม CRC
ทั้งนี้ บริษัทมีแผนดำเนินงานของบริษัทในช่วง 5 ปี โดยตั้งเป้ารายได้และมูลค่าตลาด (Market Cap) เติบโตขึ้น 2.5 เท่าภายในปี 69 ซึ่งการเติบโตของยอดขายหลักยังคงมาจากพอร์ตธุรกิจรีเทลในไทยและเวียดนามที่จะกลับมาเติบโตอย่างโดดเด่นขึ้น หลังจากที่การแพร่ระบาดโควิด-19 คลี่คลายลง และไม่มีการล็อกดาวน์ ทำให้กิจกรรมเศรษฐกิจในประเทศกลับมา และหากภาครัฐประกาศนโยบายเปิดประเทศอีกครั้ง ก็คาดว่าจะทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาท่องเที่ยวในไทย ดึงรายได้ต่างชาติกลับเข้าประเทศได้อีกครั้ง
ขณะที่ธุรกิจห้างสรรพสินค้า Rinascente ในอิตาลี ยังสามารถสร้างยอดขายได้ดีอย่างต่อเนื่อง และฟื้นตัวกลับมาเป็นที่แรกหลังจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ในยุโรปเริ่มดีขึ้น โดยปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของบริษัทมาจากธุรกิจในประเทศไทย 70% เวียดนาม 20% และอิตาลี 10%
ขณะที่การขยายผ่านช่องทางออนไลน์ยังคงเห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งจำนวนการขายและยอดการจับใช้จ่ายที่เติบโตขึ้น โดยที่สัดส่วนยอดขายจากช่องทางออนไลน์ปัจจุบันเพิ่มขึ้นมาที่ 20% ของยอดขายรวม ซึ่งเป็นช่องทางหนึ่งที่ CRC จะทำควบคู่กันไปกับช่องทางการขายผ่านสาขา อีกทั้งการกลับมาเปิดประเทศจะทำให้มีกลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยวเข้ามาช่วยเสริม แต่มองว่าจะเข้ามาสนับสนุนการฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลัง
"สงครามได้จบไปแล้ว เริ่มเห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ชัดเจนขึ้น CRC ออกจากอุโมงค์โควิดได้เร็ว ที่ผ่านมา 2 ปี เราก็สู้กับโควิดมาตลอด ทำให้เราเหมือนได้พักสะสมพลัง จากการที่เราได้เตรียมตัวระบบงานต่างๆ ภายในบริษัท เหมือนเสือที่โดนโซ่ล่ามไว้ และเมื่อโซ่ถูกปลดออกก็พร้อมทะยานเข้าล่าเหยื่อ ตอนนี้เราพร้อมที่จะอยู่กับโควิดและเดินหน้าธุรกิจเต็มที่ พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ที่เข้ามา"นายญนน์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม เซ็นทรัล รีเทล ได้เตรียมพร้อมเดินหน้า 4 ยุทธศาสตร์สำคัญ ประกอบด้วย
1. Reinvent Next-Gen Omni Retail – ยกระดับแพลตฟอร์มออมนิแชแนลผ่านการเชื่อมโลกจริงและโลกเสมือนจริง โดยใช้เทคโนโลยีและดิจิทัลใหม่ ๆ เพื่อมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งเหนือระดับในทุกกลุ่มธุรกิจ ทั้งฟู้ด แฟชั่น ฮาร์ดไลน์ พร็อพเพอร์ตี้ รวมถึงกลุ่มธุรกิจใหม่ ๆ ครอบคลุมทั่วประเทศทั้งในไทย เวียดนาม และอิตาลี
2. Accelerate Core Leadership – เร่งการขับเคลื่อนและสร้างการเติบโตในกลุ่มธุรกิจหลักของ เซ็นทรัล รีเทล ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ระดับสากล
3. Build New Growth Pillars – เดินหน้าสร้างธุรกิจใหม่ โดยเริ่มจากกลุ่ม Wellness รวมถึงเซ็กเมนต์อื่น ๆ ที่เป็นไปตามเทรนด์ของโลกและความต้องการของผู้บริโภค
และ4. Drive Partnership, Acquisition and Spin Off ขยายธุรกิจภายใต้แนวคิด Inclusive Growth สร้างความสำเร็จร่วมกันกับพาร์ทเนอร์เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน
ซึ่งเซ็นทรัล รีเทล ตั้งเป้าผลประกอบการในอีก 5 ปีข้างหน้า จะเติบโตในทุกมิติ ผลักดันรายได้เติบโต 2.5 เท่า EBITDA เพิ่มขึ้น 3.5 เท่า และ Market Cap เพิ่มขึ้น 2.5 เท่า ด้วยงบลงทุน 100,000 ล้านบาท ด้วยรากฐานทางธุรกิจที่แข็งแกร่งของ Next-Gen Omni Retail ผนวกกับ CRC Data Ecosystem
ที่มา : บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
ภาพประกอบ : ช่างภาพ TNN Online