แนะปรับพอร์ตลงทุนรับวัยเกษียณ เน้นเมกะเทรนด์

นายพิชา รัตนธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ธนาคารทิสโก้    เปิดเผยว่า จากการที่ประเทศไทยกำลังกำลังก้าวสู่สังคมสูงอายุ และมีแนวโน้มว่าประชากรไทยจะมีอายุยืนเกือบ 100 ปี* ประกอบกับความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีการแพทย์ ทำให้มีโอกาสรักษาโรคต่างๆ มากขึ้น แต่ก็มาพร้อมกับค่าใช้จ่ายในการรักษาที่สูงขึ้น 

อีกทั้งการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ ของคนวัยเกษียณที่ยังคงมีค่าใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยว รวมถึงการเข้าสังคมกับเพื่อนไม่ต่างจากวัยทำงาน ทั้งหมดนี้อาจะทำให้แผนเกษียณในรูปแบบเดิมไม่เพียงพอต่อการใช้ชีวิตหลังเกษียณที่เปลี่ยนไปจากในอดีต 

อย่างไรก็ตามธนาคารทิสโก้ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านที่ปรึกษาการเงิน (Financial Advisor)  เล็งเห็นว่า “แผนการเงินเพื่อการเกษียณ” ของลูกค้าจำเป็นจะต้อง “ปรับเปลี่ยน” เพื่อให้เพียงพอต่อการใช้ชีวิตหลังเกษียณที่มีคุณภาพตลอดช่วงอายุ จึงได้ยกระดับคำแนะนำการวางแผนเกษียณภายใต้คอนเซ็ปต์ “Megatrend Retirement Planning” ซึ่งเป็นการวางแผนที่เท่าทันกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก (Megatrends)

 

ทั้งนี้เนื่องจากเป็นธุรกิจที่ได้อานิสงส์โดยตรงจากการเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคทั่วโลกและมีโอกาสเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด เช่น การเติบโตของหุ้น Amazon บริษัท E-Commerce ยักษ์ใหญ่ของโลกที่ปัจจุบันราคาหุ้นเพิ่มขึ้นกว่า 200,000% เมื่อเทียบกับราคา IPO เมื่อ 25 ปีก่อน เป็นต้น และถึงแม้ธุรกิจในกลุ่ม Megatrends จะมีโอกาสผันผวนไปตามความเสี่ยงของตลาด แต่ด้วยผลตอบแทนที่น่าสนใจและการลงทุนระยะยาวในรูปแบบของการลงทุนเพื่อการเกษียณจะทำให้ฝ่าด่านความผันผวนที่เกิดขึ้นได้ในที่สุด 

ตัวอย่าง Megatrend Investment ที่น่าสนใจในปัจจุบัน เช่น Cloud Computing ที่จะเติบโตขึ้นตามปริมาณการใช้ Data ตามมาด้วยกลุ่ม Cyber Security ที่จะเห็นการใช้เม็ดเงินลงทุนเพื่อปกป้องข้อมูลเหล่านั้น ที่น่าสนใจในช่วงนี้อีกธีมคือ Innovative Healthcare หรือนวัตกรรมการแพทย์ ซึ่งเป็นธีมการลงทุนที่สอดคล้องกับสังคมสูงวัย โดยเป็นการผสมผสานระหว่างนวัตกรรมทางการแพทย์และเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าเพื่อนำไปสู่การให้บริการทางการแพทย์ที่มีประ สิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 

ด้านการปกป้องความมั่งคั่ง (Wealth Protection) ด้วยประกันที่เป็น Megatrend Protection นั้น ในส่วนนี้หากจะให้มีความคุ้มครองที่ครอบคลุมและคุ้มค่า จำเป็นต้องได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ความคุ้มครองนั้นเพียงพอต่อไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคล และป้องกันไม่ให้เกิด Over Protection หรือซื้อมากไปจนเกินพอดี อีกทั้งยังควรคำนึงถึงการชำระเบี้ยที่จะเกิดขึ้นหลังเกษียณอายุอีกด้วย  

โดยเบื้องต้นในส่วน “ประกันสุขภาพ” และ “ประกันโรคร้ายแรง” จะเน้นให้วางแผนโดยเลือกกรมธรรม์ที่มีทุนประกันสูงมากเพียงพอ หรือเป็นรูปแบบเหมาจ่าย เพื่อให้เข้าถึงการรักษาที่มีประสิทธิภาพตามเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดด   

ขณะที่ “ประกันบำนาญ” จะเน้นให้เลือกกรมธรรม์ที่มอบผลประโยชน์ในขณะดำรงชีวิต (Living Benefit) ในระดับสูง เพื่อสร้างกระแสเงินสดรับที่ชัดเจนสม่ำ เสมอตลอดอายุขัยหรือจนครบสัญญาฯ ทำให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขตามไลฟ์สไตล์ที่ตั้งใจ 

ที่มา  ธนาคารทิสโก้  

ภาพประกอบ  ธนาคารทิสโก้