เปิดโพย 13 หุ้นเด่นปีเสือตัวไหนปัง- อัพไซด์สูง
บล.กสิกรไทยมองตลาดหุ้นยุโรป สหรัฐฯ ญี่ปุ่นน่าลงทุนคาดเติบโตก่อนเกิดโควิด ส่วนตลาดหุ้นไทยในช่วงครึ่ง ปีแรกและครึ่งปีหลังมีหุ้นตัวไหนน่าลงทุนเติมพอร์ตตามไปส่องกันเลย
บล.กสิกรไทยระบุว่า ปัจจัยเสี่ยงการลงทุนในปีเสือนั้นยังเป็นอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่ยังอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด เร่งปรับลดเม็ดเงินที่ใช้กระตุ้นเศรษฐกิจลง (QE Tapering) ) เร็วขึ้น เป็นเดือนละ 30,000 ล้านดอลลาร์ฯ จากเดิมปรับลดเดือนละ 15,000 ล้านดอลลาร์ฯ และคาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปีหน้า อีก 2-3 ครั้ง ทำให้ตราสารหนี้ โดยเฉพาะพันธบัตรรัฐบาล หรือตราสารหนี้ที่มี Rating สูง อาจมีความน่าสนใจลดลง
สำหรับพระเอกที่จะช่วยพยุงผลตอบแทนใน ปี 2565 ยังคงเป็นการลงทุนในตลาดหุ้น โดยคาดการณ์ GDP ในปี 2565 (Bloomberg Consensus) ประเทศเศรษฐกิจใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น สหรัฐฯ ยูโรโซน ญี่ปุ่น อาจเติบโตสูงกว่าค่าเฉลี่ยก่อนเกิดโควิด 19 (Pre-COVID Level) มีเพียงจีนที่ส่งสัญญาณชะลอตัวเล็กน้อย หากแยกข้อมูลคาดการณ์ GDP รายไตรมาส พบว่าสหรัฐฯ กับยูโรโซน คาดการณ์ว่าจะเติบโตสูงสุดในช่วงครึ่งปีแรก ส่วนครึ่งปีหลังจะเป็นจีนและญี่ปุ่น
ส่วนการเลือกลงทุนในหุ้นประเทศใดดีนั้น แนะนำ 2 ปัจจัยในการช่วยตัดสินใจ คือ 1. อัตราการเติบโตของกำไรต่อหุ้น (EPS Growth) ยิ่งเยอะ ยิ่งดี และ 2. ระดับอัตราราคาหุ้น (ล่วงหน้า) เทียบกับกำไรต่อหุ้น (Fwd P/E) ยิ่งน้อย ยิ่งดี ยิ่งราคาถูกเทียบกับกำไรที่จะได้รับ
โดยพบว่าตลาดหุ้นเวียดนาม (VN Index) และตลาดหุ้นจีน (CSI 300) อยู่ในกลุ่มที่มี EPS Growth สูง และกำไรต่อหุ้น (Fwd P/E) น้อยกว่าเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ทำให้ตลาดหุ้นเวียดนาม หรือหุ้นจีนเป็นจับตาในปี 65 ขณะที่ตลาดหุ้นไทยธีมการลงทุนทั้งในครึ่งปีแรกและครึ่งปีหลังจะมีหุ้นตัวไหนที่โดดเด่นและน่าเก็บสะสมในพอร์ตตามไปดูกันเลย
หุ้นเด่นช่วงครึ่งแรก (ม.ค.-มิ.ย.)
- ผู้ที่ได้ประโยชน์จากการเลือกตั้ง (CPALL, OSP, LH และ STEC) คาดว่ารัฐบาลจะอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและโครงการโครงสร้างพื้นฐานเพื่อกระตุ้นการบริโภคและการลงทุนภายในประเทศก่อนการเลือกตั้ง ซึ่งจะช่วยให้ GDP ปี 2565 เติบโตประมาณ 4%
- หุ้นกลุ่ม Anti Commodities plays (PTG GFPT EPG และ BGRIM) หุ้นกลุ่ม Anti Commodities plays จะดีดตัวขึ้น หากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ลดลง จากการผ่อนคลายข้อจำกัดด้านอุปทานในปี 2565 น่าจะเสนอโอกาสในการ Trading หุ้นกลุ่มนี้
- ผู้ได้ประโยชน์หลักจากกระแสความนิยมของรถยนต์ (KCE) ยอดขายรถยนต์ ICE และ EV ที่เพิ่มขึ้นจะผลักดันการเติบโตของยอดขาย PCB
- การใช้ data usage 5G ที่เพิ่มขึ้น (ADVANC) การเร่งย้ายข้อมูลจากคลื่น 4G ไปยัง 5G IoT และ Metaverse จะเพิ่มความต้องการใช้ข้อมูล
หุ้นเด่นช่วงครึ่งหลัง (ก.ค.-ธ.ค.)
- Pent-up demand ของการเดินทาง (SPRC และ AWC) การเดินทางระหว่างประเทศในปี 2565 อาจเพิ่มขึ้น 2 ถึง 3 เท่าจากระดับปกติ เนื่องจาก “pent-up demand" ซึ่งน่าจะช่วยกระตุ้นค่าการกลั่น (GRM) ของ SPRC และอัตราการเช่าพื้นที่ของ AWC
- อัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น (BLA และ SCB) นโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้นหลังวิกฤติโควิด-19 จะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์ต่อการเติบโตของสินเชื่อธนาคารและส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) และเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ของบริษัทประกันภัย
ที่มา บล.กสิกรไทย
ภาพประกอบ บล.กสิกรไทย