TNN online หุ้นไทยปิดบวก 4.59 จุด จากการที่ตลาดไม่ตระหนกตัวเลขติดเชื้อโควิดโอมิครอน

TNN ONLINE

Wealth

หุ้นไทยปิดบวก 4.59 จุด จากการที่ตลาดไม่ตระหนกตัวเลขติดเชื้อโควิดโอมิครอน

หุ้นไทยปิดบวก 4.59 จุด จากการที่ตลาดไม่ตระหนกตัวเลขติดเชื้อโควิดโอมิครอน

ดัชนีหุ้นไทยปิดวันนี้ที่ 1,657.62 จุด ปรับขึ้น 4.59 จุด ด้วยมูลค่าซื้อขายรวมทั้งสิ้น 89,096.14 ล้านบาท หลังตลาดตอบรับประเด็นเฟดมีแนวโน้วปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วไปแล้ว - ไม่ค่อยกังวลตัวเลขติดเชื้อโควิดโอมิครอนมากนัก

วันนี้( 7 ม.ค.65) ดัชนี SET Index ปิดตลาด อยู่ที่ระดับ 1,657.62 จุด ปรับขึ้น 4.59 จุด หรือคิดเป็น +0.28% ด้วยมูลค่าซื้อขายรวมทั้งสิ้น 89,096.14 ล้านบาท เคลื่อนไหวในกรอบ 1,650.53-1,662.42 จุด  หลังจากที่ตลาดตอบรับประเด็นเฟดมีแนวโน้วปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วว่าที่คาดการณ์ไม่มาก ประกอบกับที่ประชุม ศบค. ยังไม่ใช้มาตรการคุมเข้มถึงขั้นล็อกดาวน์พื้นที่ต่างๆ แต่ปรับพื้นที่ควบคุมสีส้มเพิ่มขึ้นเป็น 69 จังหวัดและได้เลื่อนการเปิดเมืองท่องเที่ยวกับมาตรการเทสต์แอนด์โกออกไปไม่มีกำหนด 


โดยบล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยปิดบวกได้เล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนไม่มีความกังวลกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ปรับตัวขึ้น เชื่อว่ารัฐบาลน่าจะคุมสถานการณ์ไว้ได้ จึงยังไม่มีการตอบรับเชิงลบ  ทำให้มีแรงเก็งกำไรหุ้นขนาดใหญ่ บางตัว เช่น PTTEP จากราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น และเก็งกำไรหุ้นขนาดเล็ก หลังจากไม่มั่นใจทิศทางเม็ดเงินต่างชาติ (Fund Flow) จากวานนี้ที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิออกมา นักลงทุนรอประเมินทิศทาง Fund Flow จึงไม่เห็นแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่มากนัก 


ส่วนสัปดาห์หน้าคาดว่าภาพรวมอาจจะผันผวน จากตัวเลขการระบาดน่าจะเป็นขาขึ้นเต็มตัว อาจเป็นหลักหมื่น โดยในการระบาดที่แอฟริกาตลาดตอบรับเชิงลบในระยะสั้น และมองว่า นักลงทุนส่วนใหญ่ก็ไม่ได้กลัวตัวเลขการระบาดมากนัก โดยจำนวนผู้เสียชีวิตไม่ได้มาก แต่น่าจะให้น้ำหนักกับการส่งสัญญาณของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) มากกว่า และรอดูทิศทาง Fund Flow  ถ้าวันนี้ยังซื้อสุทธิก็น่าจะหนุนตลาดต่อ ให้แนวรับสำคัญที่ 1,640 จุด แนวต้านที่ 1,680 จุด


ด้าน บล. ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า กลยุทธ์การลงทุนปีนี้ เน้นหุ้นเติบโตที่ราคาสมเหตุสมผล 2 กลุ่มกลัก ได้แก่ หุ้นที่คาดว่าผลการดำเนินงานจะกลับมาเติบโตได้ดีตามวัฏจักรเศรษฐกิจและการเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้น อาทิ กลุ่มธนาคาร ร้านอาหาร พลังงาน และหุ้นที่มีแนวโน้มเติบโตแบบก้าวกระโดด ได้รับประโยชน์จากเทรนด์การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างธุรกิจของโลกยุคใหม่ อาทิ กลุ่มไอซีที แม้ผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนมีโอกาสเติบโตใกล้ 0% หากแผนการเปิดรับนักท่องเที่ยวต้องเลื่อนระยะเวลาออกไป


สำหรับ หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3  อันดับได้แก่ 

1.  KBANK   มูลค่าการซื้อขาย  3,381.60  ล้านบาท  ปิดที่  142.50  บาท  ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

2. PTTEP    มูลค่าการซื้อขาย  3,244.41  ล้านบาท  ปิดที่  124.00  บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท

3.  EA           มูลค่าการซื้อขาย  2,977.45  ล้านบาท  ปิดที่   97.00  บาท  ลดลง 2.00 บาท

หุ้นไทยปิดบวก 4.59 จุด จากการที่ตลาดไม่ตระหนกตัวเลขติดเชื้อโควิดโอมิครอน

ที่มา :  marketdata.set.or.th , บล.หยวนต้า ,บล.ไทยพาณิชย์ 

ภาพประกอบ :  AFP ,TNNONLINE

ข่าวแนะนำ