หุ้นไทยปิดร่วง 23.76 จุด นลท.วิตกเฟดขึ้นดอกเบี้ยเร็ว-โอมิครอนระบาดหนัก

หุ้นไทยปิดปรับตัวลดลงกว่า 23.76 จุด ที่ระดับ 1,653.03 จุด ด้วยมูลค่าซื้อขายรวมทั้งสิ้น 106,477.92 ล้านบาท จากแรงกดดันความกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยเร็ว-โควิดโอมิครอนในไทยทวีความรุนแรงขึ้น

วันนี้ (6 ม.ค.64 ) ดัชนี SET Index ปิดตลาด อยู่ที่ระดับ 1,653.03 จุด ปรับลง 23.76 จุด หรือคิดเป็น -1.42% ด้วยมูลค่าซื้อขายรวมทั้งสิ้น 106,477.92 ล้านบาท อยู่ในกรอบ 1,653.03-1,666.22 จุด โดยดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน จากธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)มีแนวโน้วปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วว่าที่คาดการณ์ และยังรวมถึงการปรับลดการถือครองสินทรัพย์ทั้งหมดเพื่อสกัดการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อจึงทำให้สภาพคล่องในตลาดลดลง อีกทั้งความกังวลกรณีโควิดโอมิครอนในไทยกระจายตัวไปแล้ว 55 จังหวัดแล้ว

บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า SET Index พลิกกลับมาทรุดตัวลง -1.4% ปิดที่ 1,653 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นกว่า 1 แสนล้านบาท แรงกดดันมาจากความกังวลในการดำเนินนโยบายการเงินตึงตัวของเฟด และสถานการณ์การระบาดของ Omicron ที่ทำให้หลายประเทศออกมาตรการจำกัดการเดินทางมากขึ้น ส่วนแนวโน้ม คาดว่า SET Index แกว่งทรงตัวในกรอบ 1,645-1,660 จุด มองอัตราเร่งการปรับลงจะเริ่มชะลอตัว และอาจเห็นจังหวะฟื้นตัวกลับระยะสั้น

ด้าน บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ปรับตัวลดลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภุฒิภาค หลังรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด รวมทั้งระบุว่าจะปรับลดขนาดงบดุลบัญชี (Balance Sheet) ทันทีที่ขึ้นดอกเบี้ย ส่งผลให้มีความกังวลสภาพคล่องที่อาจจะหายไป

โดยแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในวันพรุ่งนี้คาดว่าจะจะปรับตัวลดลงหลังจากที่พักฐานค่อนข้างรุนแรงไปแล้วในวันนี้ โดยยังคงต้องติดตามตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนในประเทศที่เร่งตัวขึ้น มองแนวรับไว้ที่ 1,645-1,650 จุด และแนวต้าน 1,665-1,670 จุด

ขณะที่ บลจ. วรรณ ให้นักลงทุนติดตามสถานการณ์โควิด ตัวเลขแนวโน้มเงินเฟ้อในต่างประเทศ เนื่องจากจะส่งผลต่อการตัดสินใจนโยบายการเงินของธนาคารกลางทั่วโลก และส่งผลต่อกระแสเงินทุนของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งหากธนาคารกลางประเทศพัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐฯ ยุโรป ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าตลาดคาดการณ์มองว่าจะกระทบต่อบรรยากาศตลาดหุ้นไทยในช่วงครึ่งปีแรกและหากทยอยปรับขึ้น 3 ครั้งในปีนี้ทิศทางการเคลื่อนไหวของดัชนีจะอยู่ลักษณะแกว่งตัวออกข้าง

สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 หลักทรัพย์ ได้แก่

1.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 5,036.35 ล้านบาท ปิดที่ 142.50 บาท ลดลง 3.50 บาท

2.EA มูลค่าการซื้อขาย 4,323.57 ล้านบาท ปิดที่ 99.00 บาท ลดลง 0.25 บาท

3.PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,745.87 ล้านบาท ปิดที่ 38.00 บาท ลดลง 1.00 บาท

หุ้นไทยปิดร่วง 23.76 จุด นลท.วิตกเฟดขึ้นดอกเบี้ยเร็ว-โอมิครอนระบาดหนัก