เทรดทอง xauusd กับวิธีการวิเคราะห์ ราคาบิทคอยน์

        

ที่มาของรูป : https://www.pexels.com/photo/bitcoin-coin-on-background-of-business-charts-7788006/

          เช้านี้ราคาทองคำ ณ วันที่ 8/12/2021 แม้จะบวกขึ้นมาเล็กน้อย เพียง $4.40 แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อการขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ได้ โดยราคาปิดเมื่อคืนวันที่ 7/8/2021 ที่ผ่านมานั้นอยู่ที่ระดับ $1784.08 ราคาทองคำที่ตกลงอย่างต่อเนื่อง ผนวกกับข่าวการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 สายพันธุ์โอมิคอน ที่มีการกลายพันธุ์จากทวีปแอฟริกา ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการว่าน่าจะเป็นมาจากผลพวงของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) มีท่าทีที่จะร่นระยะเวลาการลด QE ให้ไวขึ้นและปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2022 มากกว่า แม้ในภาพรวมราคาทองคำจะมีแนวโน้มเป็นขาลงในอนาคตก็ตาม 

          ในทางเทคนิคถือว่าราคายังไม่หลุดกรอบแนวรับและดูเหมือนกำลังแพทเทิร์นเพื่อรอวันกลับตัว โดยเฉพาะการปรับตัวลงของบรรดาเหรียญดิจิทัลต่างๆ ที่ลดลงมากกว่า 30% ในช่วงที่ผ่านมาเช่นกัน ทั้งนี้เพื่อลดความเสี่ยงจากการที่เฟดจะลดการทำ QE และลดดอกเบี้ยในอนาคต แต่ถึงอย่างไรราคาของสินทรัพย์ทั้งสองยังไม่หลุดแนวรับสำคัญที่ทำไว้ ดังจะเห็นได้จากราคาทองมีการทำ side way ให้ราคาออกด้านข้างมาตั้งแต่ สิงหาคม โดยมีกรอบการเทรดอยู่ระหว่าง $1700 - $1880 +- $20 ถ้าเป็นนักลงทุนระยะสั้นสามารถใช้เทคนิคการสวิงเทรด ลงซื้อ ขึ้นขาย ตามกรอบแนวรับแนวต้านได้ ซึ่งคาดการณ์ว่าสถานการณ์ทองคำ xauusdจะเด่นชัดขึ้นหลังจากการประชุม FOMC ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 15-16 ธันวาคม 2021 ที่จะถึงนี้ โดยมีข้อมูลที่น่าสนใจที่นักลงทุนให้ความสนใจคือ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา หลังจากมีการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง 2 เดือนที่ผ่านมา (ก.ย. 0.4%, ต.ค. 0.9%) ซึ่งสูงกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยในเดือนพฤศจิกายนนี้ ทางนักวิเคราะห์ได้ประเมินและคาดการณ์ไว้อยู่ที่ 0.7% คงต้องมารอดูว่าในการประชุมดังกล่าวจะมีค่าเท่าใด เพราะดัชนีราคาผู้บริโภคถือเป็นหนึ่งในปัจจัยที่เฟดจะใช้ในการพิจารณาลดการทำ QE ลงเพื่อลดอัตราเงินเฟ้อหลังพุ่งไม่หยุดและมีท่าทีจะปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ หากเฟดยังไม่มีการปรับลด QE และ ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้

แนวคิดการเทรดทอง xauusdระยะสั้น–ยาว

          สำหรับนักลงทุนที่ต้องการจะเทรดทองเพื่อทำกำไรในระยะสั้น สามารถดูกรอบแนวรับที่บริเวณ $1720 หากลงมาพร้อมค่า RSI เข้าเขต oversold ถือเป็นจังหวะซื้อ ‘เพื่อเล่นสั้น’ หรือถือหากราคามีการปรับตัวสูงขึ้นเกินกว่า $1760 โดยนักลงทุนสามารถดูได้จากกราฟราคา ได้xauusdด้านล่างจะเห็นถึงพฤติกรรมของราคาและ RSI ที่ลงมาบริเวณ Oversold แล้วมักจะมีแรงซื้อเข้ามาในปริมาณมากก่อนทำให้ราคาดีดตัวขึ้นไปสูงถึง $1880 ในรอบที่ผ่านมา

ที่มารูปภาพ : https://th.tradingview.com/

         ในขณะที่ภาพระยะยาวมุมมองจากกราฟทางเทคนิค ดูเหมือนว่าราคาทองคำกำลังทำแพทเทิร์นสามเหลี่ยมSymmetrical Triangle ซึ่งเป็นรูปแบบการขึ้นแบบต่อเนื่อง ดังเช่นกราฟทางเทคนิคในรูปด้านล่างที่เป็นกราฟ Time frame week

ที่มารูปภาพ : https://th.tradingview.com/

          ซึ่งสอดคล้องกับ macd เองก็วิ่งตัดขึ้นมาเหนือศูนย์ด้วยเช่นกัน ในส่วนของนักลงทุนระยะยาวมีแนวรับ บริเวณ $1680 - $1700 ซึ่งการลงทุนทองคำในระยะยาวดูเหมือนจะได้เปรียบมากกว่า คาดว่าทั้งทองคำ หุ้น ฟอเร็กซ์ จะมีความผันผวนเป็นอย่างมากในช่วงที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพราะหลายประเทศต่างกู้เงินมาเพื่อพยุงเศรษฐกิจของตนเองในช่วงที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ หากยังไม่สามารถชำระเงินกู้ที่ยืมมาได้ก่อนมีการประกาศอัตราดอกเบี้ยขึ้น เกรงว่าจะเกิดวิกฤตทางการเงินขึ้นอีกครั้งหลังจากที่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาแล้วในประเทศไทยเมื่อครั้งวิกฤตต้มยำกุ้ง ในปี พ.ศ. 2538-2540 

กองทุน SPDR อีกหนึ่งปัจจัยในการตัดสินใจเข้าลงทุน

          กองทุน SPDR ถือเป็นกองทุนทองคำระดับโลกที่มีการลงทุนในทองคำทั้งหมด เป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการตัดสินใจเข้าซื้อทองคำของนักลงทุนและสถาบันทางการเงินของแต่ละประเทศ โดยปัจจุบันกองทุน SPDR มีปริมาณการถือครองทองคำแท่งของ ณวันที่ 08 ธันวาคม 2021 982.64 ตัน ถือว่าลดลงจากต้นปี 2021 ถึง 188.1 ตัน ถือว่ามีปริมาณการถือครองที่ต่ำกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ในส่วนของธนาคารแห่งประเทศไทยเองในช่วงต้นปี-กลางปี 2021 ที่ผ่านมา มีการเข้าซื้อทองคำแท่งอย่างต่อเนื่องและเป็นการซื้อทองคำสะสมจนติดอันดับต้นๆ ของโลก เพื่อเป็นทุนสำรองระหว่างประเทศและรักษามูลค่าในรูปเงินตราของต่างประเทศเพื่ออำนาจซื้อขายในตลาดโลกและป้องกันปัญหาวิกฤตการเงินที่ไม่คาดคิดในอนาคตนั่นเอง

สถิติมูลค่าการถือครองทองคำสะสมของธนาคารแห่งประเทศไทยในปี 2564

- เดือนมกราคม 2564 มีทองคำสะสมรวมมูลค่า 273,869.68 ล้านบาท

- เดือนกุมภาพันธ์ 2564 มีทองคำสะสมรวมมูลค่า 257,649.29 ล้านบาท

- เดือนมีนาคม 2564 มีทองคำสะสมรวมมูลค่า 264,808.71 ล้านบาท

- เดือนเมษายน 2564 มีทองคำสะสมรวมมูลค่า 350,293.43 ล้านบาท

- เดือนพฤษภาคม 2564 มีทองคำสะสมรวมมูลค่า 467,614.67 ล้านบาท

- เดือนมิถุนายน 2564 มีทองคำสะสมรวมมูลค่า 445,226.54 ล้านบาท

ราคาบิทคอยน์ กับความกังวลของนักลงทุน

          ทำเอาบรรดานักลงทุนในเหรียญดิจิทัลหลายคนต่างฝันสลายไปตามๆ กัน หลังจากเหรียญคริปโตเคอเรนซีเกือบทุกเหรียญต่างทิ้งตัวลงแรงอย่างต่อเนื่องหลังจากที่มีนักวิเคราะห์ออกมาคาดการณ์ว่าเฟดจะลด QE และขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่ากำหนด หลังจากที่อัตราเงินเฟ้อปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำเอานักเก็งกำไร ราคาบิทคอยน์ ต่างพากันเทขายเพื่อทำกำไร เนื่องจากหากเหรียญดิจิทัลดังกล่าวไม่สามารถสร้างผลตอบแทนในรูปแบบ passive income เฉกเช่นอัตราดอกเบี้ยได้ โดยเหรียญ BTCUSD มีการปรับตัวลงมากถึง 30% เลยทีเดียวหลังจากทำจุดสูงสุดใหม่ไว้ที่ $69,000 และปรับตัวลงแรงอย่างต่อเนื่องจนทำจุดต่ำสุดมาที่ระดับ $41,967.50 ก่อนที่จะมีการรีบาวน์ขึ้นไป ทำเอาหลายคนต่างวิเคราะห์กันว่าอาจจะเป็นจุดจบของเหรียญดิจิทัลก็เป็นได้ ซึ่งสาเหตุที่แท้จริงของ ราคาบิทคอยน์ที่ตกลงมาในครั้งนี้ ข่าวว่าเกิดจากมีแฮกเกอร์พบช่องโหว่และแฮกข้อมูลของผู้เสียหายก่อนที่จะทำการย้ายเหรียญคริปโตดังกล่าวออกจากกระเป๋า สร้างความเสียหายหลายพันล้านบาทในหลายประเทศรวมถึงนักลงทุนในประเทศไทยด้วย จึงทำให้เกิดการแพนิคและขายเหรียญดิจิทัลออกมาเพื่อลดความเสี่ยงและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้น เนื่องจากไม่มั่นใจถึงความปลอดภัยของผู้ให้บริการ แม้ว่าบรรดาเหรียญคริปโตเคอเรนซีจะมีการเข้ารหัสที่แน่นหนาเพียงใดก็ตาม อีกทั้งมีข่าวการมาของ Quantum Computer ที่ว่ากันว่าจะเข้ามาปฏิวัติวงการ blockchain ด้วยความเร็วของ Quantum Computer ที่เร็วกว่า Computer ธรรมดาถึง 2.5 พันล้านเท่า คาดว่าจะทำการแฮกบิทคอยน์ระหว่างการโอนได้เพียงไม่กี่วินาที แต่ด้วยเทคโนโลยีดังกล่าวยังต้องใช้เวลาในการพัฒนาเป็นอย่างมาก แต่คาดว่าคงอีกไม่นานเกินรอ หลังจาก META ของมาร์คซักเคอร์เบิร์ก ประกาศจะพัฒนาระบบ Metaverse อย่างเต็มตัว เพราะการที่จะรันระบบ Metaverse ได้นั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้ความสามารถการประมวลผลของ Quantum Computer เข้ามาช่วย ซึ่งสอดคล้องกับเทคโนโลยีการผลิตชิปประมวลผลที่ปัจจุบันสามารถที่ทำได้ในระดับ 3 นาโนเมตรแล้ว 

วิเคราะห์ ราคาบิทคอยน์

ที่มารูปภาพ : https://th.tradingview.com/

          จากกราฟ BTCUSD แม้ราคาจะมีการทิ้งตัวที่รุนแรงจนทำให้ RSI เข้าเขต Oversold ขายมากเกินไป ทำให้มีแรงซื้อเข้ามา จนเกิดการรีบาวน์ขึ้นไปในระดับ $50,000 BTCUSD ทำเอาราคาคาบเกี่ยวกับเส้น

เทรนไลน์ขาขึ้น หากในระยะสั้นสามารถที่จะยืนเหนือเส้นเทรนไลน์ดังกล่าวได้ เป็นไปได้ว่าราคา BTCUSD อาจสามารถกลับไปทดสอบจุดสูงสุดเดิมที่เคยทำไว้ได้ โดยมีแนวต้านสำคัญที่ระดับ $60,000 BTCUSD แต่ถ้าไม่สามารถประคองตัวยืนเหนือเส้นเทรนไลน์ได้ จะมีแนวรับที่ราคา $40,000 BTCUSD และ $29,000 BTCUSD แนวรับหลักสุดท้าย เพราะถ้าหากหลุดต่ำกว่าจะเข้าสู่การเป็นขาลงในระยะยาวก็เป็นได้ 

          สำหรับนักลงทุนที่สนใจเทรดสินทรัพย์ดิจิทัลทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นทองคำ ฟอเร็กซ์ คริปโตเคอเรนซี ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ชั้นนำทั่วโลกหรือหุ้น สามารถสมัครสมาชิกกับทาง litefinance  https://www.litefinance.com/th/ โบรกเกอร์ชั้นนำที่ได้รับการยอมรับจากนักลงทุนทั่วโลก เปิดให้บริการมามากกว่า 17 ปี มีระบบเดโมให้นักลงทุนทดลองเทรดก่อนตัดสินใจใช้เงินจริง ฝากเงินขั้นต่ำเพียง $50 รองรับการใช้งาน MT4 และ MT5 โปรแกรมเทรดที่มืออาชีพเลือกใช้ พร้อมบทความ ข้อมูลและนักวิเคราะห์ชั้นนำผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาให้ความรู้ตลอดเวลา คิดถึงการเทรด คิดถึง litefinance

ที่มา: litefinance 

ภาพประกอบ: litefinance