TNN ยูเอ็นเร่งเจรจาอนุญาตรัสเซียและยูเครนส่งออกอาหารได้

TNN

วิกฤตรัสเซีย-ยูเครน

ยูเอ็นเร่งเจรจาอนุญาตรัสเซียและยูเครนส่งออกอาหารได้

ยูเอ็นเร่งเจรจาอนุญาตรัสเซียและยูเครนส่งออกอาหารได้

การแก้ปัญหาวิกฤตขาดแคลนอาหารโลก เริ่มมีสัญญาณที่ดี เมื่อสหประชาชาติ หรือยูเอ็น เดินสายเจรจากับทั้งรัสเซียและสหรัฐฯ เพื่อให้ยูเครนและรัสเซียส่งออกธัญพืชและปุ๋ยออกสู่ตลาดโลกได้ นี่เป็นผลจากความพยายามของหลายฝ่าย ที่เจรจากับฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นรัสเซีย หรือสหรัฐฯ

การแก้ปัญหาวิกฤตอาหารโลกจากวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน เริ่มส่งสัญญาณไปในทางที่ดี หลังจากที่หลายฝ่ายพยายามหารือกับฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อเปิดทางในการส่งออกธัญพืชและปุ๋ยจากรัสเซียและยูเครน ซึ่งทั้งสองประเทศครองส่วนแบ่งตลาดข้าวสาลี 1 ใน 3 ทั่วโลก ขณะที่รัสเซียเป็นประเทศผู้ส่งออกปุ๋ยสำคัญ


สเตฟาน ดูจาริก โฆษกของ นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ หรือ UN แถลงเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงคนหนึ่งของยูเอ็นได้ “หารืออย่างสร้างสรรค์” ในกรุงมอสโก กับอังเดรย์ เบลูซอฟ รองนายกรัฐมนตรีคนที่ 1 ของรัสเซียเกี่ยวกับการอำนวยความสะดวกในการส่งออกธัญพืชและปุ๋ยออกสู่ตลาดโลก


ส่วน รีเบกกา กรีนสแปน เจ้าหน้าที่ยูเอ็น ขณะนี้ก็กำลังอยู่ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อเจรจาปัญหาเดียวกัน ด้วยเป้าหมายสำคัญในการแก้ปัญหาความไม่มั่นคงด้านอาหารที่กำลังเพิ่มมากขึ้นทั่วโลก


---ธัญพืชและปุ๋ยรัสเซียไม่ถูกคว่ำบาตร---


ด้านลินดา โทมัส-กรีนฟิลด์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำยูเอ็น กล่าวว่า สหรัฐฯ พร้อมที่จะมอบ “จดหมายรับรอง” ให้แก่บริษัทขนส่งและประกันภัย เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการส่งออกธัญพืชและปุ๋ยของรัสเซีย


เธอระบุว่า ธัญพืชและปุ๋ยของรัสเซียนั้น ไม่ได้ถูกคว่ำบาตรโดยตรงโดยสหรัฐฯ แต่ว่า บรรดาบริษัทมีความกังวล และระบุว่า สหรัฐฯ พร้อมที่จะออกหนังสือรับรองให้ หากจะเป็นการช่วยสนับสนุนบริษัทเหล่านี้


ด้านนายอันโตนิโอ กูแตร์เรส เลขาธิการยูเอ็น ซึ่งเดินทางเยือนกรุงมอสโก และกรุงเคียฟของยูเครนเมื่อเดือนที่แล้ว กำลังพยายามที่จะเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ย เพื่อรื้อฟื้นทั้งการส่งออกอาหารของยูเครนและการส่งออกอาหารและปุ๋ยของรัสเซียด้วย


---วิกฤตยูเครนกระทบอาหารโลก---


ทั้งนี้ ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ก่อให้เกิดวิกฤตอาหารทั่วโลก โดยราคาธัญพืช, น้ำมันประกอบอาหาร, เชื้อเพลิงและปุ๋ย ต่างถีบตัวสูงขึ้น เนื่องจากรัสเซียและยูเครนครองส่วนแบ่งตลาดข้าวสาลีทั่วโลก 1 ใน 3 ขณะที่รัสเซียเป็นประเทศผู้ส่งออกปุ๋ยสำคัญ และยูเครนเป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวโพดและน้ำมันทานตะวันรายใหญ่


นับตั้งแต่รัสเซียปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครน เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา การส่งออกธัญพืชของยูเครนจากท่าเรือในทะเลดำ ก็หยุดชะงักลง ธัญพืชกว่า 20 ล้านตัน ไม่สามารถส่งออกได้


เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เจ้าหน้าที่การเกษตรยูเครนเปิดเผยว่า ยูเครนกำลังพยายามอย่างหนักที่จะส่งออกธัญพืชไปทางถนน ทางรางรถไฟ และทางแม่น้ำ เพื่อบรรเทาวิกฤตอาหารโลก แต่ยังไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ เนื่องจากรัสเซียยังคงปิดล้อมท่าเรือริมทะเลดำที่ใช้เป็นเส้นทางส่งออกหลัก


ส่วนรัสเซียเองก็ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากมาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตก ทำให้การส่งออกปุ๋ยและธัญพืชสะดุดลงเช่นกัน


ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย กล่าวในวันจันทร์ที่ผ่านมา (31 พฤษภาคม) ว่า รัสเซียพร้อมอำนวยความสะดวกในการส่งออกธัญพืชอย่างไม่มีข้อจำกัดจากท่าเรือของยูเครน ด้วยความร่วมมือกับตุรกี


---อย่าเอาอาหารมาเป็นอาวุธ---


ก่อนหน้านี้ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิก ได้ร้องขอให้ยกเลิกการปิดล้อมเพื่อขัดขวางการส่งออกข้าวสาลีของยูเครน โดยตรัสว่า ไม่ควรนำธัญพืชมาใช้เป็นอาวุธในการทำสงคราม


สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ตรัสกับสาธารณชนที่จัตุรัสเซนต์ปีเตอร์เมื่อวานนี้ (1 มิถุนายน) ว่า การปิดล้อมเพื่อขัดขวางการส่งออกข้าวสาลีจากยูเครนเป็นเรื่องน่ากังวลอย่างยิ่ง เพราะชีวิตของคนหลายล้านคนต้องพึ่งพาข้าวสาลีของยูเครน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนในประเทศยากจน


พระองค์จึงอยากขอร้องอย่างใจจริงให้มีการดำเนินความพยายามทุกอย่างที่จะแก้ไขปัญหานี้ เพื่อสร้างหลักประกันว่าทุกคนจะมีโภชนาการอย่างถ้วนหน้า โปรดอย่านำข้าวสาลีซึ่งอาหารพื้นฐานมาใช้เป็นอาวุธในการทำสงคราม


ที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงประณามรัสเซียที่รุกรานยูเครนและเหตุนองเลือดที่เกิดขึ้น แต่เมื่อวานนับเป็นครั้งแรกที่ตรัสถึงวิกฤตอาหารโลกที่เกิดจากสงครามดังกล่าว ซึ่งกำลังทำให้ราคาอาหารทั้งธัญพืช ปุ๋ย น้ำมันและพลังงานพุ่งขึ้นอย่างมาก ส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก

—————

แปล-เรียบเรียง: สุภาพร เอ็ลเดรจ

ภาพ: Reuters

ข่าวที่เกี่ยวข้อง