เจาะแผนอียูแบนน้ำมันรัสเซีย รัสเซียชี้ อียูซื้อผ่านประเทศที่สามอยู่ดี

เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป เผยรายละเอียดของมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียรอบที่ 6 ต่อรัฐสภายุโรปเมื่อวานนี้ (4 พฤษภาคม)  โดยพุ่งเป้าไปที่เศรษฐกิจและการทหารของรัสเซีย

ยุโรปจะค่อย ๆ หยุดใช้น้ำมันรัสเซีย เพื่อให้ยุโรปและพันธมิตรสามารถหาแหล่งพลังงานอื่นได้ทัน และในขณะเดียวกัน จะต้องระมัดระวังในการลดผลกระทบต่อตลาดโลกด้วย

ตั้งเป้าค่อย ๆ ลดการนำเข้านำมันดิบจากรัสเซียภายใน 6 เดือน และลดการนำเข้าผลิตภัณฑ์น้ำมันกลั่นภายในสิ้นปีนี้

---ราคาน้ำมันเพิ่มสูงทันที---

ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปยอมรับว่านี่ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะหลายประเทศพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันของรัสเซียมาก แต่หากแผนการดังกล่าวได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาลชาติสมาชิกอียู จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของอียูที่ต้องพึ่งพาพลังงานของรัสเซียอย่างมากและต้องหาแหล่งพลังงานอื่นทดแทน

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2% ไปอยู่ที่ 107.11 ดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อวานนี้ (4 พฤษภาคม) เพิ่มขึ้นจากต้นปีไปถึง 37.5% แล้ว

นอกจากการแบนน้ำมันแล้ว การคว่ำบาตรรอบใหม่ จะพุ่งเป้าไปที่ธนาคาร Sberbank ของรัสเซีย และธนาคารอีก 3 แห่ง ให้ตัดขาดจากระบบการโอนเงินระหว่างประเทศ หรือ SWIFT และจะพุ่งเป้าคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพรัสเซียเพิ่มขึ้นอีก ด้วยการอายัดทรัพย์สินและแบนการเดินทาง

---ฮังการรีต่อต้านการคว่ำบาตรนี้---

อย่างไรก็ตาม มาตรการคว่ำบาตรชุดใหม่ต้องได้รับความเห็นชอบจาก 27 ชาติสมาชิกอียูก่อน จึงจะมีการลงนามในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

แต่ฮังการียังคงคัดค้านข้อเสนอดังกล่าว ระบุว่า สิ่งที่เสนอมานั้นขัดต่อผลประโยชน์ของฮังการี และจะทำลายเศรษฐกิจของประเทศโดยสิ้นเชิง

บรรดานักการทูตคาดการณ์ว่า อียูจะให้เวลาฮังการีและสโลวาเกียที่ยังต้องพึ่งพาน้ำมันของรัสเซีย ในการซื้อน้ำมันดิบของรัสเซียได้ยาวนานขึ้นจนถึงสิ้นปี 2023 ภายใต้ข้อตกลงซื้อขายที่มีอยู่ เพื่อโน้มน้าวทั้ง 2 ชาติ ไม่ให้วีโต้ หรือยับยั้งแผนการของอียู

ขณะที่ BBC รายงานว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจของสโลวาเกียระบุว่า ประเทศของเขาต้องการระยะเวลาในการเปลี่ยนผ่าน 3 ปี ส่วนนายกรัฐมนตรีปีเตอร์ เฟียลา ของสาธารณรัฐเช็กกล่าวว่าเขาจะขอการยกเว้น 2-3 ปีเพื่อแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับกำลังการผลิตท่อส่งน้ำมัน

---ผู้นำยุโรปบ้าไปแล้ว?---

สื่อรัสเซีย RIA Novosti รายงานว่า ยุโรปจะยังคงซื้อน้ำมันจากรัสเซียต่อไป แม้จะมีการคว่ำบาตร แต่จะเป็นการซื้อผ่านประเทศที่ 3

วลาดิเมียร์ ดาบารอฟ ส.ส.ของรัสเซียระบุผ่านสื่อรัสเซียว่า ผู้นำยุโรปนั้นบ้าไปแล้ว พวกเขาจะไม่ซื้อน้ำมันจากเรา และรัสเซียจะไม่ผลักดันเรื่องนี้ แต่หากพวกเขายังซื้อต่อผ่านประเทศที่สาม พวกเขาจะได้น้ำมันเหมือนเดิม แต่ในราคาที่แพงขึ้นก็เท่านั้น

โฆษกเครมลิน ดมิทรี เปสคอฟ กล่าวว่ารัสเซียกำลังดำเนินการทางเลือกต่างๆ เพื่อตอบสนองต่อแผนการคว่ำบาตร ชี้ว่า การลงโทษเป็นดาบสองคมสำหรับชาวยุโรปและประเทศอื่น ๆ เขากล่าว เนื่องจากค่าใช้จ่ายสำหรับพลเมืองยุโรปจะเพิ่มขึ้นทุกวัน

---ยุโรปเร่งหาแหล่งก๊าซธรรมชาติชดเชย---

ขณะเดียวกัน ชาติสมาชิกอียู 27 ชาติ ยังไม่บรรลุฉันทามติเรื่องการนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย แต่แคดรี ซิมสัน กรรมาธิการด้านการพลังงานของอียูเผยต่อที่ประชุมรัฐสภายุโรปว่า คณะกรรมาธิการยุโรปจะยื่นแผนการสรรหาแหล่งพลังงานอื่น มาทดแทนก๊าซธรรมชาติของรัสเซียในปลายเดือนพฤษภาคม โดยจะลดการนำเข้าก๊าซธรรมชาติรัสเซียถึง 2 ใน 3 ในช่วงสิ้นปีนี้

ซิมสัน กล่าวว่า อียูได้ทาบทามซัพพลายเออร์รายใหญ่ทั้งหมด เพื่อแสวงหาแหล่งก๊าซธรรมชาติทางเลือก แผนการดังกล่าวยังรวมไปถึงการใช้พลังงานหมุนเวียนมากขึ้น เพื่อทดแทนก๊าซธรรมชาติ เช่นเดียวกับการดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อการอนุรักษ์พลังงาน

สำหรับยุโรป การเลิกใช้พลังงานจากรัสเซียให้ผลที่ตามมาอย่างร้ายแรง เนื่องจากยุโรปพึ่งพาพลังงานรัสเซีย เพื่อสร้างความอบอุ่นให้แก่ผู้คนในอาคาร อุตสาหกรรมต่าง ๆ และผลิตกระแสไฟฟ้า

ทั้งนี้เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเขตยูโรในปี 2022 ลงไปอยู่ที่ 2.8%

ด้าน เยอรมนีประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของยุโรป ยังไม่สามารถจัดการต่อปัญหาการหยุดใช้ก๊าซรัสเซีย เนื่องจากเยอรมนี มีสัดส่วนการนำเข้าก๊าซจากรัสเซีย ถึงร้อยละ 55 นอกจากนี้ บุนเดสแบงก์ ธนาคารกลางเยอรมนี ยังเตือนว่า หากอียูห้ามนำเข้าก๊าซจากรัสเซียอย่างทันที จะส่งผลกระทบต่อจีดีพีของเยอรมนีถึง 5% ในปีนี้

ดมิโทร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน ระบุว่า การห้ามใช้น้ำมันอย่างค่อยเป็นค่อยไปของสหภาพยุโรปนั้น "ดีกว่าไม่มีเลย" ประเทศใดๆ ก็ตามที่คัดค้านการคว่ำบาตรน้ำมันนั้นมี ส่วนเกี่ยวข้องปฏิบัติการของรัสเซียในยูเครน ไม่ว่าพวกเขาจะโต้แย้งกันอย่างไร

—————

แปล-เรียบเรียง: สุภาพร เอ็ลเดรจ

ภาพ: Reuters