ประธานาธิบดีปูตินชี้ จบสงครามได้ ถ้าชาติตะวันตกหยุดส่งอาวุธช่วยยูคเรน

สำนักข่าว Tass News ของรัสเซีย รายงานว่า ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย กล่าวในการหารือทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศสเมื่อวานนี้ (3 พฤษภาคม) ยืนยันว่า รัสเซียเปิดกว้างและพร้อมเจรจากับยูเครน ถึงแม้ว่ายูเครนจะไม่มีความสม่ำเสมอ และไม่เต็มใจที่จะลงมือทำอย่างจริงจังก็ตาม

ประธานาธิบดีปูตินระบุด้วยว่า ชาติตะวันตกก็สามารถช่วยยุติสงครามในยูเครนได้ ด้วยการเพิ่มความกดดันต่อประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน และหยุดส่งอาวุธไปให้แก่ยูเครน

ผู้นำรัสเซียยังกล่าวหาทหารยูเครนก่ออาชญากรรมสงคราม จากการโจมตีเขตที่อยู่อาศัยของพลเรือนในหลายเมืองทางภาคตะวันออกของยูเครน ที่อยู่ในความควบคุมของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนฝักใฝ่รัสเซีย ซึ่งขณะนี้ควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ในภาคตะวันออกของยูเครนอยู่

ยูเครนเริ่มโจมตีพื้นที่เหล่านั้น ตั้งแต่รัสเซียเริ่มปฏิบัติการในยูเครน แต่ทหารยูเครนละเว้นไม่โจมตีเมืองต่างๆ ในภาคตะวันออกที่รัฐบาลยูเครนควบคุมเอง

อย่างไรก็ตาม ทางรัฐบาลยูเครนปฏิเสธแล้วว่า ไม่เคยยิงถล่มพื้นที่อยู่อาศัยของพลเรือนในภาคตะวันออกยูเครน

---แล้วทางผู้นำฝั่งเศสว่าอย่างไร?---

ประธานาธิบดีมาครงเรียกร้องต่อประธานาธิบดีปูตินอีกครั้ง ว่าให้รัสเซียหยุดยิง ยุติปฏิบัติการในยูเครน และให้เจรจายุติสงคราม

มาครงระบุว่า พร้อมช่วยเหลือรัสเซีย-ยูเครน ให้บรรลุการแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยเจรจา แต่ต้องเคารพอธิปไตยของยูเครนด้วย นอกจากนี้มาครงยังขอร้องให้ปูตินยอมอนุญาตให้ชาวเมืองมารีอูโปลอพยพเพิ่มอีก

ผู้นำทั้งสองยังหารือถึงประเด็นปฏิบัติการในยูเครน ที่ส่งผลต่อความมั่นคงด้านอาหารโลก โดยปูตินเตือนว่า มาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกที่ต่อรัสเซีย จะซ้ำเติมปัญหานี้ให้ยิ่งแย่ลง

ผู้นำรัสเซียกล่าวย้ำว่าชาติตะวันตกต้องหยุดส่งอาวุธให้กับยูเครน ก็เพราะว่าสหรัฐฯ และพันธมิตรได้ส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ไปช่วยเหลือยูเครนอย่างต่อเนื่อง

---สหรัฐฯ ฟื้นกฏหมายให้ยืม-เช่าอาวุธยูเครน---

เมื่อเดือนที่แล้วสหรัฐฯ ได้เพิ่มงบประมาณช่วยเหลือทางการทหารอย่างต่อเนื่อง และสภาคองเกรสของสหรัฐฯ ลงมติอย่างท่วมท้น อนุมัติฟื้นกฎหมายสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่มี ขึ้นมาใช้ เพื่อเปิดทางเร่งส่งอาวุธให้ยูเครนได้เร็วขึ้น

พลเอกลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ได้จัดประชุมด้านกลาโหม ที่ฐานทัพสหรัฐฯ ใน เยอรมนี มีผู้แทนจากกว่า 40 ประเทศทั่วโลกเข้าร่วมการประชุม

รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ แสดงความมั่นใจ ว่ายูเครนสามารถเอาชนะปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียได้

และยังแสดงความยินดีกับการตัดสินใจของเยอรมนีในการส่งอาวุธหนักไปยังยูเครนเป็นครั้งแรก ชี้ว่ายุทโธปกรณ์เหล่านี้จะมอบความสามารถที่แท้จริงให้กับยูเครน

พร้อมระบุว่า ช่วงเวลานี้มีความสำคัญสำหรับยูเครนมาก ดังนั้นสหรัฐฯและพันธมิตรจึงต้องเร่งสนับสนุนยูเครนในการต่อสู้มากกว่าที่เคย

---ผู้นำฮังการีถูกขึ้นบัญชีดำ---

ส่วนอีกด้านหนึ่ง สำนักข่าว RT รายงานว่า วิกเตอร์ ออร์บาน นายกรัฐมนตรีฮังการี ถูกเพิ่มลงในฐานข้อมูลออนไลน์ ที่นักเคลื่อนไหวสนับสนุนยูเครนใช้เพื่อขึ้นบัญชีดำ คนที่พวกเขามองว่าเป็นศัตรูของยูเครน

เว็บไซต์ มิรอตโวเรตส์ (Mirotvorets) หรือ "ผู้สร้างสันติ" ถูกสร้างขึ้นในปี 2014 เป็นฐานข้อมูลสาธารณะของ "ผู้ก่อการร้ายฝักใฝรัสเซีย ผู้แบ่งแยกดินแดน ทหารรับจ้าง อาชญากรสงคราม และฆาตกร" จะมีลิงก์ไปยังบัญชีโซเชียลมีเดียและข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ที่อยู่บ้าน โทรศัพท์ และอีเมล

ผู้นำยูเครน ถูกระบุว่าเป็น "ผู้สมรู้ร่วมของอาชญากรสงครามรัสเซีย" และ "นักโฆษณาชวนเชื่อที่ต่อต้านยูเครน"

เว็บไซต์ดังกล่าวระบุว่า นายกรัฐมนตรีฮังการีปฏิเสธที่จะสนับสนุนการคว่ำบาตรน้ำมันและก๊าซของรัสเซีย นอกจากนี้เปฏิเสธที่จะส่งอาวุธไปยังยูเครนหรืออนุญาตให้มีการขนส่งอาวุธจากต่างประเทศไปยังยูเครนผ่านดินแดนของฮังการีด้ย

ออร์บาน ซึ่งชนะการเลือกตั้งใหม่เมื่อเดือนที่แล้ว หาเสียงเลือกตั้งโดยให้สัญญาว่า จะปกป้องฮังการีให้พ้นจากความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน และในการปราศรัยเพื่อชัยชนะ เขาได้เรียกประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ว่าเป็นหนึ่งใน “ฝ่ายตรงข้าม” ของเขา

---ฮังการีไม่ได้สมคบคิดกับรัสเซีย---

อย่างไรก็ตาม สำนักข่าว Euronews รายงานว่า ฮังการีได้ปฏิเสธรายงานของสื่อที่ระบุว่า ฮังการีได้รับคำเตือนจากรัสเซียเกี่ยวกับปฏิบัติการทางทหารในยูเครนล่วงหน้า หลังจากสื่อท้องถิ่นของยูเครนได้อ้างถึง คำกล่าวของ โอเลคซีย์ ดานิลอฟ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติของยูเครนว่า ฮังการีกำลังวางแผนที่จะผนวกดินแดนของยูเครนบางส่วนไปเป็นของตน

โฆษกของนายกรัฐมนตรีฮังการี ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว ระบุว่าเป็น “ข่าวปลอม” ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศฮังการีเพื่อการทูตและความสัมพันธ์สาธารณะ ปฏิเสธข่าวที่ว่า ฮังการีต้องการผนวก ภูมิภาคทรานส์คาร์พาเทีย (Transcarpathia) ที่มีชาวฮังการีอาศัยอยู่ประมาณ 140,000 คน มาเป็นของตนเอง

การที่ฮังการีถูกนำไปเชื่อมโยงและโจมตีว่าเป็นศัตรูของยูเครน น่าจะมาจาก ท่าทีของฮังการีที่คัดค้านการแบนน้ำมันจากรัสเซียของสหภาพยุโรปอย่างเปิดเผย รวมถึงยอมจ่ายค่าก๊าซรัสเซียเป็นสกุลเงินรูเบิล เนื่องจากฮังการีนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย 56% ในปีที่แล้ว

—————

แปล-เรียบเรียง: เสาวนีย์ พิสิฐานุสรณ์ และ สุภาพร เอ็ลเดรจ

ภาพ: Reuters