ฮังการีประกาศเดินหน้าจ่ายค่าก๊าซรัสเซียเป็นเงินรูเบิล

ในสัปดาห์นี้ รัฐมนตรีพลังงานของชาติสมาชิกอียูกำลังหารือกันเพื่อสรุปมาตรการจำกัดการนำเข้าพลังงานของรัสเซียเพิ่มเติม แต่เกอร์จลี กัลยาส รัฐมนตรีของฮังการี กล่าวว่า การตัดสินใจของอียูต้องใช้เสียงเป็นเอกฉันท์ เป็นเรื่องที่ไร้เหตุผลที่คณะกรรมาธิการยุโรป จะเสนอมาตรการคว่ำบาตรที่จะส่งผลต่อการจัดหาก๊าซธรรมชาติและน้ำมันดิบของฮังการี

ดังนั้น ฮังการีจะวีโต หรือใช้สิทธิยับยั้งของเสนอใด ๆ ของอียู ที่จะนำไปสู่การจำกัดการนำเข้าพลังงานจากรัสเซียด้วย โดยเขาย้ำว่า ฮังการีชัดเจนมาตลอดว่า ไม่เคยสนับสนุนการขยายการคว่ำบาตรรัสเซียในภาคพลังงาน

กัลยาส กล่าวว่า ฮังการีได้เปิดบัญชีเงินยูโรกับธนาคาร Gazprombank ของรัสเซีย ซึ่งต่อมาจะมีการเปลี่ยนเงินยูโรให้เป็นเงินรูเบิล ก่อนที่จะมีการโอนเข้าไปยังรัสเซีย ระบบดังกล่าว ทำให้ผู้ซื้อชาวยุโรปสามารถทำตามข้อเรียกร้องของประธานาธิบดีปูตินได้

---หลายประเทศอียูทำแบบเดียวกับฮังการี---

กัลยาส ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะทำงานของนายกรัฐมนตรีวิกเตอร์ ออร์บัน ขยายความว่า นอกจากฮังการี ยังมีอีก 9 ประเทศที่ทำเช่นเดียวกันนี้ แต่เพราะความคิดว่าต้องเป็นชาวยุโรปที่ดี ทำให้ผู้นำของชาติเหล่านี้ไม่จริงใจ เมื่อกล่าวถึงเรื่องนี้ในเวทีระหว่างประเทศ หรือกับประชาชนของตนเอง และเก้าชาตินี้จะไม่เผยว่าทำเช่นนี้ด้วย

ท่าทีของฮังการีมีขึ้นหลังรัสเซียระงับการส่งก๊าซให้โปแลนด์และบัลแกเรีย ที่ปฏิเสธจ่ายค่าก๊าซด้วยเงินรูเบิล

แม้สมาชิกอียูหลายประเทศซึ่งมีแผนจะงดนำเข้าก๊าซจากรัสเซียภายในปีนี้เผยว่า พร้อมรับมือกับการงดจ่ายก๊าซ แต่ก็เกิดกระแสวิตกว่า สมาชิกประเทศอื่น รวมถึงเยอรมนีที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในอียู อาจถูกรัสเซียงดจ่ายก๊าซเป็นประเทศถัดไป และอาจทำให้จุดยืนและเอกภาพของอียู ในการต่อต้านรัสเซียเกิดการสั่นคลอน

---หาวิธีเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรอียู---

อย่างไรก็ตาม สมาชิกอียูที่ถูกรัสเซียขีดเส้นตายให้จ่ายค่าก๊าซเป็นรูเบิลภายในเดือนนี้ต้องการความชัดเจนว่า ภาคธุรกิจสามารถนำเข้าก๊าซจากรัสเซียโดยไม่ละเมิดมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียของอียูอย่างไร

คณะกรรมาธิการยุโรปกำลังร่างแนวทางที่ชัดเจนและจะมีการเปิดเผยในอีกไม่กี่วันนี้ว่าบริษัทต่าง ๆ สามารถทำหรือไม่สามารถทำอะไรได้บ้างภายใต้มาตรการคว่ำบาตรของอียู

ทั้งนี้ กฎหมายใหม่ของรัสเซียระบุว่า บริษัทต่าง ๆ ต้องเปิดบัญชีกับ Gazprombank จำนวนสองบัญชี บัญขีแรกเป็นเงินยูโร และบัญชีที่สอง เป็นเงินรูเบิล ขณะที่ข้อกำหนดตามกฎหมายจะเสร็จสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อมีการแปลงเงินจากยูโรเป็นรูเบิลแล้วนำไปฝากในบัญชีที่สองแล้วเท่านั้น

กาดี ซิมสัน กรรมาธิการยุโรปด้านพลังงาน กล่าวเมื่อวานนี้ว่า อียูต้องมีความชัดเจนเกี่ยวกับกลไกการชำระเงินดังกล่าว ซึ่งถือว่าเป็นการละเมิดสัญญาซื้อขายและละเมิดมาตรการคว่ำบาตรที่ไม่สามารถยอมรับได้ แต่บริษัทต่างๆยังสามารถจ่ายเงินยูโรหรือดอลลาร์ให้ต่อไปได้ หากรัฐบาลรัสเซียอนุญาตว่า เมื่อมีการฝากเงินสกุลต่างชาติแต่แรกแล้ว ถือว่าขั้นตอนสิ้นสุด

ด้านแอนนา มอสควา รัฐมนตรีสภาพอากาศของโปแลนด์ กล่าวว่า ที่ประชุมอียูยังขาดเอกภาพต่อเรื่องนี้ หลายประเทศ เช่น โปแลนด์ ลิทัวเนีย ลัตเวีย เอสโตเนีย เดนมาร์ก และฟินแลนด์ สนับสนุนการจ่ายด้วยเงินยูโรเท่านั้น ในขณะที่ที่หลายชาติเลือกไม่แสดงความเห็น และบางชาติเช่น อิตาลีและออสเตรีย แสดงความกังวลว่าเรื่องการติดขัดเรื่องก๊าซนั้นจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของชาติตน

---เยอรมนีสนับสนุนการแบนน้ำมัน---

ในด้านการแบนน้ำมันจากรัสเซีย อียูกำลังอยู่ในขั้นตอนร่างเนื้อหา และจะมีเสนอให้ชาติสมาชิกอย่างเร็วสุดวันพุธนี้ (3 พฤษภาคม)

โดยสองรัฐมนตรีของรัฐบาลเยอรมนี ยืนยันว่าเยอรมนีพร้อมที่สนับสนุนการแบนการนำเข้ามันรัสเซียทันทีหรือภายในสิ้นปีนี้ก็ได้ แม้ว่าจะทำให้เกิดภาวะจขาดแคลนพลังงานและราคาน้ำมันพุ่งสูงก็ตาม

ท่าทีดังกล่าว ถือเป็นการกลับลำของนโยบายรัฐบาลเยอรมนีต่อรัสเซีย โดยโรเบิร์ต ฮาเบ็ค รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจของเยอรมนี กล่าวว่า เยอรมนีไม่ได้ต่อต้านการแบนน้ำมันรัสเซีย แม้ว่าจะเป็นภาระอันใหญ่หลวงที่ต้องรับมือ และก็พร้อมที่จะทำเช่นนั้น

ทั้งนี้ เยอรมนีได้ลดสัดส่วนการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียลงจาก 35% มาอยู่ที่ 12% แล้ว และกำลังหาน้ำมันจากแหล่งอื่น ๆ มาแทน และเยอรมนีสามารถยอมรับการแบนถ่านหินหรือน้ำมันได้ในขณะนี้แล้ว

แต่ในส่วนของก๊าซนั้น ฮาเบ็คยอมรับว่า หลายประเทศยังไม่พร้อม รวมทั้งเยอรมนีเช่นกัน ขั้นตอนต่าง ๆ ต้องกระทำอย่างชาญฉลาด เพื่อที่จะไม่ก่อให้เกิดหายนะทางเศรษฐกิจต่ออียู หากกระทำลงไปโดยไม่คิด

---ลดการนำเข้าน้ำมันรัสเซียภายในสิ้นปี---

ขณะที่นักการทูตของอียูสองคนระบุกับสำนักข่าว Bloomberg ว่า อียูมีแนวโน้มที่ะจะเลือกแบนการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียภายในสิ้นปีนี้ ในมาตรการคว่ำบาตรรอบที่ 6 ที่กำลังจะออกมา

ส่วนสำนักข่าว AFP รายงานอ้างนักการทูตหลายคนระบุว่า การแบนน้ำมันรัสเซียนั้นมีความเป็นไปได้ หลังเยอรมนีเปลี่ยนใจหันมาสนับสนุนแล้ว โดยจะมีการลดการนำเข้าในช่วงเวลา 6-8 เดือน เพื่อให้ชาติต่าง ๆ มีเวลาในการหาแหล่งน้ำมันอื่น อย่างไรก็ตาม การอนุมัติแผนการนี้ ต้องได้รับเสียงสนับสนุนเป็นเอกฉันท์จากชาติสมาชิกเช่นกัน

มีการคาดการณ์ว่าฮังการีจะคัดค้านอย่างหนัก เพราะพึ่งพาพลังงานจากรัสเซียมา และมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับมอสโก ขณะที่อีกหลายชาติก็มีความกังวลเช่นกันว่า การแบนนำเข้าน้ำมันจะส่งผลให้ราคาผู้บริโภคสูงขึ้น จากเดิมที่สูงอยู่แล้ว

ด้านองค์การพลังงานระหว่างประเทศ หรือ IEA และสหรัฐฯ เองยังคลางแคลงใจในประสิทธิภาพของการคว่ำบาตรน้ำมันเช่นกัน

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เจนเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เตือนว่า การแบนนั้นจะส่งผลลบต่อรัสเซียน้อยมาก เพราะราคาน้ำมันที่สูงขึ้นสำหรับการส่งออกที่เหลือ จะช่วยลดผลกระทบนี้ต่อรัสเซียได้

—————

แปล-เรียบเรียง: ธันย์ชนก จงยศยิ่ง

ภาพ: Reuters