TNN ทำความรู้จักกฏหมายยืม-เช่า ที่สหรัฐฯ อนุมัติช่วยยูเครนต่อต้านรัสเซีย

TNN

วิกฤตรัสเซีย-ยูเครน

ทำความรู้จักกฏหมายยืม-เช่า ที่สหรัฐฯ อนุมัติช่วยยูเครนต่อต้านรัสเซีย

ทำความรู้จักกฏหมายยืม-เช่า ที่สหรัฐฯ อนุมัติช่วยยูเครนต่อต้านรัสเซีย

สภาคองเกรส ลงมติอย่างท่วมท้น อนุมัติฟื้นกฎหมายสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่มี อายุ 80 ปีขึ้นมาใช้ใหม่ เพื่อเร่งส่งอาวุธให้ยูเครนได้เร็วขึ้น และกฎหมายนี้เคยช่วยให้เอาชนะ “ฮิตเลอร์” ในสงครามโลกครั้งที่ 2 มาแล้ว

สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ลงมติเมื่อวานนี้ (28 เมษายน) ตามเวลาท้องถิ่น อนุมัติร่างกฎหมายที่มีชื่อว่า “กฎหมายให้ยืมและให้เช่าเพื่อการป้องกันประชาธิปไตยยูเครนปี 2022” ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น 417 ต่อ 10 เสียง


เมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน วุฒิสภาสหรัฐฯ ได้ลงมติผ่านร่างกฎหมายเดียวกันนี้ ด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ ไม่มีเสียงคัดค้านแม้แต่เสียงเดียว ทำให้ร่างกฎหมายนี้ผ่านการอนุมัติจากทั้ง 2 สภา หรือสภาคองเกรส เรียบร้อยแล้ว และจะถูกส่งต่อไปยังประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ให้ลงนามผ่านเป็นกฎหมายโดยสมบูรณ์


ประโยชน์ของกฎหมายนี้คือ จะช่วยให้สหรัฐฯ สามารถส่งออกอาวุธยุทโธปกรณ์ทางการทหารให้แก่ยูเครนได้รวดเร็วยิ่งขึ้น


Reuters ระบุว่า การผ่านร่างกฎหมายดังกล่าว เป็นการฟื้นกฎหมาย “ให้ยืมและให้เช่า” ที่เคยใช้ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือเมื่อ 80 ปีก่อน และสามารถช่วยให้เอาชนะ “ฮิตเลอร์” มาแล้วในสงครามโลกครั้งที่ 2


---อำนาจของกฏหมายให้ยืม-เช่า---


ภายใต้กฎหมายนี้ สหรัฐฯ จะสามารถให้ยืมหรือให้เช่าอาวุธยุทโธปกรณ์แก่ประเทศพันธมิตร ในกรณีนี้คือการช่วยประเทศต่าง ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากปฏิบัติการของรัสเซียในยูเครน


นอกจากจะช่วยยูเครนแล้ว ยังสามารถช่วยประเทศอื่น ๆ อย่างโปแลนด์ และประเทศยุโรปตะวันออกอื่น ๆ ได้ด้วย


กฎหมายนี้จะอนุญาตให้บริษัทต่าง ๆ ของสหรัฐฯ สามารถจัดส่งสิ่งจำเป็นต่าง ๆ เพิ่มเติมให้แก่ประเทศพันธมิตรได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องรอขั้นตอนทางราชการ


การอนุมัติดังกล่าว หลังจากปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในยูเครนเข้าสู่เดือนที่ 3 แล้ว สมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ หวังว่า กฎหมายนี้จะใช้ได้ผลเหมือนเมื่อ 80 ปีก่อน


แนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ กล่าวก่อนหน้าการลงมติว่า สงครามกำลังดำเนินอยู่ ทุกนาทีมีค่า กฎหมายที่แข็งแกร่งนี้ หมายถึงความแตกต่างระหว่างชีวิตที่อยู่รอดปลอดภัยกับชีวิตที่สูญเสียไป


กฎหมายฉบับนี้ ยังจะอนุญาตให้สหรัฐฯ สามารถจัดส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ให้แก่ยูเครนได้เลยตั้งแต่บัดนี้ โดยให้เลื่อนการจ่ายเงินตามข้อกำหนดทางด้านเทคนิคออกไปก่อนได้ ทำให้โดยสาระสำคัญแล้ว ก็คือการให้ยุทโธปกรณ์แก่รัฐบาลยูเครนนั่นเอง


---สหรัฐฯ ระดมเงินช่วยยูเครนมหาศาล---


ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ยื่นขอสภาคองเกรส ออกกฎหมายงบประมาณเพิ่มเติมมูลค่า 33,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1.13 ล้านล้านบาท เพื่อให้ความช่วยเหลือยูเครนในด้านการทหาร, เศรษฐกิจ และมนุษยธรรม ตลอดหลายเดือนข้างหน้า ชี้ว่า แม้ราคาของการต่อสู้นี้ไม่ใช่ถูกๆ แต่การยอมแพ้จะมีราคามากกว่านั้น


สหรัฐฯ ต้องเลือกว่าจะสนับสนุนชาวยูเครนที่กำลังต่อสู้เพื่อปกป้องประเทศของตัวเอง หรือยืนอยู่เฉยๆ ในขณะที่รัสเซียเดินหน้ารุกยูเครนต่อไป พร้อมย้ำว่าเขาต้องการกฎหมายนี้เพื่อสนับสนุนยูเครนในการต่อสู้เพื่อเสรีภาพ


ไบเดนแจกแจงเพิ่มเติมว่า มาตรการความช่วยเหลือใหม่นี้จะมอบปืนใหญ่, ยานพาหนะหุ้มเกราะ, ระบบต่อต้านรถถังและต่อต้านอากาศยานเพิ่มเติมแก่กองทัพยูเครน เช่นเดียวกับช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ซึ่งรวมถึงด้านอาหาร น้ำดื่ม ยาและเวชภัณฑ์จำเป็น และที่หลบภัยสำหรับชาวยูเครนที่ต้องพลัดถิ่นเพราะสงคราม โดยเป้าหมายคือการแก้ปัญหาเร่งด่วนของทั้งกองทัพและชาวยูเครน เพื่อช่วยประเทศเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบความมั่นคงระยะยาว


แม้ไบเดนจะใช้ถ้อยคำรุนแรงกับรัสเซีย แต่เขายังยืนยันว่า สหรัฐฯ ไม่ได้กำลังโจมตีรัสเซีย เพียงแต่ต้องการช่วยยูเครนปกป้องตนเองจากการรุกรานของรัสเซียเท่านั้น


---ไบเดนต้องการวางตัวไม่กลัวปูติน---


การของบประมาณจากสภาคองเกรสก้อนล่าสุดของไบเดน มีขึ้นในขณะที่รัสเซียเริ่มการโจมตีพื้นที่ใหม่ในภาคตะวันออกของยูเครน และรัฐบาลสหรัฐฯ กำลังเตรียมให้การช่วยเหลือยูเครนต่อต้านการรุกรานจากรัสเซียในระยะยาว เป็นชุดมาตรการความช่วยเหลือมากกว่าที่เคยให้ก่อนหน้านี้ และมากกว่างบประมาณความช่วยเหลือทางทหารและมนุษยธรรมมูลค่า 13,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่สภาคองเกรสอนุมัติเมื่อเดือนก่อนเกิน 2 เท่า


ซาราห์ สมิธ บรรณาธิการด้านอเมริกาเหนือ ของสำนักข่าว BBC มองกว่า การที่ผู้นำสหรัฐฯ ขอให้สภาคองเกรสอนุมติเงินจำนวนมหาศาลให้กับยูเครน มากกว่าสองเท่าของที่สหรัฐฯ ใช้ไปกับการจัดหายุทโธปกรณ์ทางทหารและให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ยูเครน เพราะต้องการ แสดงให้เห็นว่าเขาไม่กลัวคำขู่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ที่ระบุว่า จะตอบโต้ชาติที่แทรกแซงในยูเครนแบบสายฟ้าฟาด ซึ่งถูกคาดว่าอาจจะเป็นการใช้ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง หรือว่า อาวุธนิวเคลียร์


ผู้นำสหรัฐฯ มองว่า คำขู่ดังกล่าว เป็นการแสดงความสิ้นหวังของรัสเซียที่ตระหนักถึงความล้มเหลวของตัวเองในปฏิบัติทางทหารในยูเครน


ขณะที่ ผู้นำสหรัฐฯ พยายามชี้ให้ประชาชนเห็นว่าการช่วยเหลือยูเครนไม่ใช่ถูก ๆ แต่การไม่ทำอะไรเลยนั้นมีราคาแพงกว่า และเผยแผนการจะอนุญาตให้ทางการสหรัฐฯ ไม่เพียงแต่จะแช่แข็งทรัพย์สินมหาเศรษฐีและผู้มีอำนาจชาวรัสเซียในสหรัฐฯ เท่า แต่ยังสามารถยึดและเอามาขายเพื่อทดแทนค่าใช้จ่ายช่วยเหลือยูเครน


อย่างไรก็ตาม แผนดังกล่าวที่มีแนวโน้มว่าจะได้รับการสนับสนุนจากสภาคองเกรส สร้างความกังวลแก่ชาวอเมริกันจำนวนหนึ่งที่มองว่าเป็นการละเมิดเสรีภาพมากเกินไป นอกจากนี้ทรัพย์สินที่รัฐบาลสหรัฐฯ วางแผนจะยึด ก็ไม่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายของจำนวนเงินเพิ่มเติม ที่ทำเนียบขาวต้องการใช้เพื่อสนับสนุนความพยายามในการทำสงครามของยูเครนเช่นกัน

—————

ติดตามสถานการณ์ยูเครน-รัสเซียอย่างใกล้ชิด

https://bit.ly/TNNRussiaInvasion

—————

แปล-เรียบเรียง: เสาวนีย์ พิสิฐานุสรณ์ และ สุภาพร เอ็ลเดรจ

ภาพ: Getty Image

ข่าวที่เกี่ยวข้อง