สรุปแถลงนโยบายประจำปีผู้นำสหรัฐฯ ตอบโต้หนักกรณีรัสเซียบุกยูเครน
ผู้นำสหรัฐฯ แถลงนโยบายประจำปีต่อรัฐสภาสหรัฐฯ เป็นครั้งแรก กล่าวถึงวิกฤตการณ์ยูเครน-รัสเซียอย่างไรบ้าง
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ เพิ่งแถลงนโยบายประจำปี ต่อรัฐสภาสหรัฐฯ หรือ State of the Union เป็นครั้งแรกเมื่อช่วงเช้า (2 มีนาคม) ที่ผ่านมาตามเวลาในประเทศไทย ไบเดนยังได้เชิญเอกอัครราชทูตยูเครนประจำสหรัฐฯ มาเป็นแขกกิติมศักดิ์ เข้าร่วมฟังการแถลงครั้งนี้ด้วย
ประธานาธิบดีไบเดน กล่าวว่าจะใช้โอกาสนี้ประณามการตัดสินใจของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียที่ส่งทหารไปสู้รบในยูเครน ระบุว่า จากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา เราได้เรียนรู้ว่า หากผู้นำเผด็จการไม่ต้องชดใช้จากการรุกรานของพวกเขา ก็ยิ่งจะทำให้เกิดความวุ่นวายมากขึ้น พวกเขายังคงเคลื่อนไหวต่อไป ความเสียหายและภัยคุกคามต่อสหรัฐฯและโลกก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
นอกจากนี้ ไบเดนยังกล่าวชมพันธมิตรทางทหารของนาโต ระบุว่า นาโตถูกสร้างขึ้นเพื่อรักษาสันติภาพและความมั่นคงในยุโรปหลังสงครามโลกครั้งที่สอง
พร้อมระบุว่าสงครามของปูตินได้รับการไตร่ตรองไว้ล่วงหน้าและไม่ได้ถูกยั่วยุให้เกิดขึ้น และปูตินปฏิเสธความพยายามแก้ปัญหาทางการทูต เพราะคิดว่าตะวันตกและนาโตจะไม่ตอบโต้ รวมทั้งคิดว่าเขาสามารถทำให้พวกเราแตกแยกได้ แต่ปูตินคิดผิด เพราะเราพร้อมแล้ว
---สรุปสิ่งที่สหรัฐฯ ทำไปแล้ว---
ประธานาธิบดีไบเดนได้กล่าวถึง การเคลื่อนไหวของเขาและประเทศอื่นๆ เพื่อสนับสนุนยูเครนในช่วง 7 วันที่ผ่านมา
สิ่งที่สหรัฐฯ ได้ทำไปแล้ว :
- ส่งอาวุธมูลค่า 350 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 11,200 ล้านบาทให้กับยูเครน
- ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมกับยูเครน 54 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 1,728 ล้านบาท
- บล็อกธนาคารรัสเซียออกจากระบบการส่งข้อความ Swift หรือระบบโอนเงินระหว่างธนาคารทั่วโลก
- จำกัดความสามารถของธนาคารกลางรัสเซียไม่ให้ปกป้องเงินรูเบิลของรัสเซีย
- เข้าร่วมกองกำลังเฉพาะกิจข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกเพื่อหยุดและยึดทรัพย์สินของผู้มีอำนาจ
- ห้ามเครื่องบินรัสเซียบินเข้าน่านฟ้าสหรัฐฯ
- ทำเนียบขาวยังได้ขอให้รัฐสภาเพิ่มเงินช่วยเหลือฉุกเฉินอีก 6,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 198,400 ล้านบาท ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
อย่างไรก็ตาม ไบเดนย้ำอีกครั้งว่า สหรัฐฯ จะไม่ส่งทหารไปสู้รบกับรัสเซียในยูเครน
---สายตรงผู้นำยูเครน---
ก่อนการแถลงนโยบายประจำปี ทำเนียบขาวได้เปิดเผยภาพประธานาธิบดี ไบเดน ขณะหารือทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนเมื่อวานนี้ (1 มีนาคม)
ผู้นำทั้งสองหารือทางโทรศัพท์เป็นเวลานานประมาณ 30 นาที เซเลนสกีกล่าวต่อไบเดนว่า เมืองคาร์คิฟของยูเครน ซึ่งมีประชากร 1.5 ล้านคน ถูกปืนใหญ่ระดมยิงถล่ม นับเป็นการ “ก่อการร้ายโดยรัฐ” ไบเดนและเซเลนสกียังหารือถึงการที่รัสเซียเพิ่มการโจมตีสถานที่ของพลเรือนในยูเครนด้วย
โอกาสนี้ ไบเดนย้ำกับเซเลนสกีว่า สหรัฐฯ สนับสนุนทั้งด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจ รวมไปถึงความช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมต่อยูเครน
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ที่ผู้นำยูเครนเรียกร้องชาติตะวันตก ให้พิจารณาจัดตั้งเขตห้ามบินเพื่อห้ามการยิงขีปนาวุธของรัสเซีย แต่ สหรัฐฯ ซึ่งให้คำมั่นว่าจะให้ความช่วยเหลือทางทหารกับยูเครน ได้ปฏิเสธข้อเรียกร้องการจัดตั้งเขตห้ามบินของผู้นำยูเครน ระบุว่า มาตรการดังกล่าวจะเป็นการก้าวสู่ความขัดแย้งโดยตรงระหว่างสหรัฐฯ กับรัสเซีย
เนื่องจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน แสดงท่าทีชัดเจนมากว่าจะไม่ส่งทหารอเมริกันไปทำสงครามกับรัสเซีย ซึ่งการจัดตั้งเขตห้ามบินจะต้องส่งกำลังทหารอเมริกันเข้าไปบังคับใช้ และจะทำให้เกิดความขัดแย้งกับรัสเซียโดยตรง ซึ่งสหรัฐฯ ไม่ได้มีแผนที่จะสู้รบกับรัสเซีย
สำนักข่าว BBC ระบุว่า ก่อนที่ประธานาธิบดีไบเดนจะแถลงต่อรัฐสภา ได้สอบถามชาวอเมริกันบางส่วน ว่าพวกเขารู้สึกอย่างไรกับการตอบโต้ของสหรัฐฯ ต่อสงครามในยูเครน ที่สหรัฐฯ ได้ร่วมมือกับหลายประเทศ โดยเฉพาะพันธมิตรตะวันตก ส่งอาวุธไปยังยูเครนและกำหนดมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย ซึ่งชาวอเมริกันยังคงแตกแยกในสิ่งที่ผู้นำสหรัฐฯ ควรทำและสามารถทำได้มากกว่านี้
—————
ติดตามสถานการณ์ยูเครน-รัสเซียอย่างใกล้ชิด
https://bit.ly/TNNRussiaInvasion
—————
แปล-เรียบเรียง: สุภาพร เอ็ลเดรจ
ภาพ: SAUL LOEB / POOL / AFP