แม่แฟนสาวทอยทอย เผาร่างลูกสาวทั้งน้ำตา เพื่อนเผย พิมมาหา ลาเพื่อนๆ (มีคลิป)

หลังจากที่ คุณแม่ ของ พิม ชัชสรัญ แฟนสาวของนักแสดงหนุ่มซีรีส์ดัง ทอยทอย ธนภัทร ได้ทำพิธีฌาปนกิจศพลูกสาวเมื่อวันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าของวันนี้คุณแม่ของพิม ได้โพสต์ภาพทำพิธีเก็บอัฐิ โดยระบุว่า พิมชอบทะเล.. วันนี้แม่จะพาหนูไปนะ

โดยก่อนหน้านี้ คุณแม่ ได้โพสต์ภาพกับภาพของลูกสาวลงอินสตาแกรมส่วนตัว พร้อมข้อความสุดเศร้าว่า หัวใจแหลกสลาย แม่จะเข้มแข็งให้ได้นะ พิมไม่ต้องเป็นห่วง ขอให้ลูกของแม่ไปสู่ภพภูมิที่ดี รักลูกสุดหัวใจ  ซึ่งเมื่อวันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา ครอบครัวได้เผาร่าง พิม ชัชสรัญ โดยมีการประกอบพิธีฌาปนกิจศพที่วัดบึงทองหลาง แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร โดยแม่พร้อมพี่สาวทั้ง 2 คน และเพื่อนสนิทได้เดินไปดูหน้าเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะร้องไห้อย่างหนัก

ด้านเพื่อนสนิทของพิม เผยว่า  ปกติจะเจอกันประจำ จะพูดคุยกันตลอด  แต่ช่วงโควิดทำให้ได้เจอน้อยลง ครั้งสุดท้ายที่คุยกับพิม คือช่วง 2 วันก่อนเกิดเหตุ ตอนแรกจะนัดเจอกัน แต่ด้วยโควิดเลยไม่ได้เจอ พิมได้พูดทำนองว่า “เมื่อไรจะได้เจอกันสักที อยากเจอ” และ “นี่จะต้องตายเพราะโควิด-19 หรือเพราะอะไรก่อน” แต่ไม่อยากจะคิดว่า คำพูดเหล่านี้คือลางบอกเหตุ น่าจะเป็นการพูดคุยกันทั่วไปมากกว่า พิม ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า และไบโพล่าร์ มีอาการมาประมาณ 3 ปีแล้ว เวลาสภาพจิตใจย่ำแย่ มักจะมีอาการร้องไห้ และจะทำร้ายร่างกายตัวเอง  เคยกินยาฆ่าตัวตาย แต่ตนเข้าไปช่วยได้ทัน พิมไม่เคยทำร้ายตัวเองด้วยการใช้ของมีคม หรือใช้อาวุธมาก่อน เวลามีอาการก็ไม่เคยทำร้ายร่างกายคนอื่น หลังเกิดเรื่องตนไม่ได้ฝันถึงพิม แต่เพื่อนๆ คนอื่นมาเล่าให้ฟังว่า  พิมได้มาเข้าฝัน เหมือนกำลังเดินไปที่ไหนสักแห่ง เป็นสถานที่สูงๆ แล้วก็หันมายิ้มให้ ด้วยเหตุนี้ ตนจึงเชื่อว่าเป็นความฝันที่ดี และพิมคงจะมาลาเพื่อนๆ เพื่อบอกว่าไปอย่างมีความสุขแล้ว 

ด้าน อาของนักแสดงหนุ่ม ทอยทอย ธนภัทร ได้เผยว่า ตอนแรกที่ตนดูข่าวก็ตกใจ เพราะไม่คิดว่าหลานชายจะก่อเหตุ ที่สำคัญหลานชาย เป็นคนโตมากับอาม่า  หลังเกิดเหตุคนในบ้านยังคงปิดข่าวไม่ให้อาม่ารู้ความจริง เพราะอาม่าอายุมากถึง 80 กว่าปีแล้ว ตอนนี้ก็ให้ญาติมารับไปอยู่ด้วย เพราะไม่อยากให้เจอหรือรับรู้ข่าวของหลานชาย สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนในฐานะครอบครัวของทอยทอย ก็อยากจะฝากขอโทษไปยังครอบครัวฝ่ายหญิง เพราะตนก็เป็นแม่คน เข้าใจหัวอกคนเป็นแม่เหมือนกัน ดังนั้น ตนก็ต้องให้หลานชายเข้าสู่กระบวนการของกฎหมาย ผิดว่าไปตามผิด ล่าสุดตนก็ได้มีโอกาสพูดคุยกับหลานชาย เจ้าตัวก็ยังร้องไห้ และช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ฉะนั้น เหตุการณ์ครั้งนี้ ก็ถือว่าเป็นบทเรียนที่เขาจะต้องจำ และมีสติให้มากกว่านี้