เข้าวงการเต็มตัวแล้ว! "พระมหาเทวีเจ้าแห่งเมืองทิพย์" เปิดตัวเล่นหนังเรื่องแรก

เรียกว่าแถลงการณ์จากเมืองทิพย์ต่อหน้าสื่อมวลชนเป็นครั้งแรกสำหรับ "แม่หญิงลี" หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ "พระมหาเทวีเจ้าแห่งเมืองทิพย์" 

หลังใช้เวลากว่า 21 ชั่วโมงเดินทางจากสถานีรถไฟวัดช้างให้ จังหวัดปัตตานี สู่สถานีหัวลำโพง กรุงเทพ  โดยการให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ก็เป็นการก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงก้าวแรกของแม่หญิงลีอีกด้วย กับการเล่นภาพยนตร์เรื่องหอแต๋วแตก ภาคล่าสุดของผู้กำกับมากความสามารถ "พชร์ อานนท์" โดย แม่หญิงลีเผยว่า 

"ขอบคุณทุกแรงใจ แรงเชียร์ ที่ไปต้อนรับถึงหัวลำโพง มีความปลื้มใจมากขอบคุณค่ะ" 

"เราไม่คิดไม่ฝันว่ากระแสของเราจะติดเทรนด์อันดับหนึ่ง ยังไงก็ฝากไว้ด้วยสำหรับแม่หญิลีและน้องทิพย์ จากเมืองทิพย์ของเรานะคะ มาแสดงหนังครั้งนี้ก็ขอให้ปังปุริเยค่ะ"

"เป็นครั้งแรกที่มาถึงหัวเมืองบางกอก แล้วก็อีกอย่างหนึ่ง แม่หญิงลี ในชีวิตนี้ไม่เคยเดินพารากอน ไม่เคยรู้จักสถานที่ใดๆเลยนอกจากสนามหลวง เพราะฉะนั้นชีวิตนี้มีความภาคภูมิใจมากแล้วค่ะ ขอบคุณค่ะ"

"จากสถานที่ ที่เราไม่เคยรู้จัก จากสถานที่ ที่ว่าเราไม่เคยมา กลับได้มาแล้วก็ได้เจอ ผู้คนที่รุมรอบตัวเรา ให้ความรักความเมตตาเราขนาดนี้เราก็ได้มาเจอจริงๆ กับความรักที่มอบให้ ทั้งมีแกง มีเสื้อผ้ามาให้ ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเรื่องจริง ขอบคุณของทุกๆชิ้นที่ตั้งใจนำมาให้"

"ชีวิตถามว่าเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนไหม มันก็เปลี่ยนแต่ว่าแม่หญิงลี ก็ต้องรับภาระทางบ้านอีก เพราะห้องน้ำ ห้องครัวก็ยังไม่เสร็จ ก็ต้องขอบคุณพี่ พชร์ อานนท์ที่มอบกำลังทรัพย์ให้ส่วนหนึ่ง จะนำเงินนี้กลับไปรักษาแม่ ทั้ง 3 โรคที่มารุมเล้า เพราะตอนนี้แม่หญิงลีเหลือร่มโพธิ์ คนเดียวแล้ว เพราะฉะนั้นงานอะไรก็ได้ที่ได้เงินมาดูแลครอบครัว แม่หญิงลีทำหมด แล้วก็มาถึงวันนี้แม่หญิงลีขอบคุณมาก แล้วก็ที่สำคัญขอบคุณ น้องทิพย์ที่พาแม่มาถึงวันนี้ เพราะ เฟซบุ๊กก็เล่นไม่เป็น อะไรก็ทำไม่เป็นวันนี้ต้องขอบคุณมากๆ ขอให้ลูกมีความสุข ความเจริญนะลูกนะ"

"ส่วนเรื่องงานก็มียกเลิกไปบ้าง ถ้างานไหนทำไม่ทันก็ไม่ได้รับ เพราะไม่อยากโดนสาป ต้องขอโทษด้วยนะลูกนะ ส่วนเรื่องการพักผ่อน ก่อนหน้านี้ลำบากกว่านี้ นอนน้อยก็ไม่เป็นไร ขอให้ประสบความสำเร็จที่เราตั้งใจไว้ก็พอแล้ว เพราะชีวิตคนเราโอกาสไม่ได้มาง่ายๆ เพราะฉะนั้น เมื่อโอกาสมาแล้วถึงจะเหนื่อยจะล้ายังไงก็ต้องทำให้ปังที่สุด นัมเบอร์วันค่ะ"

"ส่วนที่มากรุงเทพในครั้งนี้ก็น่าจะอยู่นานเป็นเดือนเพราะว่าถ่ายหนัง มันก็หลายคิว แต่ก็ลืมไม่ได้ ต้องกลับไปพาคุณแม่ที่ยังอยู่ที่บ้าน ต้องไปจัดการเพราะคิวคุณหมอก็มาแล้ว เดี๋ยวถ้าเคลียร์งานเสร็จ ก็ต้องบินกลับ ทำตามที่ พี่พชร์ ให้ไว้ที่จะให้แม่หญิงลีรักษาแม่ต่อไป เงินทุกบาทจะนำไปใช้ในการรักษาคุณแม่"

"ส่วนตอนนี้ก็มีคนดูแลแม่แต่ก็ไม่ไว้วางใจเท่าไหร ส่วนน้องก็มีครอบครัว ก็ไม่ได้จะสนใจสักเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นที่เป็นเสาหลักที่แม่หญิงลีต้องดิ้นรนมาถึงกรุงเทพ พี่น้องมีครอบครัวไปเราก็ไม่ได้ว่าเขา เพราะว่าครอบครัวเขาก็ได้ออกไปจากครอบครัวเราแล้ว แต่ว่าการรักษาแม่ แม่หญิงลีก็ต้องรักษาต่อ ค่าใช้จ่ายในการรักษาแต่ละครั้งก็ไม่ตำกว่า 5พันนะลูกนะ" 

"ไม่ดราม่าเพราะว่าคนในครอบครัวแม่บอกตลอดว่า ให้ช่วยย้อนกลับไปดูท่านหน่อย เพราะเรามาทำงาน แล้วน้องก็เข้าใจ พร้อมโทรมาถามด้วยว่าทำงานเป็นยังไงมั่ง เราก็โทรถามกลับไปว่าเป็นไงมั่งดูแลแม่ เขาก็บอกโอเคดี เพราะฉะนั้นเราก็ไว้เนื้อเชื่อใจกันได้ แล้วก็ไม่มีดราม่าในครอบครัวแน่นอนค่ะ แม่หญิงลีสัญญา"  

"ส่วนเรื่องฟัน ถ้ามีคุณหมอ มีคิวมาก็ทำค่ะ เพราะว่าฟันแม่หญิงลี เป็นคนบ้านๆ กินหมาก กินอะไรตามปกติเนอะ บอกกันตรงๆก็คือมันจะมีคราบหินปูนต่างๆ แต่ไม่ใช่ว่าไม่รักษาความสะอาดนะ แม่บอกทุกคนไปแล้วว่าสิ่งไหนที่คนบูลลี่ฉันมา ถ้ามันเป็นเรื่องที่ทำให้ฉันโอเค ดีขึ้น ฉันก็พร้อมจะปรับปรุง แต่ว่าการที่ว่าเป็นตัวตนที่แท้จริงยังคงเดิมค่ะ" 

"เตรียมพร้อมกับการเข้าสู่วงการบันเทิง ก็พร้อมมาตลอด ถ้าเปิดโอกาสให้ก็ทำโอกาสนี้ให้ดีที่สุดค่ะ ถ้าจะให้ฝึกแม่หญิงลีก็พร้อมค่ะ" 

"อยากเจอดาราคนไหนก็ อยากเจอ แม่อั้ม พัชราภา,ยุ้ย จีรนันท์ และ เบลล่า ราณี อยากเจอมากที่สุดเลย ในนามของแม่หญิงลีนะคะ น้องอั้ม ถ้าน้องอั้มฟังอยู่ ถ้าสื่อต่างๆเสนอข่าวของแม่หญิงลีไป ผ่านหูน้องอั้ม ก็ขอบอกน้องอั้มได้เลยว่า พี่หญิงลีคนนี้ ชอบน้องอั้ม แล้วก็ติดตามน้องอั้ม พัชราภา นัมเบอร์วันในหัวใจเลยค่ะ" 

ขอบคุณภาพ : FB VEEN