TNN online "ทนายเฮง" โต้กลับไม่เคยเรียกเงิน "ปราปต์ปฎล" 10 ล้านบาท

TNN ONLINE

บันเทิง

"ทนายเฮง" โต้กลับไม่เคยเรียกเงิน "ปราปต์ปฎล" 10 ล้านบาท

ทนายเฮง โต้กลับไม่เคยเรียกเงิน ปราปต์ปฎล 10 ล้านบาท

เตรียมฟ้องกลับ "ปราปต์ปฎล" ยืนยันไม่ได้ตบทรัพย์ ให้ช่วยวิ่งเต้นคดี Forex 3d ตามที่ "ปราปต์ปฎล" ให้ข่าว

ออกมาชี้แจ้งทันทีที่ถูกพูดถึงเรื่องของการตบทรัพย์ 10 ล้านบาท สำหรับ นางสาวชิดชญา วณิชกิตติ์ พร้อมด้วยนายกฤษดา กฤตเมธานนท์ หรือ ทนายเฮง ผู้ที่ถูกนายปราปต์ปฎล สุวรรณบาง หรือปราปต์ นักแสดง อ้างว่าอยู่ในกลุ่มขบวนการตบทรัพย์เพื่อช่วยเหลือการดำเนินคดีกับแฟนสาว ที่ถูกกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกงประชาชน และฟอกเงิน การลงทุนสกุลเงินดิจิทัลฟอเร็กซ์-ทรีดี ไปก่อนหน้านี้และถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ ยังไม่ได้รับการประกันตัว ได้นำหลักฐานการพูดคุยกับนายปราบต์ ในช่วงเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา



ทนายเฮง โต้กลับไม่เคยเรียกเงิน ปราปต์ปฎล 10 ล้านบาท



ภาพจาก True Inside


นางสาวชิดชญา เปิดเผยว่า จุดเริ่มต้นที่ได้รู้จักกับนายปราบต์ คือเมื่อเดือนมิถุนายน โดยได้ทักไปหาแฟนสาวที่เป็นเพื่อนสนิทกันเพื่อขอให้นายปราบต์ โปรโมทนาฬิกายี่ห้อหนึ่งที่ขายอยู่ เนื่องจากเห็นว่านายปราบต์ ใส่ยี่ห้อนี้เป็นประจำ จน และนายปราบต์ยังมาขอนาฬิกาฟรีด้วย แต่ทางนางสาวชิดชญา ไม่สามารถให้ได้เนื่องจากไม่ใช่เจ้าของโดยตรง แต่แฟนของนายปราบต์ก็ได้ตกลงซื้อไป 1 เรือน เพื่อช่วยสนับสนุนเพื่อนของตัวเอง  หลังจากนั้นได้ทราบข่าวว่าแฟนสาวถูกดำเนินคดีจึงรู้สึกตกใจและเป็นห่วงเพื่อน และได้นัดหมายให้นายปราบต์ มาคุยกับทนายเฮง และตัวเองอยู่ด้วย เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2565 ซึ่งรู้จักกัน เพราะเป็นคนที่ร่วมทำคดีนี้ โดยนัดรับประทานอาหารกันที่โรงแรมแห่งหนึ่ง เป็นเวลานานกว่า 1 ชั่วโมง และเป็นคนที่ออกใช้จ่ายค่าอาหารให้เนื่องจากนายปราบต์บอกว่าไม่มีเงิน


โดยยืนยันว่าการพูดคุยครั้งนี้เป็นเพียงการสอบถามเรื่องเงื่อนไขการประกันตัวเท่านั้น โดยทนายเฮงก็ได้แนะนำเพียงว่า คดีนี้มีความเสียหายจำนวนมาก ทำให้วงเงินเงื่อนไขการประกันตัวก็ต้องใช้จำนวนมากเช่นกันเป็นหลักล้าน โดยที่ไม่ได้บอกจำนวนเงิน 10 ล้านบาท ตามที่นายปราบต์กล่าวหา รวมทั้งไม่ได้มีการกล่าวอ้างถึงการวิ่งเต้นคดี หรือ พูดถึงผู้ใหญ่ในกระทรวงยุติธรรมเพื่อขอความช่วยเหลือ หรือวิ่งเต้นคดี และไม่มีการตบทรัพย์ใดใดทั้งสิ้น ซึ่งคดีนี้อยู่ในชั้นศาลแล้ว จึงไม่สามารถวิ่งเต้นคดีในชั้นสอบสวนได้

ส่วนที่นายปราบต์ อ้างว่ามีการพูดถึง “ความยุติธรรม ต้องมีค่าใช้จ่าย” ทนายเฮง ยืนยันว่าไม่ได้พูดถึง แต่หากตามหลักการว่าจ้างคดีความแล้วก็จำเป็นต้องมีค่าจ้างทนายความวิชาชีพ และค่าดำเนินการในชั้นศาลอยู่แล้ว แต่จะจำนวนเท่าไรก็ขึ้นอยู่กับการตกลงระหว่างคู่ความ โดยหลังจากนี้ทั้งสองคนก็จะไปแจ้งความดำเนินคดีกับนายปราบต์ ในข้อหา หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เนื่องจากถือว่าได้รับความเสียหายทั้งเรื่องชื่อเสียง และผลกระทบความน่าเชื่อถือทางธุรกิจ





ทนายเฮง โต้กลับไม่เคยเรียกเงิน ปราปต์ปฎล 10 ล้านบาท



ภาพจาก True Inside


ขณะที่ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยืนยันเช่นกันว่า ไม่ได้รู้จักกับนายปราบต์เป็นการส่วนตัว แต่ยอมรับเคยไปทานอาหารด้วยกัน แต่ไม่ได้พูดคุยเรื่องคดี ส่วนทนายเฮง ยอมรับว่าก็เป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมายในการร่วมกันทำงานในกระทรวง ที่มีหลายคดีต้องการรับความช่วยเหลือจากผู้มีความรู่ความสามารถ ซึ่งทนายเฮง ก็ไม่ได้รับค่าตอบแทนจากกระทรวง เป็นการช่วยเหลือด้วยจิตอาสา พร้อมยืนยันว่าคดีนี้ไม่สามารถวิ่งเต้นในชั้นสอบสวนได้แล้ว เรื่องจากคดีอยู่ในชั้นศาล แต่หากนายปราบต์มีพยานหลักฐานที่เห็นว่ากลุ่มคนที่เกี่ยวข้องเป็นเรื่องตบทรัพย์ก็สามารถดำเนินคดีได้ ซึ่งที่ผ่านมาในช่วงที่นัดรับประทานอาหารกัน นายปราบต์ ยังไม่ถูกดำเนินคดี แต่หลังจากนั้นประมาณ 3 เดือนก็ถูกแจ้งข้อกล่าวหาฟอกเงินนั้น ทำให้นายปราบต์ ตั้งข้อสังเกตว่าเป็นสาเหตุที่ไม่ยอมจ่ายเงินหรือไม่นั้น ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต ก็ยืนยันว่า ในช่วงดังกล่าวไม่มีการเรียกรับเงิน เพราะนายปราบต์ ยังไม่ตกเป็นผู้ต้องหาและถือว่าไม่เกี่ยวข้องทางคดี


ส่วนก่อนหน้านี้ที่นายปราบต์ ได้ดำเนินคดีกับนายพงศธร อินอำนวย ผอ.ศูนย์คดียาเสพติด ดีเอสไอ ข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เนื่องจากไปค้นที่ห้องพักของเพื่อนแฟนสาวนั้น คดีนี้พนักงานสอบสวนสั่งไม่ฟ้องไปแล้ว เนื่องจากเป็นการเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย และนำค้นโดยเจ้าของห้องอย่างถูกต้อง เพื่อให้นำของที่เกี่ยวข้องทางคดีออกมา ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้สำหรับคดีฟอเร็กซ์-ทรีดี ยืนยันว่าดีเอสไอ ได้สืบสวนอย่างตรงไปตรงมาและจะดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคน และกำลังดำเนินการยึดทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดให้กับผู้เสียหายกว่า 12,000 คน และยึดมาได้พอสมควรแล้ว ซึ่งการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาหลักที่ร่วมกับนายอภิรักษ์ โกฎธิ ในข้อหาฉ้อโกงไปแล้ว ส่วนการขยายผลก็จะมีกลุ่มคดีฟอกเงินที่กำลังดำเนินการสรุปสำนวนส่งฟ้องอัยการ

ข่าวแนะนำ