"ปั้นจั่น" เล่าย้อนชีวิตดำดิ่ง ปลาหมอตายเพราะปาก (มีคลิป)

พระเอกดัง ปั้นจั่น ปรมะ ได้มาย้อนเล่าชีวิตดำดิ่ง ที่หลายคนไม่เคยผ่านรายการของ มารี เบิร์นเนอร์ และ ลิลลี่ ภัณฑิลา โดยปั้นจั่น เล่าว่า ตอนนั้นมีปัญหาหลายๆ อย่าง และค่อยๆ ไต่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของทุกคน จนกระทั่งปลาหมอตายเพราะปาก ตามข่าวที่หลายคนรู้ว่า โดนด่า โดนว่า มีคนเตือนแต่ก็ไม่ฟัง ตอนนั้นรู้สึกว่าเป็นตัวของตัวเองมาก รู้สึกว่าอยากพูดทุกอย่างที่อยากจะพูด  วันนึงเรามีชื่อเสียงก็อยากเปลี่ยนแปลงบางอย่าง เรื่องอนุรักษ์สัตว์ ธรรมชาติ แต่อาจจะด้วยวุฒิภาวะ คำพูดของเรามันอาจจะไม่เคลียร์ ไม่เหมาะสม หรืออะไรก็แล้วแต่ เลยทำให้การที่เราโพสต์หรือพูด คนตีความไปอีกแบบนึง จุดประสงค์หลักๆที่โพสต์ไป ผมแค่อยากให้มันเกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นเพื่อส่วนรวม 

ตอนถูกด่าก็ช็อกเลย คนติดตามหายไปเกือบล้านภายในเวลาไม่กี่เดือน จากที่มีคนกดไลก์รูปนึงเป็นแสนกลายเป็นคอมเมนต์ด่า แต่เชื่อไหมว่าในคอมเมนต์เป็นหมื่นเป็นแสน มีคอมเมนต์นึงติดในความรู้สึกตลอดเวลา คือ รู้ไหมคนที่เขานั่งรถเมล์ไปทำงานประจำเขาลำบากแค่ไหน ชีวิตคนเราไม่เท่ากันคำนี้ติดอยู่ในสมองตลอดเวลา เราขับรถไปทำงานแล้วรถติด จอดข้างรถเมล์ วันที่ไม่ได้โดนด่า เราขับรถแล้วมองไปเราก็คิดว่าโลกนี้ไม่ยุติธรรม ชีวิตคนเราไม่เท่ากัน แล้วสิ่งที่เกลียดที่สุดคือการเหยียดคน เพราะเราเป็นคนไม่เคยเหยียดใคร พอเจอคอมเมนต์นี้เหมือนแทงใจดำ หลักๆคนมองว่าเราดูถูกคนอื่นเลยแทงใจเรา ก็เลยไม่อยากออกไปไหน เก็บตัว ทำงานกลับมาก็เข้าห้อง ปิดห้องมืด การนอนเป็นอะไรที่ดีที่สุดเพราะไม่ต้องคิดอะไร นอนอยู่ในห้อง ลบเพื่อน อันฟอลโลว์เพื่อน พังข้าวของ ทำร้ายตัวเอง จนวันนึง ชกหน้าตัวเอง แล้วเห็นแม่ชกตัวเองแบบดังมาก เลยถามแม่ว่า ทำแบบนี้ทำไม ผมโกรธมาก แม่ก็บอกว่า ทุกครั้งที่แม่เห็นปั้นจั่นทำร้ายตัวเอง แม่เจ็บมาก และแม่ไม่รู้ว่าแม่จะทำอย่างไร แล้วเวลาที่ปั้นจั่นเห็นแม่ทำร้ายร่างกายตัวเองรู้สึกยังไง นั่นคือคำตอบ 

ส่วนเรื่องซึมเศร้า จริงๆ ไม่อยากพูด คนในวงการบันเทิงเป็นกันเยอะโรคซึมเศร้า คนที่ไม่เข้าใจก็จะคิดว่าเป็นกันอีกแล้ว ตอนนั้นก็คิดว่าตัวเองเป็นหรือเปล่า หรือว่ากระแดะไปเอง แต่พอไปปรึกษาหมออย่างจริงจัง การทำร้ายร่างกายตัวเองมันเป็นการฮีลตัวเอง เวลาที่เราเจ็บจากความรู้สึกข้างใน การชกตัวเองร่างกายจะหลั่งสารตัวหนึ่งออกมาเพื่อรักษาความเจ็บ แต่สารตัวนั้นมันจะไปฮีลความรู้สึกของตัวเราด้วย ทำให้น้ำเดือดกลายเป็นน้ำอุ่น ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว