ย้อนเส้นทางชีวิตพระเอกตลอดกาล "สมบัติ เมทะนี" (มีคลิป)
ประวัติผลงานและความทรงจำของพระเอกระดับตำนาน “สมบัติ เมทะนี”
สมบัติ เมทะนี ชีวิตวัยเด็กถูกเลี้ยงโดยคุณพ่อ คุณย่า คุณอา พ่อชอบ กีฬาชกมวย อาแอ๊ด เลยซึมซับความชอบและมีสกิลด้านนี้ และเป็นที่รักของนักมวยในค่าย ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 คุณพ่อถูกเกณฑ์ไปเป็นทหาร สมัยนั้นอาแอ๊ดอยู่ ป.1 เลยต้องย้ายตามครอบครัวไปอยู่บางปะอิน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นเรียนรู้การใช้ชีวิตแบบคนต่างจังหวัด ว่ายน้ำเป็นที่นั่น ขี่ควายเป็นที่นั่น
หลังสงครามสงบ คุณพ่อได้เลื่อนตำแหน่ง ชีวิตพลิกอีกครั้ง อาแอ๊ดกลับมาเรียน ช่างก่อสร้างอุเทนถวาย และที่นี่เองเค้าได้รับเลือกให้เป็นพี่ใหญ่ขาโจ๋ ปกป้องเพื่อนๆ
หล่อๆแบบนี้ ก็แพ้หนุ่มอื่นมาก่อน สมัยเรียนอุเทน อาแอ๊ด อาศัยหุ่นนักกีฬาเข้าประกวดชายงาม แต่แพ้เพื่อนๆที่เรียนด้วยกัน คว้าไปได้มากสุดแค่รองชนะเลิศ
หลังจบอนุปริญญา อาแอ๊ด สมัครเป็นทหารเกณฑ์ ฝึก 6 เดือนก่อนออกมาหางานทำ พร้อมกับแต่งงานครั้งแรก งานไม่ราบรื่น ชีวิตล้มลุกคลุกคลาน เดินเตะฝุ่นจนมาเจอแมวมอง อย่าง นำดี วิตตะ
ผลงานเรื่องแรก หัวใจปรารถนา ละครทีวี ภาพขาว-ดำ ออกอากาศทางช่อง 7...เทค เดียว ผ่าน ไม่เกินจริง .. แม้ อาแอ๊ด จะมือใหม่ป้ายแดงแต่เลียนแบบแอ็คติ้งมาจากหนังไทย จีน ฝรั่ง ที่คุณพ่อพาไปดู
เล่น 4 เรื่องแรก ไม่ดัง นำดี วิตตะ เลยจับปรับคาแร็คเตอร์ให้เป็นนักร้อง ซึ่งเสียงไปเข้าหู น้อย กมลวาทิน และ รัตนาภรณ์ อินทรกําแหง จึงส่งคนมาเชิญ อาแอ๊ดไปดูตัว
ตอนแรกเกือบไม่ผ่านเพราะทั้ง 2 ท่านไม่ชอบลุคที่ดูเหมือนกุ๋ย จนกระทั่งนกสาลิกา จอมหวงตัวที่เลี้ยงไว้บินมาเกาะมืออาแอ๊ด น้อย กมลวาทิน และ รัตนาภรณ์ จึงเปิดใจและให้เล่นหนังเรื่องแรก รุ้งเพชร หนัง 166 มิลลิเมตรเรื่องแรก เปิดตัวพระเอกดาวรุ่งคนใหม่ ประกบนางเอกรุ่นพี่ รัตนาภรณ์ อินทรกําแหง ฉายครั้งแรกที่งานยี่เป็ง จ.เชียงใหม่ พ.ศ.2504 คนชอบมาก เพราะเป็นครั้งแรกที่พระเอกในเรื่องมาร้องเพลงหน้าเวที
สมัยนั้น การวัดความดังของพระเอกวัดจากรายได้ของหนังเรื่องแรกที่เล่น ถ้าได้เกิน 8 แสน แปลว่าสอบผ่าน แน่นอนว่าคุณอาสอบผ่าน ได้ไฟเขียวเล่นหนังเรื่องที่ 2 เป็นหนังตลก ชื่อสกาวเดือน ทำรายได้เกือบล้าน หนังเรื่องที่ 3 สิงห์สั่งป่า เป็นหนังบู๊เรื่องแรกในชีวิตพอหลังจากหนังเรื่องที่ 5 ก็เป็นนักแสดงอิสระ ทำให้มีงานติดต่อตลอดปี จนปี พ.ศ.2508 ได้รางวัลตุ๊กตาทอง จากพระหัตถ์ในหลวง รัชกาลที่ 9 จากผลงานเรื่อง ศึกบางระจัน
หลังการเสียชีวิตของ มิตร ชัยบัญชา ทำให้อาแอ๊ดกลายเป็นพระเอกเบอร์ 1 ที่เรียกว่าคิวทองตลอด 1 ปี มีวันหยุดเพียง 3 วัน เคยรับงานแสดงพร้อมกันมากถึง 28 เรื่อง และยังถูกบันทึกลงกินเนสส์บุ๊กว่าเป็นนักแสดงที่รับบทพระเอกมากที่สุดในโลก ถึง 617 เรื่อง แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ ข่าวใหญ่ระดับประเทศ ถูกหนังสือพิมพ์ลงข่าวมีภรรยา และลูกแล้ว
กระแสนิยมตก เลยผันตัวไปอยู่เบื้องหลังผลิตหนังแทน ในนาม เมทนีฟิล์ม เรื่องแรก เจ๊ง ไม่เป็นท่าจนมาถึงเรื่องที่ 2 นักเลงเทวดา และหนังหลังจากนั้น อาแอ๊ด ใช้เทคนิคใหม่ๆในการถ่ายทำ เช่น ซื้อบอลลูน ราคา 5 แสน มาประกอบฉาก หรือขี่รถไล่ยิงกันในชั้นใต้ดิน
หลังจากนั้น ผันตัวเป็นผู้กำกับอิสระ รับงานทำหนังให้ค่ายต่างๆรวม 24 เรื่อง ก่อนจะยอมกลับมาหน้าจอ ลดบทพระเอก มาเป็นบทพ่อ จากนั้นพักใหญ่ อาแอ๊ด เริ่มอิ่มตัว พักงานบันเทิงหันกลับมาเรียน ปริญญาตรี โท และ เอก ตั้งใจเปลี่ยนอาชีพเป็น สว.
เดือนมีนาคม พ.ศ.2556 อาแอ๊ดมีอาการควบคุมร่างกายไม่ได้ หลังกลับจากนวดฝ่าเท้า ทำให้มีการรักษาตัวตลอด จนถึงวันนี้