จับตา ‘ลิซ่า & BLACKPINK’!! จ่อหมดสัญญากับค่ายปลุกปั้นในปี 2023
กำลังจะได้ฉลองเดบิวต์ครบ 6 ปีในอีกไม่กี่เดือน ล่าสุดแฟนเพลงวง BLACKPINK ก็ค่อนข้างกังวลเกี่ยวกับสัญญาของพวกเธอกับสังกัดปลุกปั้นที่กำลังจะหมดลงในปีหน้า
อัปเดตข่าวคราวเกี่ยวกับสี่สาว “แบล็กพิงก์” (BLACKPINK) โดยเฉพาะ “ลิซ่า - ลลิษา มโนบาล” (Lisa) ล่าสุดมีทั้งประเด็นข่าวดีและเรื่องที่แฟนๆ ต่างอดกังวลกันไม่ได้ ประเด็นข่าวดีก็มีทั้งเรื่องที่แฟนๆ ต่างร่วมฉลองให้กับโล่เพชรจากยูทูป หลังจากที่ช่อง Lilifilm Official ของ “ลิซ่า” ทำยอดผู้ติดตามทะลุ 10 ล้าน ทั้งที่คลิปในช่องนั้นมีเพียง 23 คลิป แต่ยอดวิวรวมนั้นเกือบ 450 ล้านครั้งเข้าไปแล้ว
ไม่นับรวมช็อต “ลิซ่า” ในบิกินี่ของแบรนด์ “เซลีน” (CELINE) ซึ่งถ่ายเอาไว้ตอนกลับมาเที่ยวทะเลไทย เฉพาะสองโพสต์นี้บน IG ยอดไลค์ก็เกือบ 16 ล้านครั้งเข้าไปแล้ว ขณะที่จำนวนผู้ติดตาม IG ของ “ลิซ่า” ก็ทะยานไปกว่า 77.4 ล้านฟอลโลเวอร์ อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับจำนวนผู้ติดตามทาง IG นี้เองที่แฟนๆ สังเกตได้ว่ามีแอคเคาท์ของบางแบรนด์ในบางประเทศที่ร่วมงานกับ “ลิซ่า” มีการทยอยอันฟอลโลว์เธอไป
ภาพจาก: Youtube Lilifilm Official
ภาพจาก: IG lalalalisa_m
ในจำนวนนี้คือแบรนด์เสื้อผ้าของฟิลิปปินส์ รวมถึงแบรนด์เครื่องสำอาง MAC Cosmetics ในบางประเทศ ซึ่งเมื่อแฟนคลับมีการสอบถามไปยังทางแบรนด์ก็ได้ทราบว่าสาเหตุเกี่ยวโยงกับสัญญาของ “ลิซ่า” และวง BLACKPINK ที่มีต่อค่าย “วายจี เอนเตอร์เทนเมนต์” (YG Entertainment) ต้นสังกัดของพวกเธอ ที่กำลังจะหมดลงในปี 2023 หรือปีหน้า
ในขณะเดียวกันหลายฝ่ายมองว่าการที่มูลค่าการตลาดของ “ลิซ่า” ที่กระฉูดตามชื่อเสียงความโด่งดังของเธอทั้งในฐานะศิลปินและแฟชั่นไอค่อนโดยเฉพาะหลังจากเธอปล่อยงานเพลงเดี่ยว ส่งผลให้ค่าตัวของเธอพุ่งทะยานยิ่งขึ้นกว่าเดิมก็มีส่วนไม่น้อยที่ทำให้บางแบรนด์คิดหนักกับการต่อสัญญา
ภาพจาก: True Inside
ซึ่งเกี่ยวกับประเด็นสัญญาที่กำลังจะหมดลงกับค่าย YG นั้น หลายคนยังมองว่าทั้ง “ลิซ่า” และวง BLACKPINK ยังคงเป็นหนึ่งในศิลปินระดับท็อปที่สร้างชื่อและรายได้ให้กับสังกัด ไม่นับรวมกับที่ทางค่ายมีการจดลิขสิทธิ์ทั้งชื่อและนามสกุลภาษาไทยของ “ลิซ่า” เอาไว้หมดและเพลงเดี่ยวของ “ลิซ่า” ปล่อยมาแค่ชุดเดียวก็ทุบสถิติระดับโลกไปตั้งเท่าไหร่ ดังนั้นมีโอกาสน้อยมากที่ค่าย YG จะไม่อยากต่อสัญญากับสี่สาว BLACKPINK ที่ชื่อเสียงความโด่งดังของพวกเธอสามารถพีคทะลุจุดเดือดไปยิ่งกว่าที่เป็นอยู่นี้ได้อีกแน่นอน
ภาพจาก: True Inside
ภาพจาก: True Inside
ภาพจาก: True Inside
ภาพจาก: True Inside