พร้อมยัง!รับเงินประกันมิเตอร์ไฟฟ้าคืน ต้องทำอย่างไรถึงจะได้คืนแน่นอน

        เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า มาตรการบรรเทาผลกระทบจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยการคืนเงินประกันมิเตอร์ไฟฟ้าให้กับประชาชน นั้น จ่ายแน่นอน!!  เพราะว่าล่าสุด สำนักงานคณะกรรมกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) เตรียมวงเงินประมาณ 30,000 ล้านบาท ที่จะใช้สำหรับจ่ายคืนประชาชน  โดยคาดว่า การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จะเริ่มทยอยคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า ได้สิ้นเดือนมีนาคมนี้ 

        ใครจะได้รับเงินประกันมิเตอร์ไฟคืนบ้าง? 

        หลายคนอาจจะยังสงสัย ว่าใครบ้างที่จะได้รับเงินประกันก้อนนี้  ถ้าเจ้าของมิเตอร์ไฟฟ้าเป็นชื่อของยาย ซึ่งเสียไปแล้ว จะต้องทำไงล่ะ? ถ้าเจ้าของมิเตอร์ขายบ้าน แล้วยังเป็นชื่อเจ้าของเดิม ค่าประกันมิเตอร์จะต้องจ่ายให้ใคร อย่างนี้เป็นต้น 

        ตามหลักเกณฑ์แล้ว การไฟฟ้าฯจะเก็บ "ค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้า "หรือ "ค่าประกันไฟฟ้า" นี้  กับเจ้าของบ้านหรือผู้ที่ไปแจ้งขอติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้า หรือถ้าจะว่าง่ายๆตามภาษาชาวบ้านก็คือ คนที่ขอไฟเข้าบ้านนั่นแหละ  ซึ่งเงินก้อนนี้จะต้องจ่ายล่วงหน้าไว้ทุกบ้าน  จะเสียครั้งแรกเมื่อยื่นขอใช้ไฟฟ้า และการไฟฟ้าฯจะคืนให้เมื่อมีการยกเลิกการใช้ไฟฟ้า  อีกทั้งเพื่อกันไว้กรณีผู้ใช้ไฟไม่ยอมจ่ายค่าไฟฟ้า    ทางการไฟฟ้าก็จะยึดเงินประกันการใช้ไฟฟ้านั้นแทน  ซึ่งหากผู้ใช้ไฟฟ้าเป็นเจ้าของบ้านที่อยู่อาศัยจริง  จะได้รับดอกเบี้ยออมทรัพย์ด้วยทุก 5 ปี  โดยคิดในอัตราดอกเบี้ยออมทรัพย์ของธนาคารกรุงไทย 

        แต่หากเจ้าของมิเตอร์เป็นชื่อของญาติพี่น้อง ที่เสียชีวิตไปแล้ว เช่น กรณี บ้านนายข. เป็นมรดกตกทอดมาจากรุ่นตา ก.  ซึ่งชื่อมิเตอร์ไฟฟ้าบ้านนั้น ยังเป็นชื่อของ คุณตา ก.   นาย ข. ก็จะต้องไปยื่นเรื่องขอเปลี่ยนชื่อเจ้าของมิเตอร์ที่การไฟฟ้าฯ  โดยเอาใบเสร็จค่ามิเตอร์เดิมไปขอเปลี่ยนชื่อผู้ใช้ไฟฟ้า จากนั้น จนท.จะให้ไปแจ้งความ ว่าใบเสร็จหาย แล้วจากนั้นค่อยทำเรื่องเปลี่ยน หากต้องการจะรับเงินประกันมิเตอร์คืน ตามมาตรการรัฐ ก็จะใช้หลักฐานตรงนี้แหละ ไปยื่นเรื่องเพื่อขอคืนเป็นเงินของตัวเองได้   

        ส่วนกรณี ที่เจ้าของมิเตอร์ไฟฟ้า ทำใบประกันมิเตอร์ไฟหาย การไฟฟ้าฯได้ผ่อนปรน ให้นำเอาหลักฐาน ใบเสร็จการชำระค่าไฟฟ้าเดือนล่าสุด ไปยืนยัน  กับเจ้าหน้าที่ได้ โดยไม่ต้องเสียเวลาไปแจ้งความให้ยุ่งยาก 

        ส่วนกรณีที่ ขายบ้านแต่ชื่อมิเตอร์ยังเป็นของเรา อันนี้ต้องไปดูตั้งแต่สัญญา ซื้อ-ขาย ต้องระบุให้ชัดเจนว่า สาธารณูปโภคทั้งหมดที่ขายและโอน รวมถึงมิเตอร์ไฟฟ้า มาตรวัดน้ำประปา ด้วยหรือไม่ หากระบุในสัญญา ผู้ขายก็จะต้องทำเรื่องเปลี่ยนชื่อเจ้าของมิเตอร์ หรือตามแต่ผู้ซื้อบ้าน- ขายบ้านจะตกลงร่วมกัน เพราะค่าใช้จ่ายค่าธรรมเนียมการประกันค่าไฟฟ้าก็หลายตังค์อยู่ ซึ่งสุดท้ายแล้วถ้ารัฐจะคืนเงินประกันไฟฟ้า ก็จะโอนคืนให้กับเจ้าของมิเตอร์ไฟนั่นเอง

         จะขอคืนเงินประกันได้อย่างไร?  

        เมื่อหลักเกณฑ์การขอคืนเงินประกันค่าไฟฟ้าออกมา  ผู้ขอใช้ไฟฟ้าสามารถติดต่อขอเงินคืนกับหน่วยงานที่ยื่นเรื่องขอใช้ไฟฟ้า ทั้งการไฟฟ้านครหลวง ที่ให้บริการในพื้นที่กรุงเทพฯ นนทบุรี และสมุทรปราการ  และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ที่ให้บริการทุกจังหวัด (ยกเว้นกรุงเทพฯ นนทบุรี และสมุทรปราการ) โดยการไปกรอกแบบฟอร์มที่การไฟฟ้าพื้นที่ของตัวเอง ซึ่งการไฟฟ้าฯจะเปิดให้ไปลงทะเบียนขอรับเงินคืนได้ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคมนี้ เป็นต้นไป

        โดยหลักฐานที่เจ้าของมิเตอร์ไฟฟ้าต้องเตรียมไป ได้แก่

        - บัตรประจำตัวประชาชน

        - ใบประกันมิเตอร์ไฟฟ้า (ถ้าหาย ให้นำสลิปชำระค่าไฟฟ้าเดือนล่าสุดไปยื่นแทน) 

        - กรณีเจ้าของมิเตอร์ เสียชีวิต ให้ญาตินำใบมรณบัตร ไปแสดง ( หากไม่มีให้ไปแจ้งความ ว่าใบประกันหาย เพื่อยื่นทำเรื่องจ่ายค่าประกันมิเตอร์ไฟใหม่ ก่อนกรอกฟอร์มการขอคืนค่าประกันไฟฟ้าตามขั้นตอน ) 

        ส่วน 3 ขั้นตอนล่างนี้( รูปอินโฟกราฟฟิก) เป็นขั้นตอนคร่าวๆ จากสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในการลงทะเบียนขอรับเงินประกันค่าไฟฟ้าคืน ตั้งแต่ 25 มีนาคมนี้เป็นต้นไป 

          ขณะเดียวกัน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในยุค 4.0   การไฟฟ้าฯก็กำลังอยู่ระหว่างจัดทำระบบการลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน ของการไฟฟ้าฯด้วย  แต่อาจจะต้องอดใจรอกันซักนิด เมื่อระบบเสร็จสมบูรณ์ก็จะเปิดให้ดาวน์โหลดแอปฯกันแน่นอน  ระหว่างนี้ ทางการไฟฟ้าฯแต่ละพื้นที่ก็ได้ทยอยส่ง SMS แจ้งไปยังประชาชนให้ได้ทราบกันบ้างแล้ว เพื่อเตือนให้ประชาชนไปลงทะเบียนหรือกรอกแบบฟอร์มขอรับเงินประกันมิเตอร์คืนได้เมื่อไหร่ และอย่างไร 

        เงื่อนไขการรับเงินประกันมิเตอร์ไฟฟ้าคืน

        ทางสำนักงาน กกพ. ประกาศออกมาแล้วว่า การไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค  จะทยอยคืนให้ครอบคลุมผู้ใช้ไฟฟ้ารายย่อย และผู้ประกอบกิจการขนาดเล็ก ทีมีอยู่ประมาณ  21.5 ล้านรายทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคมนี้ จนกว่าจะครบทั้งหมด 

        ซึ่งในกลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าที่มีคุณสมบัติพร้อม  อย่างเช่น ไม่มีประวัติค้างชำระค่าไฟ มีเอกสารถูกต้อง จะทยอยได้รับก่อนเป็นกลุ่มแรก   ส่วนกลุ่มที่ยังไม่พร้อม  กกพ.ได้ให้การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ไปรวบรวมข้อมูลเพื่อเร่งหาแนวทางคืนเงินค่าประกันฯให้เร็วที่สุด 

CR:Pixabay  

        รับเงินประกันมิเตอร์ไฟฟ้าช่องทางไหน?

        สำหรับ รูปแบบการคืนเงินประกัน อาจจะเป็นรูปแบบ รับเงินสด ที่การไฟฟ้านครหลวง  หรือ รับแบบสแกนคิวอาร์โค้ด เพื่อให้เกิดความรวดเร็วและสะดวกกับผู้มาติดต่อ   แต่รูปแบบ  แนวทางปฏิบัติ  ขั้นตอนการขอรับเงินคืนต่างๆ  รวมทั้ง  การซักซ้อมเตรียมความพร้อม ในการดำเนินการระหว่าง กกพ. และการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย  จะมีการประชุมสรุปหลักเกณฑ์เพื่อประกอบการพิจารณากันอีกที  เพื่อจะได้คืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าได้ทันตามกำหนดเวลาที่วางไว้ 

        "เงินประกันค่าไฟฟ้า" ส่วนนี้ "เป็นของเรามาตั้งแต่ต้น"  ถึงอย่างไรแล้วเราจะต้องได้รับคืน เพียงแต่ว่าเงื่อนไขอาจจะต้องถูกปรับเปลี่ยนไป  ตามสถานการณ์และภาวะของเศรษฐกิจ  ซึ่งตามเป้าหมายแล้วรัฐบาลต้องการให้ประชาชนนำเงินที่ได้นี้ออกมาใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบ  บรรเทาผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น   เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว   ก็เตรียมตัวให้พร้อม การไฟฟ้าฯไฟเขียวเงื่อนไขการรับเงินประกันฯเมื่อไหร่   จะได้ไม่พลาด!!

     

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

- How to…ขอติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้า-ทำไมต้องเสียค่าประกันมิเตอร์

- อ่านก่อน!ทำความเข้าใจ “ค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้า”

เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com 
facebook : TNNThailand
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNThailand
Youtube Official : TNNThailand