ปรากฏการณ์ “แอนโทเนีย” ประกวดจบ ความรู้สึกไม่จบ?
ปรากฏการณ์ “แอนโทเนีย” ประกวดจบ ความรู้สึกไม่จบ?
นักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญการประกวดนางงามสะท้อนมุมมองอารมณ์ผู้คนในสังคมเกี่ยวกับปรากฎการณ์กองเชียร์ “แอนโทเนีย โพซิ้ว” ที่แม้การประกวดจบไปแล้ว แต่ดูเหมือนความรู้สึกของผู้คนยังไม่จบ หลังจากมีกระแสวิพาก์วิจารณ์อย่างต่อเนื่อง โดยมองว่าเป็นเรื่องปกติในทุกเวทีการประกวดนางงาม และเชื่อว่าจะเกิดขึ้นในระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น
ในขณะที่การบ้านการเมืองช่วงนี้ ต่างโฟกัสไปที่เรื่องของการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อขับเคลื่อนประเทศ อีกหนึ่งวาระแห่งชาติที่เป็นกระแสพูดถึงในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะในโลกออนไลน์ รวมทั้ง ในกลุ่มดาราและบุคคลที่มีชื่อเสียง ก็คือการประกวด Miss Universe 2023 ณ ประเทศเอลซัลวาดอร์ โดย “แอนโทเนีย โพซิ้ว” สาวงามจากประเทศไทยคว้ามงกุฎรองชนะเลิศอันดับ 1 มาได้สำเร็จ จะว่าไปแล้วต้องขอบคุณ “แอนโทเนีย” ที่สร้างความสุขให้คนไทย แม้ไม่ได้คว้ามง แต่เธอคว้าใจคนทั้งประเทศ และถือเป็นการคว้าตำแหน่งสูงสุดของไทยในรอบ 35 ปี
TNN ได้พูดคุยกับ คุณนันท์นภัทร เจิมจุติธรรม ผู้เชี่ยวชาญการประกวดและกูรูนางงาม ,ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ณรงค์ อนุรักษ์ อาจารย์ประจำแขนงวิชาการสร้างสรรค์เนื้อหาและงานข่าว วิทยาลัยนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา, และคุณสุภัคธิณี เมืองระรื่น แฟนคลับแอนโทเนีย เพื่อสะท้อนมุมมองต่ออารมณ์ผู้คนในสังคมเกี่ยวกับปรากฎการณ์กองเชียร์ ที่แม้การประกวดจบไปแล้ว แต่ดูเหมือนความรู้สึกของผู้คนทำไมยังไม่จบ
คุณนันท์นภัทร มองว่า การประกวดครั้งนี้กองเชียร์แอนโทเนีย ตั้งความหวังไว้สูงมาก จนเกินไป และเมื่อผิดหวังจึงเกิดความเสียใจ ทำใจไม่ได้ ต้องการหาคนผิด หาข้อบกพร่องของคนที่ชนะ รวมทั้งกรรมการที่ตัดสิน ซึ่ง การประปวดทุกเวที ทุกครั้ง เป็นเรื่องปกติที่จะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เพราะการประกวดนางงาม เป็นการตัดสินด้วยบุคคลและไม่เปิดเผย เราไม่สามารถเห็นคะแนนได้ แต่เราต้องยอมรับในผลตัดสินนั้นๆ เนื่องจากเป็นระเบียบเป็นกติกาของการประกวด ซึ่ง การประกวดนางงามแตกต่างจากการแข่งขันกีฬาในจุดนี้ เพราะการแข่งขันกีฬา มีผลคะแนนออกมาให้ดูอย่างเปิดเผย คนดูยอมรับได้มากกว่า
ส่วนกรณีที่คนวิจารณ์ผลประกวดเป็นกลุ่ม “แพ้ไม่เป็น” หรือไม่นั้น คุณนันท์นภัทรบอกว่า เป็นประเภทยอมรับความจริงไม่ได้มากกว่า คนกลุ่มนี้ย้ำคิดย้ำทำเป็นวงกลมหมุนรอบอยู่อย่างนั้น ดังนั้น จึงต้องใช้เวลาในการคิดและพิจารณา เชื่อว่า กระแสการวิจารณ์ของผู้คนในสังคมจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆ แต่ยอมรับว่าในอดีตที่ผ่านมา การประกวดนางงามแต่ละเวทีก็มีการวิจารณ์เกิดขึ้น แต่ในปัจจุบันมีโซเชียลมีเดีย ที่สามารถกระพือความคิดเห็น หรือ คอมเมนท์ต่างๆ ต่อจนทำให้เกิดแรงกระเพื่อมขึ้น เป็นอิทธิพลของสื่อใหม่ที่ทำให้เกิดกระแสในสังคมได้อย่างรวดเร็ว ส่วนตัวอยู่ในวงการนางงามมานาน การพิจารณาผลการประกวดต่าง ต้องรอบคอบ รอบด้าน ดูเขาดูเรา และยอมรับรับผลการตัดสิน สำหรับ “แอนโทเนีย โพซิ้ว” และตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับ 1 Miss Universe 2023 ถือว่าทำได้ดีที่สุด จากนี้มาร่วมส่งแรงใจเชียร์แอนโทเนีย กับบทบาทและหน้าที่ ที่จะมาช่วยทำสิ่งดีๆให้กับประเทศไทยกันต่อไปดีกว่า
เช่นเดียวกับ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ณรงค์ มองว่า การสะท้อนอารมณ์ของคนในสังคมต่อการประกวดครั้งนี้ เป็นการใช้อารมณ์มาก่อนเหตุผล อารมณ์ของความเป็นพวกเดียวกัน ฝ่ายเดียวกันต้องถูกก่อนเสมอ เพราะแอนโทเนียไปในนามตัวแทนประเทศไทย เพราะฉะนั้น จึงมองว่าตัวแทนจากชาติเดียวกับตัวเองเหมาะสมกว่า มองไม่เห็นจุดด้อยของตัวแทนเรา แต่กลับมองเห็นจุดด้อยของอีกคน จึงทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ไปต่าง ๆ นานา แม้เราจะเชียร์แอนโทเนีย แต่เราไม่ใช่กรรมการ กรรมการชอบแบบคนที่ชนะ ถือว่าเป็นรสนิยมของกรรมการ และรสนิยมของกรรมการก็ตรงกันหลายคนเขาจึงชนะ กรรมการตัดสินแล้วถือเป็นที่สิ้นสุด ปีหน้าว่ากันใหม่ ดังนั้น เราต้องยอมรับในกติกา เชื่อว่ากระแสดรามากันอยู่นี้ อีกไม่นานก็ลดลง และเราสามารถสนับสนุนแอนโทเนียได้แม้ว่าจะไม่ได้มงกุฎกลับมา น้องและทีมสร้างผลงานได้ดีเป็นที่ประจักษ์ ไม่ชนะจักรวาลแต่ได้ใจคนไทยทั้งประเทศ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ณรงค์ แนะนำว่าความรู้สึกชอบของกลุ่มคนที่มีต่อนางงาม ไม่ค่อยแตกต่างจากการชื่นชอบ หรือ เชียร์นักกีฬา ดารา หรือ นักร้อง อย่างเช่น ตอนประกวดในประเทศไทยมีแบ่งเป็นด้อม เป็นบ้าน เหมือน ดารา นักร้อง พอไปแข่งต่างประเทศด้อมมันใหญ่ขึ้น เพราะรวมจากทุกด้อมกลายเป็นทีมไทยแลนด์ หรือ ด้อมไทยแลนด์ พลังจึงเยอะไม่ว่าจะเป็นบวกหรือลบมันก็เยอะไปหมด แต่ก็ไม่ถึงกับว่าแพ้ไม่เป็น ทุกคนแพ้เป็น แต่อาจต้องใช้เวลาทำใจและยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น อารมณ์กำลังพุ่งเพราะกองเชียร์เห็นใจคนที่ตนรัก และมองต่างมุมกับกรรมการ จึงอาจยอมรับความพ่ายแพ้ยาก
ขณะเดียวกัน การวิพากษณ์วิจารณ์บางอย่างที่เกินพอดี หรือปล่อยพลังลบ ก็ก่อให้เกิดผลเสียต่อตนเองและส่วนรวม ต่อตนเองคือการวีน เหวี่ยง ทำให้อารมณ์ขุ่นมัว เสียการเสียงาน เสียสุขภาพจิต ส่งผลเสียต่อคนอื่น หรือส่วนรวม คืออาจสร้างความไม่ชอบ ไม่ประทับใจกับต่างชาติ กระทบกับภาพลักษณ์ประเทศผู้ที่เชียร์ผู้ชนะจะมองว่าคนไทยนิสัยไม่ดี เหมือนกับที่แฟนนางงามไทยเป็นไม้เบื่อไม้เมากับฟิลิปปินส์มาอย่างยาวนาน ดังนั้น อยากให้ทุกคนใจเย็น ๆ และปีหน้ามาว่ากันใหม่
ด้าน แฟนคลับแอนโทเนีย อย่าง คุณสุภัคธิณี มองปรากฏการณ์อารมณ์ผู้คนจากการประกวดครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นว่า แม้ในปัจจุบัน คนในสังคมจะใช้ชีวิตแบบต่างคนต่างอยู่มากขึ้น แต่สุดท้ายแล้วคนในสังคมไทยยังคงมีความสนใจ ชื่นชม สนับสนุน ความเป็นตัวแทนในนามประเทศไทย และพร้อมผลักดัน ให้ตัวแทนประเทศเรา ไปถึงจุดสูงสุดของการแข่งขัน เฉกเช่นการประกวดนางงาม สาวงามตัวแทนในนามสายสะพาย Thailand ก็ยังคงได้รับการสนับสนุนอย่างล้นหลามเสมอมา และตัวแทนของไทยในครั้งนี้ เป็นนางงามที่ครบเครื่องในรอบหลายปีที่เรามี
คุณสุภัคธิณี บอกว่า ความรู้สึกชื่นชอบ หรือ เชียร์ ของคนกลุ่มหนึ่งที่มีต่อนางงามไม่แตกต่างจากการเชียร์นักกีฬา หรือ ศิลปิน ดารา นักร้อง ที่เราชื่นชอบ เพราะเราชื่นชอบผลงานของเค้า อยากให้เข้าไปยืนในจุดที่สูงสุดของการแข่งขัน การเชียร์นางงามก็เช่นเดียวกัน เพราะเค้ามีบุคลิก มีอุปนิสัย มีอะไรหลายอย่างที่เรามอง เราติดตามแล้วถูกจริต มีความรู้สึกว่า ใช่ อยากติดตาม อยากเชียร์ แล้วทำให้เรามีความสุขในตรงนั้น อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวไม่ได้วิจารณ์คนชนะ เพราะดูนางงาม มาตั้งแต่ป.1 (ปี2530) ติดตามมาตลอด จนปัจจุบัน
หากคนที่ดูนางงามเป็นและเข้าใจ จะยอมรับผลการตัดสิน หลายครั้งอาจไม่ถูกใจเรา แต่ในเมื่อมงกุฎมีอันเดียว และกรรมการเลือกแล้ว เมื่อผลการตัดสินออกมาแล้ว เราต้องยอมรับ และพร้อมสนับสนุนแอนโทเนีย ในเส้นทางอื่นๆ ต่อไป การได้พาสายสะพาย Thailand ไปเดินบนเวทีจักรวาล และการได้เข้าถึงรอบจับมือ มันคือ ที่สุดแล้วในหน้าประวัติศาสตร์นางงาม
แฟนคลับแอนโทเนีย ฝากทิ้งท้ายไว้ด้วยว่า เราต้องเตือนตัวเองว่าทุกการแข่งขันย่อมมีคนแพ้ชนะ เมื่อคนที่เราเชียร์ไม่ได้ไปถึงจุดที่เราหวังเราย่อมเสียใจ แต่พยายามไม่หมกมุ่น move onให้ไว รีบพาตัวเองออกมาจากตรงนั้น และส่งพลังบวก ส่งกำลังใจให้แอนโทเนีย ให้รู้ว่าการที่พาสายสะพาย Thailand เข้าไปถึงรอบจับมือได้นั้น มันยิ่งใหญ่และมีคุณค่าในใจแฟนนางงามตัวจริงมากมายมหาศาล
“แอนโทเนีย โพซิ้ว” จะเดินทางกลับไทยในสัปดาห์หน้า ท่ามกลาง แฟนๆ นางงามที่ต่างเตรียมตัวไปต้อนรับและแสดงความยินดี ซึ่ง จากนี้เธอไม่ได้เป็นเพียงนางงามในตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับ 1 Miss Universe 2023 เท่านั้น แต่ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจากเวทีประกวด ที่ได้เห็นกำลังใจและแรงสนับสนุนของคนไทยส่งถึงเธอ เชื่อว่าเราจะได้เห็นบทบาทและหน้าที่ของแอนโทเนีย ในการสร้างผลงานที่น่าชื่นชมให้กับประเทศไทยอย่างแน่นอน
เรียบเรียงโดย : กาญธิกา มาเรียน อังคณิต