ย้อนปฏิบัติการสำคัญ "กองทัพอากาศ" กับภารกิจ "พาคนไทยกลับมาตุภูมิ"

จากเหตุการณ์โจมตีครั้งใหญ่ที่สุดของกลุ่มฮามาสต่ออิสราเอลที่ทั่วโลกจับตา ส่งผลให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ทั้งในฝั่งอิสราเอลและปาเลสไตน์เสียชีวิตแล้วเกือบ 1,000 ราย ขณะที่ได้รับรายงานว่ามีคนไทยเสียชีวิตทั้งหมด 12 ราย โดยได้รับการยืนยันจากทางการอิสราเอลแล้ว 2 ราย ส่วนอีก 10 ราย ได้รับทราบข้อมูลจากนายจ้าง โดยยังไม่มีชื่อและต้องรอการตรวจสอบจากทางการอิสราเอล นอกจากนี้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 8 ราย โดยบาดเจ็บสาหัส 2 ราย และถูกลักพาตัว 11 ราย

ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ต.ค.66 พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผบ.ทอ. เป็นประธานการประชุม ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามสถานการณ์และเตรียมความพร้อมของกำลังพล อากาศยาน และหารือการปฏิบัติตามแผนการปฏิบัติการช่วยเหลือคนไทยในอิสราเอล โดยพล.อ.อ.พันธ์ภักดี ยืนยันว่า พร้อมส่งเครื่องบิน Airbus 340 จำนวน 1 เครื่อง และ C-130 จำนวน 5 เครื่อง ไปรับคนไทยในอิสราเอล เมื่อน่านฟ้าเปิด เพื่อนำกลับสู่มาตุภูมิ

ย้อนภารกิจกองทัพอากาศ "พาคนไทยกลับมาตุภูมิ"   

จากเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ทั่วโลกที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะด้านความรุนแรงในต่างแดน สถานการณ์สู้รบ หรือความรุนแรงของโรคระบาด จะเห็นว่าภารกิจชีวิต เป้าหมายเพื่อ "สวัสดิภาพ” ของคนไทย ภายใต้กองทัพอากาศยังคงปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง วันนี้ TNN online ย้อนเปิดเหตุการณ์ภารกิจสำคัญของกองทัพอากาศ ที่เคยพาคนไทยกลับมาตุภูมิ

1. 25 พฤษภาคม 2563 จัดส่งคนไทยในอิตาลีเดินทางกลับประเทศไทย

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโรม ได้ดำเนินการจัดส่งคนไทยในอิตาลีเดินทางกลับประเทศไทยกับเที่ยวบินของสายการบินไทย เส้นทางโรม-กรุงเทพฯ รวมทั้งหมด 37 คน โดยเหตุผลในการร้องกลับประเทศในครั้งนั้น คือการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าว อิตาลีคือศูนย์กลางการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในยุโรป และมียอดผู้เสียชีวิตพุ่งสูงต่อเนื่อง

2. 16 กุมภาพันธ์ 2566 นำคนไทยผู้ประสบภัย จากเหตุแผ่นดินไหวในสาธารณรัฐตุรกีกลับไทย

เที่ยวบิน RTAF 230 ของกองทัพอากาศ นำคนไทยผู้ประสบภัยจากเหตุแผ่นดินไหวในสาธารณรัฐตุรกี กลับสู่มาตุภูมิโดยสวัสดิภาพ โดยเที่ยวบินดังกล่าวมีคนไทยเดินทางกลับมา จำนวน 36 คน (เป็นชาย 5 คน หญิง 24 คน เด็กชาย 4 คน และเด็กหญิง 3 คน) และผู้เสียชีวิต จำนวน 1 ราย โดยเหตุการณ์ในครั้งนี้ นับเป็นเหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่เกิดขึ้นในตุรกี

3. 25 เมษายน 2566 รับคนไทย 212 คน ในซูดานกลับประเทศ 

พลอากาศเอก อลงกรณ์ วัณณรถ ผู้บัญชาการทหารอากาศ และ พลอากาศเอก ณรงค์ อินทชาติ เสนาธิการทหารอากาศ พร้อมด้วยผู้แทนกองบัญชาการกองทัพไทย และผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ ร่วมรับฟังการบรรยายสรุปแผนการบิน และแผนการปฏิบัติ ในการส่งเครื่องบินของกองทัพอากาศ ได้แก่ เครื่องบิน Airbus A340-500 จำนวน 1 เครื่อง และเครื่องบิน C-130 จำนวน 2 เครื่อง เดินทางไปยังท่าอากาศยานนานาชาติ คิง อับดุลาซิซ เมืองเจดดาห์ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย เพื่ออพยพคนไทยที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์สู้รบในสาธารณรัฐซูดาน กลับประเทศ ภายใต้การประสานงานของกระทรวงการต่างประเทศ ที่ได้ทำการอพยพคนไทยจากสาธารณรัฐซูดาน โดยทางบกและทางเรือไปยังจุดนัดหมาย เพื่อรอเครื่องบินของกองทัพอากาศเดินทางไปรับ ซึ่งเป็นคนไทย 212 คน และคู่สมรสชาวต่างชาติ 3 คน 

4. 1 พฤษภาคม 2566 "นภารักไทย" ภารกิจพาคนไทยกลับบ้านเสร็จสิ้น

"นภารักไทย" ภารกิจพาคนไทยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความรุนแรงในสาธารณรัฐซูดานเดินทางกลับไทย โดยกองทัพอากาศได้ใช้อากาศยานแบบ Airbus A340-500 จำนวน 1 เครื่อง และ C-130 จำนวน 2 เครื่อง ทำการบินรวม 8 เที่ยวบิน (รวมทั้งเที่ยวไปและเที่ยวกลับ) รับคนไทยที่มีความประสงค์เดินทางกลับประเทศทั้งสิ้น 218 คน โดยแบ่งเป็น ชุดแรก 78 คน ชุดที่สอง 135 คน และชุดสุดท้าย 5 คน พร้อมทั้งร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดูแลและส่งทุกคนกลับบ้านเสร็จสิ้น

ด้วยความปลอดภัย

เครื่องบิน ซี-130 สัญลักษณ์แห่งความหวัง

“เครื่องบินซี-130”  หากจะกล่าวว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวัง ก็คงไม่ผิดนัก เพราะทุกครั้งที่มีภารกิจพาคนไทยกลับบ้าน ก็จะเห็นชื่อของ ซี-130 นำทัพเสมอ โดย เครื่องบินซี-130 เป็นเครื่องบินลำเลียงใช้เครื่องยนต์เทอร์โบใบพัด 4 เครื่องยนต์ ที่ใช้งานอย่างแพร่หลายและยาวนานมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2497 โดยมีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง 

จากข้อมูลวิกิพีเดีย ระบุว่า ในประเทศไทย ซี-130 เป็นเครื่องบินของกองทัพอากาศเข้าประจำการในปี พ.ศ. 2523 ให้บริการสำหรับขนส่งข้าราชการของหน่วยงานรัฐ ที่ต้องไปราชการหรือปฏิบัติภารกิจตามหัวเมืองต่าง ๆ และภารกิจอื่นอีกมากมาย เช่น ภารกิจสำนักพระราชวัง ลงตรวจพื้นที่ที่ได้รับภัยพิบัติธรรมชาติ รับ-ส่งคณะ ครม. สับเปลี่ยนกำลังพล ลำเลียงผู้เสียชีวิต ฯลฯ มีชื่อเรียกอย่างติดตลกในหมู่นักข่าวว่า "หมูหิน" เนื่องจากรูปร่างในส่วนหัวเครื่องที่มีส่วนจมูกยื่นออกมาสีดำคล้ายหมู ส่วนลำตัวที่ดูอ้วนๆ และด้วยการที่มันสามารถปฏิบัติภารกิจหนักๆ ต่างๆ ได้อย่างมากมายเกินความคุ้มค่า

เครื่องบินซี-130 กลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอิสราเอล โดยเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เปิดเผยว่า กองทัพอากาศ ได้จัดเตรียมพร้อมเครื่องบินโดยสารพิสัยไกลแบบ Airbus A340 และเครื่องบินลำเลียงแบบ C-130 เพื่ออพยพคนไทยออกจากประเทศอิสราเอล หลังกลุ่มฮามาสบุกโจมตี 

“เครื่องบิน ซี-130” จึงเป็นเครื่องบินนำทัพ ที่ยังคงเป็นส่วนสำคัญในการพาคนไทยเดินทางกลับประเทศจนถึงทุกวันนี้ ขณะที่ต้องจับตาการขึ้นบินของ C-130 จำนวน 5 เครื่อง ที่ทางผู้บัญชาการทหารอากาศออกมาระบุว่า พร้อมอพยพคนไทยออกจากประเทศอิสราเอลทันทีเมื่อน่านฟ้าเปิด หลังกลุ่มฮามาสบุกโจมตี

อ้างอิง เรียบเรียงจาก :

กองทัพอากาศ 

wikipedia  - ซี-130 เฮอร์คิวลิส - วิกิพีเดีย (wikipedia.org) 

ภาพ : กองทัพอากาศ