TNN online ลุยหุ้นตัวไหนดี ! ช่วง "Window Dressing"

TNN ONLINE

TNN Exclusive

ลุยหุ้นตัวไหนดี ! ช่วง "Window Dressing"

ลุยหุ้นตัวไหนดี ! ช่วง Window Dressing

Window Dressing มีความหมายอย่างไรจะช่วยหนุนดัชนีหุ้นไทยไปได้มากน้อยแค่ไหน หุ้นตัวไหนที่น่าจะลงทุนช่วงนี้ตามไปดูกันเลย

ในช่วงใกล้สิ้นไตรมาสแบบนี้ นักลงทุนมือใหม่อาจจะได้ยินคำว่า "Window Dressing" กันบ่อยครั้ง ทั้งจากข่าวคราวในวงการตลาดหุ้น และจากบทวิเคราะห์การลงทุน  ในฐานะปรากฏการณ์ที่จะช่วยผลักดันให้ราคาหุ้นบริษัทต่างๆ โดยเฉพาะหุ้นที่อยู่ในความนิยมของนักลงทุนสถาบัน ปรับตัวขึ้น เพื่อทำให้ตัวเลขผลตอบแทนในสิ้นงวดบัญชีดูดีขึ้น


ซึ่งการทำ Window Dressing ปกติจะทำก่อนปิดสิ้นงวดแต่ละไตรมาส เดือนมี.ค.มิ.ย. ก.ย. และธ.ค.


ส่วนหุ้นที่ถูกเลือกนั้น 

-  เป็นหุ้นที่ Outperform 

-  หุ้นที่ผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตโดดเด่น 

-  หุ้นมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่ 

-  หุ้นที่ Current P/E Ratio ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง  

- หุ้นที่นักลงทุนสถาบันถือครองอยู่มากส่วนใหญ่อยู่ SET 50


 สำหรับการเกิด Window Dressing มากน้อยแค่ไหนนั้น กูรูตลาดทุนอย่าง "จารุชาติ บูชาชาติ" นักกลยุทธ์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ให้ความเห็นว่า  เกิดจาก 3 ปัจจัยหลัก คือ 1. กองทุนในประเทศเป็นฝ่ายขายสุทธิปีนี้ โดย YTDยังขายอยู่ 9.4 หมื่นล้านบาท ต้นทุนเฉลี่ยในการขายอยู่ที่ระดับ SET50 Index1,010 จุด อิงระดับปัจจุบันที่ 943 จดุ มีส่วนต่างราว 7% ถือเป็นระดับที่่มีโอกาส ShortCovering ในระยะสั้น 


2. ปัจจัยทั้งในและต่างประเทศ  ในเชิงของตัวเลขเศรษฐกิจค่อนข้างผ่อนคลายเมื่อเทียบกับช่วง 2 สัปดาห์ก่อนหน้า 3. แรงเก็งกำไรผลประกอบการในกลุ่ม Domestic play โดยเฉพาะกลุ่มบริการที่จะเห็นการฟื้น ตัวแบบYoY ชัดเจนตั้งแต่ 2Q65


ลุยหุ้นตัวไหนดี ! ช่วง Window Dressing


สำหรับหุ้นที่มีโอกาสถูกทำ Window Dressing คือหุ้นใหญ่ที่ Laggard อิงดัชนี SET50 Index ที่ติดลบ -7.2% QTD  ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดในรอบ 7 ไตรมาส การทำ Window Dressing รอบนี้แม้จะไม่สามารถทำให้ Performance สร้างความประทับใจให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้ 


แต่อย่างน้อย เราคาดว่าจะเห็นแรงซื้อคืนในหุ้นขนาดใหญ่ที่ปรับตัวลงแรงเกินไป และมีแนวโน้มฟื้นตัวในช่วงที่เหลือของปี เพื่อให้การแสดง Performance ไม่ต่างจากค่าเฉลี่ยของดัชนีอย่างมีนัยสำคัญ โดยถ้าอิงเกณฑ์ 1.ห้นุ Market Cap. ใหญ่เกิน 9 หมื่นล้านบาท 2. ราคาหุ้น ปรับตัวลงมากกว่า SET50Index 


3. แนวโน้มผลประกอบการฟื้นตัวในช่วงที่เหลือของปี 4. Valuation ไม่แพงและเน้นที่  Domestic play เป็นหลักหุ้นที่เราคาดว่าจะถูกทำ Window Dressing รอบนี้คือ  ADVANC (FV@B252) , CPALL(FV@B73)KBANK(FV@B180)EA(FV@B115)SCGP(FV@B69)CRC(FV@B40) , OSP(FV@B39) 


 แม้หุ้นบางตัวในตลาดหลักทรัพย์อาจปรับตัวสูงขึ้นจากการทำWindow Dressing เพราะมีปริมาณซื้อจากนักลงทุนสถาบันเข้ามามาก โดยเฉพาะหุ้นที่ Outperform มีแนวโน้มราคาหรือผลประกอบการที่ดีอยู่แล้ว  


สิ่งที่นักลงทุนรายย่อยต้องไม่ลืม ก็คือปัจจัยดังกล่าวเป็นเพียงปัจจัยชั่วคราว เมื่อพ้นสิ้นงวดไตรมาสไป ราคาหุ้นที่เคยถูกดันขึ้นไปก็จะค่อยๆ ปรับตัวเข้าสู่พื้นฐานที่แท้จริง หากเข้าเก็งกำไรแต่เพลินไปกับตัวเลขสวยหรูโดยลืมถอยในจังหวะที่ควรถอย หลังสิ้นงวดบัญชีผ่านไป อาจจะเหลือไว้แต่ตัวเลขขาดทุนในพอร์ตของเราก็เป็นได้....


ที่มา    set, จารุชาติ บูชาชาติ 

ภาพประกอบ  ดีพร้อม


ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง