'รุตดี้ ณวัฒน์' วิเคราะห์สาเหตุการท่าเรือดึง 'โค้ชโอ่ง' คุมทัพลุยซีซั่นใหม่

วันนี้ (18 ก.ค. 64) "รุตดี้" ณวัฒน์ ไชยองค์การ กูรูและผู้ดำเนินรายการฟุตบอลไทยทางวิทยุ FM 99 แสดงมุมมองส่วนตัว หลังจากที่ การท่าเรือ เอฟซี ทีมยักษ์ใหญ่แห่งไทยลีก 1 มีการเปลี่ยนแปลงหัวหน้าผู้ฝึกสอนอีกครั้ง ด้วยการดึง ดุสิต เฉลิมแสน กุนซือผู้พาบีจี ปทุมฯ คว้าแชมป์ไทยลีก เมื่อซีซั่นก่อน เข้ามาทำทีมแทนที่ของ สระราวุฒิ ตรีพันธ์ หลังจากที่ผลงานในลีกช่วงปลายฤดูกาล ต่อมาจนถึง เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2021 ไม่น่าประทับใจเท่าที่ควร

โค้ชโอ่ง มีคิวเข้ามาคุมลูกทีม สิงห์เจ้าท่า ฝึกซ้อมในช่วงเย็นวันนี้ แม้จะยังไม่มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการก็ตาม โดยหลายๆฝ่ายได้มีการพูดถึงประเด็นนี้เป็นจำนวนมาก กับการโยกย้ายของโค้ชวัย 51 ปี ที่เพิ่งเปิดตัวคุม ราชประชา เอฟซี เมื่อช่วงสองเดือนก่อนหน้านี้ หลังหลีกทางให้ ออเรลิโอ วิดมาร์ เข้ามาคุม บีจี ลุย เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ล่าสุดทีมข่าว TNNSPORTS ติดต่อไปสอบถามมุมมองของ "รุตดี้" กูรูฟุตบอลไทยชื่อดังอีกคน กับเรื่องที่เกิดขึ้น รวมทั้งมุมมองส่วนตัวต่อการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ของทีมดังย่านคลองเตย

"อันดับแรกทุกคนรู้ว่า การท่าเรือ เอฟซี เป็นทีมที่มีขนาดใหญ่มาก มีแต่ผู้เล่นชั้นนำโดยเฉพาะตัวไทย ต้อมยอมรับว่าทรัพยากรนักเตะของพวกเขามีดีพอจะลุ้นแชมป์เลยด้วยซ้ำ แต่การที่ถูก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แซงเข้าป้ายแล้วจบด้วยอันดับ 3 ของศึกไทยลีกเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ส่วนตัวเชื่อว่าผู้บริหารมองการทำงานของ โค้ชอู๊ด ว่าสอบตกอย่างสิ้นเชิง จนมาถึง ACL 2021 ตัวโค้ชอู๊ดเอง ก็ไม่ได้มีประสบการณ์ในการคุมทีมในระดับนี้มาก่อน ทำให้ผลงานไม่น่าจะถูกใจแฟนบอล รวมถึงผู้บริหารของทีมนัก ทั้งที่แข่งในเมืองไทย จึงส่งผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น"

"ส่วนตัวผมเชื่อว่า ฤดูกาลที่กำลังจะเริ่ม การท่าเรือ ต้องการจะก้าวขึ้นไปเป็นทีมที่มีลุ้นคว้าแชมป์ไทยลีกอย่างเต็มตัว รวมถึงประสบความสำเร็จในรายการฟุตบอลถ้วยรายการใดรายการหนึ่งให้ได้ จึงต้องการเฮดโค้ชที่มีศักยภาพดีกว่าเดิมเข้ามา ถามว่าทำไมต้องเป็น "โค้ชโอ่ง" อย่างแรกต้องยอมรับว่าผู้บริหารของการท่าเรือ ค่อนข้างจะแคร์กับการเสียงเรียกร้อง และความต้องการของแฟนบอล ที่ต้องการจะเห็นทีมประสบความสำเร็จ เขาจึงมองหาโค้ชที่มีคุณสมบัติตรงนี้ ซึ่งมันไม่ต้องหาที่ไหนไกลเลย จากการที่โค้ชคนนี้เพิ่งพาบีจีคว้าแชมป์ลีกแรกในประวัติศาสตร์"

"นอกจากนี้ โค้ชโอ่ง ก็เคยทำ การท่าเรือ เอฟซี (สิงห์ท่าเรือ เดิม) ขึ้นชั้นกลับมาอยู่ในไทยลีกได้ด้วย เมื่อปี 2013 ก็ถือเป็นสเปคที่ผู้บริหารการท่าเรือ ต้องการอยู่แล้ว ส่วนเรื่องการดึงมาจาก บีจี ไม่ว่าจะยืมหรือลาขาดมาจากฝั่งนู้น ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เนื่องด้วยความสัมพันธ์ ของ “มาดามแป้ง” กับ คุณปวิณ ภิรมย์ภักดี มีความสนิทสนมมและนับถือกันเป็นพี่น้องมาตลอดอยู่แล้ว ผมเชื่อนะว่า ศักยภาพของ โค้ชโอ่ง ณ ปัจจุบัน แกดีพอเกินกว่าจะทำทีมเพียงแค่ในระดับไทยลีก 2 ความสามารถของแกต้องทำทีมในระดับไทยลีกเท่านั้น"

"แม้ว่า โค้ชโอ่งจะไม่ใช่โค้ชที่เก่งระดับโลก แต่เจ้าตัวมีคุณสมบัติสำคัญ คือการคุมนักเตะระดับชั้นนำให้รวมเป็นน้ำหนึ่งน้ำใจเดียวกันได้ ยกตัวอย่างปีก่อนที่ บีจี คว้าแชมป์ได้ พวกเขามีนักเตะอีโก้สูงหลายคน ทีมชาติก็เยอะ รวมถึงมีนักเตะต่างชาติที่ประสบความสำเร็จมากมายในลีกอย่าง ตูเนซ , วิคเตอร์ คาร์โดโซ่ , ดิโอโก้ แต่ โค้ชโอ่ง สามารถ ซื้อใจกลุ่มนักเตะพวกนี้ จนสามารถพาทีมประสบความสำเร็จ เช่นเดียวกับ การท่าเรือ ที่เต็มไปด้วยซูเปอร์สตาร์มากมายในขณะนี้ โค้ชโอ่งก็น่าจะมีวิธีรับมือ และทำงานกับนักเตะเหล่านี้ได้เช่นกัน" ณวัฒน์ ไชยองค์การ ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว TNNSPORTS