ประเด็นร้อนบอลไทย : ส่องการแต่งตัว 4 ทีมลุ้นแชมป์ไทยลีก
ประเด็นร้อนบอลไทยฉบับนี้ พาไปส่องการเสริมทัพของ และ โอกาสของ 4 ทีมเต็ง ที่มีลุ้นแชมป์ไทยลีกมากที่สุดในฤดูกาล 2020
สวัสดีครับ!!! แฟนๆที่รักทุกท่าน วันนี้ ประเด็นร้อนบอลไทย กลับมาอีกครั้ง เราพบกันเป็นฉบับที่ 26 แล้วนะครับ ก็คงจะได้กลับเข้ามาคุยกันถึงประเด็นของไทยลีกกันสักทีนะครับ หลังไปชำแหละทีมชาติไทย ยู 23 กันมาเต็มๆในสามครั้งก่อนหน้านี้
วันนี้ผมจะมาส่องการแต่งตัว หรือที่เรียกกันว่า เสริมทัพ ของ 4 ทีมลุ้นแชมป์ไทยลีกปีนี้ ว่าเป็นอย่างไรบ้าง และวิเคราะห์กับฐานข้อมูลที่มีเพียงเท่านี้ ว่าทีมใดมีโอกาสเข้าป้ายคว้าแชมป์มากที่สุด ว่าแล้ว...ไปดูกันเลยครับ
สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด
ต้องบอกเลยว่าโครงสร้างทีม เกือบจะเหมือนเดิมทั้งหมดจากการเป็นแชมป์เมื่อซีซั่นที่แล้ว โดยเฉพาะผู้เล่นต่างชาติ ที่เปลี่ยนแค่คนเดียว จากการที่ วิลเลี่ยม เอ็นริเก้ ปีกตัวจี๊ดย้ายออกไปอยู่กับ พีที ประจวบ แต่ทีมก็ได้ มาอิลซอน ที่เห็นฟอร์มกันไปบ้างแล้วใน ลีโอ พรีซีซั่น คัพ เข้ามาแทนที่ ส่วนที่เหลือ บิลล์ โรซิมาร์ , บรินเนอร์ และ อี ยองแร (เอเชีย) ยังอยู่กันครบ โดยที่ไม่มีโควตา อาเซียน แม้แต่คนเดียว ส่วนตัวไทย ที่ย้ายเข้ามาแล้วน่าสนใจ ก็น่าจะมีเพียง ศนุกรานต์ ถิ่นจอม รายเดียวเท่านั้น แต่ทีมก็สามารถเก็บ ศิวกรณ์ เตียตระกูล , เอกนิษฐ์ ปัญญา และแข้งทีมชาติไทยไว้ได้ทั้งหมด ขณะที่แม่ทัพปีนี้ทีมตั้ง มาซามิ ทากิ กุนซือชาวญี่ปุ่นเข้ามาแทนที่ ไอล์ตัน ซึ่งหากดูจากสถานการณ์เวลานี้โอกาสที่ "กว่างโซ้ง" จะป้องกันแชมป์ได้ ต้องบอกเลยว่ายากมากเหมือนกันเนื่องจากมีทั้งภารกิจบอลถ้วยเอเชีย ที่ต้องระวัง ซึ่งหากหลุดในช่วงนั้น ปีนี้พวกเขาอาจจะต้องไปมองบอลถ้วยแทน
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
แน่นอนว่าการเสียแชมป์ในนาทีสุดท้ายเมื่อซีซั่นที่แล้ว เป็นอะไรที่เสียหน้ามากๆสำหรับทัพ "ปราสาทสายฟ้า" และ คุณเนวิน ชิดชอบ ซึ่งปีนี้ พวกเขาประกาศตัวมาล่าแชมป์คืนอย่างชนิดที่เรียกว่ายอมกันไม่ได้เลยทีเดียว การเสริมทีมของพวกเขาอาจไม่ได้ดูว้าวเท่าไหร่ในปีนี้ เนื่องจากดึงแข้งต่างชาติเข้ามา 3 คน ประกอบด้วย ริคาร์โด้ บูเอโน่ , แบร์นาโด้ คูเอสต้า และ จอง แจยอง (เอเชีย) ส่วนผู้เล่นไทย นำเข้ามาแค่คนเดียว และเป็นตัวที่ยังไม่ได้มีชื่อเสียงอะไรด้วย นั่นหมายความว่า เด็กๆที่ทีมปั้นมาเอง น่าจะมีโอกาสได้ขึ้นมาวาดลวดลาย ในซีซั่นนี้หลายคน ทั้ง อิร์ฟาน ดอเลาะ , วัชรกร มโนรมย์ หรือ กฤษณะ ดาวกระจาย เพื่อมาผนึกกำลังกับ สุภโชค สารชาติ , ศุภณัฐฏ์ เหมือนตา และ ศุภชัย ใจเด็ด สามแข้งดาวรุ่งกำลังสำคัญในแผงเกมรุก แต่สิ่งที่แปลกตาไปก็คือ ปีนี้พวกเขาจะไม่มี สุเชาว์ นุชนุ่ม เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ทีมก่อตั้งสโมสรมา ในแง่ของฟอร์มการเล่นอาจไม่กระทบ แต่เรื่องการปลุกเร้า การเป็นน้ำหนึ่งอันเดียว ต้องมาตามดูกันอีกทีว่าจะกระทบหรือไม่ เมื่อทีมขาดกัปตันที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขมานาน ซึ่งหากมองแค่ตรงนี้ เชื่อว่าขุมกำลังแค่นี้ยังไม่น่าจะพอ หากทีมต้องการลุ้นแชมป์ไทยลีกและถ้วยอื่นๆ เนื่องจากมันจะไปเข้าอีหรอบเดิมเหมือนทุกปี เวลานักเตะเริ่มล้าหรือเจ็บ คือ บุรีรัมย์ เป็นทีมที่ Squad เล็กเกินไปนั่นเอง
การท่าเรือ เอฟซี
ทีมของ "มาดามแป้ง" ทุ่มสุดตัวกับการประกาศขึ้นมาเป็นผู้ท้าชิงล่าแชมป์ไทยลีกในปีนี้ ยิ่งผิดหวังจากการตกรอบ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก เพลย์ออฟ ด้วยการแพ้ทีมจากฟิลิปปินส์ ทำให้เชื่อเลยว่า "สิงห์เจ้าท่า" จะโคตรเน้นอย่างแน่นอน ตัวผู้เล่นที่ทีมนำเข้ามา หากดูชื่อแล้ว คงต้องร้องว้าวแน่นอน เพราะมีทั้ง เฮแบร์ตี้ เฟร์นานเดซ , อดิศักดิ์ ไกรษร , กานต์นรินทร์ ถาวรศักดิ์ , ฉัตรมงคล ทองคีรี , จตุรพัช สัทธรรม , ธนาสิทธิ์ ศิริผลา ฯลฯ เป็นเครื่องยืนยันชัดเจนว่าพวกเขาเอาจริง ส่วนตัวต่างชาติที่ยังเก็บไว้ ก็มีทั้ง เซอร์คิโอ ซัวเรซ , ดาบิด โรเชล่า และ โก ซุลกิ ส่วนตัวที่ปล่อยออกไปที่น่าสนใจก็จะมี นูรูล ศรียานเก็ม และ สุมัญญา ปุริสาย ต้องบอกเลยว่าหากพวกเขาออกตัวได้ดี ไม่พลาดเยอะแบบปีที่แล้ว ก็มีโอกาสลุ้นแชมป์สูงเหมือนกันภายใต้การนำของ โค้ชโชคทวี พรหมรัตน์ ยิ่งหาก เฮแบร์ตี้ จูนเข้ากับทีมได้เร็ว โอกาสลุ้นแชมป์มียาวๆแน่นอนครับ
ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด
ความจริงหลายสื่อ เริ่มที่จะไม่มองพลพรรค "แข้งเทพ" เนื่องจากล้มเหลวมาหลายปี แต่หากมองไปที่ขุมกำลังผู้เล่น ก็นับว่ายังไม่สามารถตัดชื่ออกไปได้จริงๆ เเม้ปีนี้จะเสริม ฮาจิเมะ โฮโซไก เข้ามาคนเดียวในโควตาเอเชีย ซึ่งต้องบอกว่าเป็นอะไรที่ผิดแปลกแหวกแนวมากๆ สำหรับแนวทางการทำทีมที่ปกติแล้วจะใช้เม็ดเงินทุ่มซื้อแข้งฝีเท้าดีเข้าทีมทุกปี แต่สิ่งที่ยังอยู่ก็คือ โค้ชคนเดิมอย่าง มาโน่ โพลกิ้ง นั่นเอง นับเป็นการเดิมพันธ์เก้าอี้ของเขาครั้งสุดท้ายแล้วจริงๆในซีซั่นนี้ ผู้เล่นก็คงเป็นแกนหลักจากปีที่แล้วทั้งหมด เพราะทีมไม่ใช้เม็ดเงินซื้อใครเลย ตัวต่างชาติก็ยังเป็น วานเดอร์ หลุยส์ , เอเวอร์ตัน กอนซัลเวส และ เนลสัน โบนีญ่า ส่วนผู้เล่นไทย ถือว่าดีกรีเยี่ยม ทั้ง ชนานันท์ ป้อมบุปผา , ปกเกล้า อนันต์ , สรวัชญ์ เดชมิตร , ทริสตอง โด , พีรพัฒน์ โน้ตชัยยา ฯลฯ แต่ดูแล้วปัญหาของพวกเขาก็น่าจะยังคงเป็นเกมรับที่คอยตามหลอกหลอน หากปีนี้แก้ปัญหาตรงนี้ได้ โอกาสก็น่าจะพอมี เพราะเป็นทีมที่เกมรุกสะเด่าและร้อนแรงมากอยู่แล้ว
นี่แหละครับ ก็คือการแต่งตัว และความพร้อมล่าสุดของ 4 ทีม ที่คาดว่าน่าจะมีโอกาสลุ้นแชมป์ไทยลีก มากที่สุดในปีนี้ ความจริงแล้วทีมที่ยังสอดแทรกได้ก็มีอีกหลายทีมนะครับ ทั้ง เอสซีจี เมืองทองฯ , บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่ปีนี้ทุ่มคลังมหาศาลในการคว้าผู้เล่นชั้นดีเข้ามา หรือแม้แต่ทีมระดับกลางหรือเล็ก ทั้ง ชลบุรี , พีที ประจวบ , ราชบุรี , สุโขทัย ฯลฯ ก็อาจจะก้าวขึ้นมาอยู่หัวแถวได้ทั้งสิ้น เพราะเวลานี้มาตรฐานลีกไทย ไม่ต่างกันมากแล้ว แฟนบอลชาวไทยอดใจรอกันอีก 2 สัปดาห์นะครับ ความมันส์ของศึกไทยลีก 2020 ก็จะเปิดฉากขึ้นแล้ว จำให้แม่นเลยว่า วาเลนไทน์ ปีนี้ คือวันเปิดฉากไทยลีก ซึ่งสามารถติดตามชมการถ่ายทอดสดครบทั้ง 240 แมตช์ ได้ทางทรูวิชั่นส์ เช่นเคยครับ
ส่วนประเด็นร้อนบอลไทย ฉบับที่ 26 วันนี้ คงต้องขอตัวอำลาไปก่อน แล้วเดี๋ยวกลับมาพบกันใหม่ในสัปดาห์หน้านะคร้าบบบ สวัสดีครับทุกคน!!!
NickyMAN