TNN online อินเดียเปิดตัวระบบ "e-RUPI" เข้าถึงสวัสดิการของรัฐได้แบบดิจิทัล

TNN ONLINE

Tech

อินเดียเปิดตัวระบบ "e-RUPI" เข้าถึงสวัสดิการของรัฐได้แบบดิจิทัล

ระบบ e-RUPI เข้าถึงสวัสดิการของรัฐได้ในรูปแบบ QR codes หรือข้อความ SMS ในรูปแบบของ E-vouchers

ระบบ e-RUPI คือแพลตฟอร์มการชำระเงินผ่านมือถือที่ออกแบบมาเพื่อส่งมอบสวัสดิการของรัฐบาลอินเดียให้แก่ประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมจำกัดการใช้จ่ายที่ผิดผ่านระบบสวัสดิการสังคมของประเทศ เราสามารถใช้ระบบ e-RUPI ได้ผ่านโทรศัพท์มือถือโดยที่ไม่จำเป็นต้องมีบัญชีธนาคาร และสามารถใช้สวัสดิการต่าง ๆ ได้ด้วยระบบ QR codes หรือข้อความ SMS ในรูปแบบของ E-vouchers  ทั้งนี้ e-RUPI จะครอบคลุมสวัสดิการหลาย ๆ อย่างของอินเดีย เช่นการไปหาหมอ หรือการซื้ออาหารเป็นต้น 


ระบบดังกล่าวจะถูกนำไปใช้กับภาคสวัสดิการและการดูแลสุขภาพก่อน โดยรัฐบาลมีแผนที่จะค่อย ๆ ขยาย e-RUPI ไปยังภาคอื่น ๆ ด้วย เช่น โครงการบริการและผลประโยชน์จากธุรกิจ

อินเดียเปิดตัวระบบ e-RUPI เข้าถึงสวัสดิการของรัฐได้แบบดิจิทัล

รัฐบาลจีนเคยมอบเงินสวัสดิการให้แก่ประชาชนผ่านทางธนาคารหลายรอบแล้ว แต่พบว่าเงินจำนวนดังกล่าวถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด หรือที่ไม่ดีบ่อยมาก เช่นเอาไปเล่นการพนันเป็นต้น E-RUPI พัฒนาขึ้นโดย National Payments Corporation of India ที่ได้ทำการจับมือกับหน่วยงานด้านการเงินของประเทศ และกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการครอบครัว Ministry of Health and Family Welfare 


อินเดียเปิดตัวระบบ e-RUPI เข้าถึงสวัสดิการของรัฐได้แบบดิจิทัล


อย่างไรก็ตาม อินเดียพยายามที่จะแก้ปัญหาเรื่องคนยากจนในประเทศ ให้สามารถรับสวัสดิการของภาครัฐได้อย่างครบถ้วนมาอย่างช้านานแล้ว อาทิเมื่อปี 2014 ทางรัฐบาลอินเดียได้ทำการเริ่มโครงการ "Digital India" สำหรับแปลงเอกสารทางการให้กลายเป็นเอกสารดิจิทัลทั้งหมด ปรับให้บัญชีธนาคารสามารถเชื่อมกับโทรศัพท์มือถือและบัตรประจำตัวประชาชน ซึ่งจะมาพร้อมกับข้อมูลไบโอเมตริก (เทคโนโลยีที่ใช้เพื่อยืนยันตัวตนบุคคล) ที่จะช่วยให้สามารถจ่ายเงินบรรเทาทุกข์ได้โดยตรง และมีประสิทธิภาพมากขึ้น


นอกจากนี้อินเดียยังมีค่าธรรมเนียมด้านโทรคมนาคมที่ค่อนข้างถูกกว่ามาตรฐานสากลมาก ทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงมือถือสมาร์ทโฟนได้อย่างเป็นวงกว้าง มีอัตราการเป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนอยู่ที่ 64% ในปีที่แล้ว


อินเดียเปิดตัวระบบ e-RUPI เข้าถึงสวัสดิการของรัฐได้แบบดิจิทัล  

แหล่งที่มา asia.nikkei.com

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง