TNN online แฮ็กเกอร์ป่วน! วางยาระบบน้ำในฟลอริดา เสี่ยงตายยกเมือง!

TNN ONLINE

Tech

แฮ็กเกอร์ป่วน! วางยาระบบน้ำในฟลอริดา เสี่ยงตายยกเมือง!

แฮ็กเกอร์ป่วน! วางยาระบบน้ำในฟลอริดา เสี่ยงตายยกเมือง!

แฮ็กเกอร์มือดีแอบเพิ่มระดับโซเดียมไฮดรอกไซด์ในระบบน้ำของโอลด์สมาร์ รัฐฟลอริดา (Oldsmar, Florida) จนถึงขั้นที่เรียกได้ว่า ‘อันตรายถึงขีดสุด’

เมื่อเร็ว ๆ นี้มีประเด็นร้อนที่เกือบทำให้คนทั้งเมืองต้องตกเป็นอันตรายเกิดขึ้นที่โอลด์สมาร์ รัฐฟลอริดา (Oldsmar, Florida) ในสหรัฐอเมริกา โดยมือดีแอบแฮ็กระบบจ่ายน้ำของเมืองและปรับค่าสารเคมีให้ปนเปื้อนในน้ำจนอยู่ในระดับที่เป็นอันตรายต่อชีวิต เคราะห์ดีที่เจ้าหน้าที่พบความผิดปกติทันและสามารถแก้ไขสถานการณ์เอาไว้ได้ ก่อนที่น้ำจะไหลไปให้ประชาชนใช้ทั่วเมือง

แฮ็กเกอร์ป่วน! วางยาระบบน้ำในฟลอริดา เสี่ยงตายยกเมือง!

เหตุเกิดขึ้นในเช้าวันศุกร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แฮ็กเกอร์ได้ทำการเจาะระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่โรงบำบัดน้ำ Oldsmar รัฐฟลอริดา และได้ทำการเปลี่ยนระดับโซเดียมไฮดรอกไซด์ (sodium hydroxide) ซึ่งใช้ในการกำจัดโลหะ และควบคุมความเป็นกรด โดยปรับจากอัตราส่วนเดิมคือ 100 ส่วนต่อล้าน ให้กลายเป็น 11,100 ส่วนต่อล้าน โดยข้อมูลนี้ถูกเปิดเผยโดย Bob Gualtieri ซึ่งดำรงตำแหน่งนายอำเภอของเมือง Pinellas ซึ่งเขายังได้กล่าวกับสื่อว่านี่เป็นระดับความเปลี่ยนแปลงที่มีอันตรายถึงชีวิตเลยทีเดียว

แฮ็กเกอร์ป่วน! วางยาระบบน้ำในฟลอริดา เสี่ยงตายยกเมือง!

โดยตอนที่แฮ็กเกอร์เจาะระบบเข้ามาครั้งแรกนั้นคือช่วงประมาณ 8.00 น. ก่อนที่จะออกไปและกลับเข้ามาอีกครั้งราว ๆ 13.30 น. และใช้เวลาประมาณ 3-5 นาทีในระบบ ซึ่งตอนที่แฮ็กเกอร์กำลังเลื่อนเมาส์ไปมาบนหน้าจอเพื่อปรับแต่งค่าแรงดันต่าง ๆ นั้น ก็มีพนักงานสังเกตเห็นความผิดปกตินี้อยู่ด้วยแต่ไม่สามารถทำอะไรได้เนื่องจากคอมพิวเตอร์ถูกควบคุมในระยะไกล แต่เมื่อแฮ็กเกอร์ออกไปแล้วเขาก็รีบจัดการปรับค่าเคมีในน้ำให้กลับมาอยู่ระดับเดิมทันที ไม่เช่นนั้นแล้วน้ำที่ปนเปื้อนโซเดียมไฮดรอกไซด์ในปริมาณที่สูงเกินไปนี้ก็จะถูกส่งไปยังบ้านเรือนต่าง ๆ และอาจจะถูกดื่มกินจากประชาชนทั่วไปได้ อย่างไรก็ตามนายอำเภอก็ได้เพิ่มเติมว่าในกรณีที่น้ำปนเปื้อนก็จะมีระบบป้องกันเพิ่มเติมเพื่อไม่ให้น้ำที่ปนเปื้อนนี้เข้าถึงประชาชนได้ง่าย ๆ เช่นกัน

แฮ็กเกอร์ป่วน! วางยาระบบน้ำในฟลอริดา เสี่ยงตายยกเมือง!

ซึ่งในตอนนี้ทางการก็กำลังสืบสวนร่วมกันกับสำนักงานสอบสวนกลางแห่งสหรัฐอเมริกา (Federal Bureau of Investigation) และหน่วยสืบราชการลับ (The U.S. Secret Service) เพื่อหาว่าแฮ็กเกอร์ที่เจาะระบบจากภายในประเทศ หรือดำเนินการจากนอกประเทศกันแน่ และก็ได้มีการกำชับให้ตรวจสอบและอัปเดตระบบให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

ขอบคุณข้อมูลจาก

เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
facebook live : TNN Live
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNThailand
Instagram : @tnn_online
TIKTOK : @tnnonline

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง