TNN IBM โชว์เคส Gen AI “Watson X” หนุนใช้งานภาครัฐ-ธุรกิจสิงคโปร์

TNN

Tech

IBM โชว์เคส Gen AI “Watson X” หนุนใช้งานภาครัฐ-ธุรกิจสิงคโปร์

IBM โชว์เคส Gen AI “Watson X” หนุนใช้งานภาครัฐ-ธุรกิจสิงคโปร์

ชมสรุปงาน IBM Think 2023 ส่งตรงจากประเทศสิงคโปร์ พบกับเวทีเสวนา โชว์เคสการใช้เทคโนโลยี Generative AI watsonx ยกระดับการทำงานภาครัฐ ภาคธุรกิจ ภาคเอกชนให้ดียิ่งขึ้น

IBM จัดานใหญ่ประจำปี "Think 2023" ขึ้นที่ประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา ภายในตีมงาน "Your Roadmap To Innovation" ซึ่งปีนี้ยังถือเป็นโอกาสพิเศษครบรอบ 70 ปีของ IBM ในประเทศสิงคโปร์อีกด้วย


IBM โชว์เคส Gen AI “Watson X” หนุนใช้งานภาครัฐ-ธุรกิจสิงคโปร์ ภาพจาก IBM

ความพิเศษของงาน IBM ในสิงคโปร์

ก่อนหน้านี้ IBM ได้มีการลงทุนในสิงคโปร์อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นประเทศภูมิศาสตร์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ที่มีการเติบโตด้านนวัตกรรมดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าตลาดไอทีของสิงคโปร์จะเติบโตมากกว่าร้อยละ 8 ในปีนี้ 2023 นี้ และปรับตัวเพิ่มในปี 2024 


โดยไฮไลต์ของปีนี้ คือ การเปิดตัว IBM watsonx ซึ่งเป็น Generative AI หรือปัญญาประดิษฐ์เชิงสร้างสรรค์สำหรับองค์กร (Enterprise-ready AI) ที่สามารถนำไปใช้งานได้หลากหลาย เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจ ผ่าน 3 ผลิตภัณฑ์ภายใต้ watsonx ได้แก่ 

- watsonx.ai สำหรับพัฒนา AI

- watsonx.data สำหรับการประมวลผล 

- watsonx.governance สำหรับการกำกับดูแล AI


IBM โชว์เคส Gen AI “Watson X” หนุนใช้งานภาครัฐ-ธุรกิจสิงคโปร์ ภาพจาก IBM

 

โชว์ผลงานผู้ช่วยเอไอหนุนงานภาครัฐและธุรกิจ

นอกจากภาคธุรกิจแล้ว ในงานครั้งนี้ยังได้โชว์ความสามารถของ IBM watsonx ผ่าน "Watson Assistant" ซึ่งเป็นตัวช่วยให้บริการประชาชน และอำนวยความสะดวกให้กับภาคธุรกิจ เช่น กลุ่ม SMEs และ Startups 


โดย Watson Assistant จะช่วยให้ประชาชนสามารถค้นหาข้อมูลและโต้ตอบกับระบบด้วยภาษาที่เป็นธรรมชาติได้จากแพลตฟอร์มเดียว ไม่ต้องใช้หลายแพลตฟอร์ม จึงประหยัดเวลา และข้อมูลที่ AI นำมาประมวลผลยังเป็นข้อมูลที่น่าเชื่อถือจากภาครัฐ จึงมั่นใจได้ในเรื่องความถูกต้องของข้อมูลที่ประชาชนจะได้รับ ทั้งนี้ก็เพื่อยกระดับ Digital Government หรือ รัฐบาลดิจิทัล พร้อมสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ประชาชน

 

IBM โชว์เคส Gen AI “Watson X” หนุนใช้งานภาครัฐ-ธุรกิจสิงคโปร์ ภาพจาก IBM

งานปีนี้ IBM ยังได้รับเกียรติจาก รัฐมนตรี โจเซฟีน เตียว (Josephine Teo) ที่ให้เกียรติมาร่วมงาน และกล่าวถึงการพัฒนาแพลตฟอร์มและระบบต่าง ๆ ร่วมกับ IBM และพันธมิตรต่าง ๆ เพื่อพัฒนาประเทศ เช่น AI Verify การวางกรอบแนวทางการกำกับดูแลการใช้ AI และการนำ AI มาใช้ประเมินความเสี่ยงด้านสินเชื่อ (Credit Risk)


นอกจากนี้ ท่านรัฐมนตรี ยังได้เข้าชมสาธิต และทดลองใช้งานเทคโนโลยีต่าง ๆ ภายในงานรวมถึง Smart Glasses แว่นตาอัจฉริยะ ที่ผสานเทคโนโลยี AI-powered visual inspection และ AR-assisted real-time remote assistance ตัวแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 


แว่นตาอัจฉริยะนี้จะถูกนำไปใช้ร่วมกับรถดับเพลิงของหน่วยงานดับเพลิงของประเทศ หรือ Singapore Civil Defence Force (SCDF) บนเครือข่าย 5G ทำให้ระบบสามารถประมวลผลได้อย่างทันที ช่วยให้นักดับเพลิงสามารถตรวจสอบสภาพความสมบูรณ์อุปกรณ์ของรถดับเพลิงก่อนที่จะออกไปปฏิบัติภารกิจจริง และช่วยให้การทำงานภาคสนาม เช่น ทำให้ทีมสนับสนุนสามารถมองเห็นภาพสถานการณ์จริง ผ่านแว่นตาของทีมภาคสนามได้ และให้คำแนะนำได้อย่างทันท่วงที


IBM โชว์เคส Gen AI “Watson X” หนุนใช้งานภาครัฐ-ธุรกิจสิงคโปร์ ภาพจาก IBM

 

สู่ยุคของคอมพิวเตอร์ควอนตัม

อีกหนึ่งไฮไลต์ของงานครั้งนี้ คงต้องยกให้กับ Quantum Computing คอมพิวเตอร์ควอนตัม โดยล่าสุดได้นำตัวชิป Osprey ขนาด 433-qubit ที่พัฒนาในปี 2022 มาแสดงภายในงานนี้ด้วย โดย Computer Quantum ถือว่าเป็น Game Changer แห่งโลกอนาคต เพราะช่วยให้การประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาล และมีความซับซ้อนเกินกว่าคอมพิวเตอร์ทั่วไปจะประมวลได้ มีความแม่นยำมากขึ้น ประมวลได้เร็วขึ้น ขณะเดียวกันก็มีต้นทุนที่ต่ำลงอีกด้วย


สำหรับตัวอย่างประโยชน์ในการใช้งาน เช่น การใช้งานในวงการพัฒนา "ยา" ช่วยคิดค้นและผลิตยา (Drug Discovery), การคิดค้นแบตเตอรี่ชนิดใหม่ รับกระแสความนิยมของรถพลังงานไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น และแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแร่ธาตุหายากที่นำมาใช้ผลิตแบตเตอรี่ลิเธียม ไปจนถึงการผลิตวัสดุชนิดใหม่ต่าง ๆ ได้ถึงระดับชั้นอะตอม ซึ่ง IBM ได้ตั้งเป้าสร้าง Quantum Computing ขนาด 100,000-qubit ให้สำเร็จภายในปี 10 ปีต่อจากนี้ หรือภายในปี 2033 


IBM โชว์เคส Gen AI “Watson X” หนุนใช้งานภาครัฐ-ธุรกิจสิงคโปร์ ภาพจาก IBM

แต่ยังไม่ทิ้งเรื่องความปลอดภัย

อีกสิ่งหนึ่งที่มาพร้อมกับการพัฒนา Quantum Computing ก็คือ การพัฒนาระบบด้านความปลอดภัย BM จึงได้พัฒนา IBM Quantum Safe ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่จะช่วยป้องกันการถูกเจาะข้อมูลจากอาชกรไซเบอร์ ไม่ว่าจะเป็น 

- Fraud Authenticity การฉ้อโกง

- Forge Digital Signature การปลอมแปลงลายเซ็น 

- Harvest Now, Decrypt Later หรือการที่ผู้ไม่ประสงค์ดีขโมยและจัดเก็บไฟล์ที่เข้ารหัสไว้ และนำมาถอดรหัสภายหลัง ในช่วงที่คอมพิวเตอร์ควอนตัมมีการใช้งานที่สูงขึ้นในอนาคต


IBM โชว์เคส Gen AI “Watson X” หนุนใช้งานภาครัฐ-ธุรกิจสิงคโปร์ ภาพจาก IBM

นอกจากนี้ ยังมี ระบบการจัดการป้องกันการโจมตี (Attack Surface Management) ชื่อ รันโดริ (Randori) ช่วยตรวจสอบการโจมตีทางไซเบอร์ขององค์กร ซึ่งสามารถรายงานผลได้แบบทันที ช่วยให้องค์กรป้องกันการจู่โจมได้ทันท่วงที ซึ่งในงานนี้ได้มีการจำลองให้เห็นลักษณะของการโจมตีเป็นภาพสามมิติ ในขณะที่ซอฟต์แวร์จริงจะเป็นการแสดงผลแบบสองมิติบนหน้าจอทั่วไป


IBM โชว์เคส Gen AI “Watson X” หนุนใช้งานภาครัฐ-ธุรกิจสิงคโปร์ ภาพจาก IBM

และที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ก็คือผลงานของทีม IBM IX กับ Immersive Digital Experience ที่ผสานพลังของ Gen AI  ซึ่งปัจจุบัน IBM ได้นำเทคโนโลยีนี้มาใช้แล้ว ในการให้บริการด้านทรัพยากรบุคคลภายในองค์กร โดยสามารถให้ข้อมูล ตอบโต้ และให้คำปรึกษาด้านต่าง ๆ กับพนักงานที่มีข้อสงสัยในรูปแบบ Metaverse ได้ ช่วยให้ฝ่ายบุคคลสามารถที่จะใช้เวลาที่เหลือไปพัฒนางานส่วนอื่น ๆ ได้มากขึ้น


IBM โชว์เคส Gen AI “Watson X” หนุนใช้งานภาครัฐ-ธุรกิจสิงคโปร์ ภาพจาก IBM

นอกจากนี้ในงานยังมีการเสวนาในหัวข้อต่าง ๆ ที่น่าสนใจ เช่น การนำเทคโนโลยี 5G และ AI มาใช้งานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนของประเทศสิงคโปร์, การควบคุมกำกับการใช้งาน AI ไปจนถึงการนำ AI มาใช้งานพัฒนาประเทศในกลุ่ม อาเซียนซีเค (ASEANZK) หรือประเทศกลุ่มอาเซียน นิวซีแลนด์ และเกาหลีใต้ 


IBM โชว์เคส Gen AI “Watson X” หนุนใช้งานภาครัฐ-ธุรกิจสิงคโปร์ ภาพจาก IBM

สุดท้ายในงานที่เรียกฮือฮาได้ไม่แพ้นวัตกรรมในงานก็คือหุ่นยนต์เอไอแขนกล “น้องเอลลา” บาริสตาสุดไฮเทคที่คอยชงเครื่องดื้มให้กับบรรดาผู้เข้าร่วมงาน ซึ่งต้องบอกว่าดูจากแถวเข้าคิวแล้ว ฝีมือการทำกาแฟของน้องคนนี้อร่อยไม่แพ้บาริสต้าตัวจริง


IBM โชว์เคส Gen AI “Watson X” หนุนใช้งานภาครัฐ-ธุรกิจสิงคโปร์ ภาพจาก IBM

IBM คาดการณ์ว่า จากนี้ในอีก 10 ปีข้างหน้า แม้ว่า Core Technologies ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ข้อมูล, ความปลอดภัย, AI, Automation, Hybrid Cloud และ Quantum จะถูกพัฒนาและใช้งานอย่างต่อเนื่องเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะ Quantum ที่มีพลังมากพอในการเร่งกระบวนการคิดค้น การผลิตต่าง ๆ ในทุกภาคอุตสาหกรรม แต่ในขณะที่โลกหมุนเร็วขึ้น เราทุกคนก็ต้องเริ่มใส่ใจและเริ่มวางแผนป้องกันความปลอดภัยของข้อมูล ซึ่งถือเป็นความรับผิดชอบของทุกภาคส่วนร่วมกัน

ข่าวแนะนำ