TNN online Google อบรมความปลอดภัยไซเบอร์โครงการ Be Internet Awesome ให้ครูและนักเรียนไทยไปแล้ว 3.4 ล้านคน

TNN ONLINE

Tech

Google อบรมความปลอดภัยไซเบอร์โครงการ Be Internet Awesome ให้ครูและนักเรียนไทยไปแล้ว 3.4 ล้านคน

Google อบรมความปลอดภัยไซเบอร์โครงการ Be Internet Awesome  ให้ครูและนักเรียนไทยไปแล้ว 3.4 ล้านคน

Google อบรมความปลอดภัยไซเบอร์โครงการ Be Internet Awesome ให้ครูและนักเรียนไทยไปแล้ว 3.4 ล้านคน

ในปี 2565 “การกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์” (Cyberbullying) เป็นหนึ่งในหัวข้อด้านความปลอดภัยไซเบอร์ที่ผู้คนให้ความสนใจค้นหาบน Google มากเป็นอันดับต้นๆ โดยมีการค้นหาเพิ่มขึ้นถึง 60% เมื่อเทียบกับปี 2564 ดังนั้น การลงทุนลงแรงเพื่อปกป้องเด็กและเยาวชนที่เป็นอนาคตของประเทศจึงเป็นเรื่องสำคัญ


เมื่อ 3 ปีที่แล้ว Google ได้เปิดตัวโครงการ Be Internet Awesome ที่โรงเรียนพญาไท กรุงเทพฯ เพื่อสอนเด็กๆ เกี่ยวกับพื้นฐานการเป็นพลเมืองดิจิทัลที่ดี รวมทั้งเป็นแหล่งข้อมูลด้านความปลอดภัยดิจิทัลสำหรับคุณครูเพื่อนำไปสอนเด็กๆ ในชั้นเรียน 


ตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน Google ได้ฝึกอบรมครูและนักเรียนไปแล้วกว่า 3.4 ล้านคน ด้วยความร่วมมือจากกระทรวงศึกษาธิการ และกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย และเนื่องในเดือนแห่งการใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย (Safer Internet Month) ทีมงาน Google ได้กลับไปที่โรงเรียนพญาไทอีกครั้งเพื่อแชร์ผลลัพธ์อันน่าประทับใจของโครงการ Be Internet Awesome


จากงานวิจัยของ Kantar ที่นำเสนอข้อมูลเชิงลึกจากการสำรวจความคิดเห็นของครูผู้สอนที่ผ่านการฝึกอบรมในโครงการ Be Internet Awesome พบว่า บรรดาคุณครูต่างยกให้ Be Internet Awesome เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในประเทศไทยในการสอนเรื่องความปลอดภัยออนไลน์ โดย 93% กล่าวว่า Be Internet Awesome เป็นประโยชน์อย่างมากในการสอนเด็กๆ เรื่องความปลอดภัยบนโลกออนไลน์ และทุกคนยอมรับว่า Be Internet Awesome ช่วยให้นักเรียนมีความระมัดระวังในการใช้งานออนไลน์มากยิ่งขึ้น ในขณะที่ 99% ยอมรับว่าตั้งแต่สอน Be Internet Awesome พวกเขาเห็นนักเรียนมีปฎิสัมพันธ์ทางออนไลน์ในเชิงบวกมากขึ้น ครูส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะแนะนำโครงการ Be Internet Awesome ให้กับครูคนอื่นๆ เพราะเห็นว่า Be Internet Awesome มีประสิทธิภาพในการสอนเรื่องความปลอดภัยออนไลน์มากกว่าเครื่องมือหรือแพลตฟอร์มอื่นๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน


นอกจากนี้ ยังมีเรื่องราวสร้างแรงบันดาลใจที่แสดงให้เห็นว่าโครงการ Be Internet Awesome ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับชีวิตของครู นักเรียน และครอบครัวอีกด้วย อย่างเช่นเรื่องราวของนักเรียนคนหนึ่งในจังหวัดยะลาที่บัญชีโซเชียลมีเดียถูกแฮ็กเพราะตั้งรหัสผ่านที่คาดเดาได้ง่ายเกินไป หลังจากที่น้องได้เรียนเรื่อง Be Internet Strong ในชั้น ม. 4 น้องก็เข้าใจวิธีตั้งรหัสผ่านให้รัดกุมขึ้น และเป็นตัวอย่างให้กับเพื่อนๆ ในชั้นเดียวกัน จากนั้นน้องก็ทำโครงการส่งเสริมเรื่องการรู้เท่าทันสื่อดิจิทัลให้กับรุ่นน้องโดยใช้ Be Internet Awesome อีกหนึ่งเรื่องราวที่น่าสนใจเป็นเรื่องราวของน้องนักเรียนชั้น ป. 6 ในจังหวัดร้อยเอ็ดที่มีคนแปลกหน้าติดต่อมาทางออนไลน์เพื่อขอข้อมูลส่วนตัว แต่น้องจำสิ่งที่เรียนจากเรื่อง Be Internet Brave ได้ จึงบล็อกคนนั้นไป และเล่าเหตุการณ์ที่เจอให้ครูฟัง


นอกจากโครงการ Be Internet Awesome แล้ว สำหรับปีนี้ Google ยังมีแผนที่จะเปิดใช้งาน ChromeOS Flex สำหรับโรงเรียนที่ขาดแคลนทรัพยากรด้วย โดย ChromeOS Flex เป็นระบบปฏิบัติการที่ออกแบบมาเพื่อช่วยปรับปรุงอุปกรณ์เดิมที่มีอยู่แล้วให้ทันสมัยยิ่งขึ้น ซึ่งใช้ได้กับทั้ง PC และ Mac และไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ในการดาวน์โหลด ChromeOS Flex จะช่วยเพิ่มความเร็วและเสริมความปลอดภัยให้กับอุปกรณ์รุ่นเก่าๆ ของโรงเรียน ทำให้การเรียนการสอนมีความทันสมัยและราบรื่นเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งจะช่วยให้นักเรียนเข้าถึงการเรียนรู้ได้ดียิ่งขึ้น 


โดยได้เริ่มนำร่องการใช้งาน ChromeOS Flex ในพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 2 ในไตรมาสนี้แล้ว และกำลังช่วยดำเนินการปรับโฉมอุปกรณ์ของโรงเรียนกว่า 100 แห่งให้กลายเป็นอุปกรณ์ที่รวดเร็วจัดการง่าย และใช้ระบบคลาวด์เป็นหลัก และตั้งเป้าที่จะช่วยเหลือโรงเรียนจำนวน 500 แห่งภายในปีนี้


อินเทอร์เน็ตควรเป็นพื้นที่สำหรับการศึกษา การเรียนรู้ แะเป็นประตูที่เปิดสู่โอกาสอีกมากมาย พันธกิจ Leave No Thai Behind ของ Google คือการช่วยให้ทุกคนได้ใช้ประโยชน์และเข้าถึงโอกาสที่มาพร้อมกับอินเทอร์เน็ตอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งสร้างทักษะ ความรู้ และความตื่นตัวในการใช้แพลตฟอร์มออนไลน์อย่างชาญฉลาดและรู้เท่าทัน


แจ็คกี้ หวาง

Country Director, Google Thailand


ที่มาของข้อมูลและรูปภาพ Thailand.googleblog.com 

 



ข่าวฮิตติดแท็ก

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง